ไต ทำหน้าที่ในการทำความสะอาดเลือด ด้วยการกำจัดของเสียและน้ำออกจากร่างกาย หากไตทำงานได้ไม่ถูกต้อง อาจต้องมีการ ฟอกไต (Kidney Dialysis) เพื่อช่วยการทำงานของไต
ข้อมูลพื้นฐาน
การ ฟอกไต (Kidney Dialysis) คืออะไร
ไต คือ อวัยวะคู่หนึ่งที่มีขนาดแต่ละข้างประมาณกำปั้น อยู่ที่กระดูกสันหลังทั้งสองด้าน มีหน้าที่ในการทำความสะอาดเลือด โดยการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย หากไตทำงานได้ไม่ถูกต้อง อาจจำเป็นที่จะต้องมีการฟอกไต (Kidney Dialysis) เพื่อช่วยในการทำงานของไต
การฟอกไตมีสองชนิดดังนี้
- ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) ทำการฟอกเลือดโดยใช้เครื่องไตเทียม (dialyzer) และเครื่องฟอกไต (Dialysis machine)
- ฟอกไตทางช่องท้อง (Peritoneal dialysis): ทำการฟอกเลือดภายในร่างกาย หลังจากที่ภายในช่องท้องเต็มไปด้วยสารละลายพิเศษ สำหรับทำความสะอาด
ในปัจจุบันนี้มีคนจำนวนมากขึ้นทั่วทั้งโลก ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นโรคไตและจำเป็นต้องทำการฟอกไต
ความจำเป็นในการ ฟอกไต
หากไตของคุณทำงานได้ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโรคไตเรื้อรังขึ้นรุนแรง (โรคไตวาย) ไตของคุณอาจไม่สามารถทำความสะอาดเลือดได้อย่างถูกต้อง ทำให้ของเสียและน้ำส่วนเกินสะสมภายในร่างกายในระดับอันตราย
หากไม่รับการรักษา อาจทำให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์หลายประการ และสุดท้ายก็จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต การฟอกไต จะกรองเอาสารและน้ำที่ไม่ต้องการออกจากเลือด ซึ่งก่อนหน้านั้น แพทย์อาจจะช่วยให้คำแนะนำว่า คุณควรเริ่ม การฟอกไต เมื่อไหร่ โดยขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยด้านล่างนี้
- สุขภาพโดยรวม
- การทำงานของไต
- สัญญาณและอาการ
- คุณภาพชีวิต
- ความชอบส่วนบุคคล
คุณอาจสังเกตเห็นสัญญาณและอาการของโรคไตวาย หรือยูเรเมีย (Uremia) เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน บวม หรือเหนื่อยล้า แพทย์อาจใช้อัตราการกรองของไต เพื่อวัดระดับการทำงานของไต ค่าของอัตราการกรองของไตนั้นคำนวนโดยใช้ผลการตรววจครีอะตินีนในเลือด (Blood creatininetest results) เพศ อายุ และปัจจัยอื่นๆ
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงของการฟอกไต
แม้ว่าทั้ง การฟอกไต ทางช่องท้องและฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมนั้นสามารถช่วยชีวิตของคุณได้ แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงบางอย่างได้
การฟอกไต ทางช่องท้องนั้นเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อตรงบริเวณที่ใส่ท่อสวนในช่องท้อง เช่น ผู้ที่เคยมีภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่เยื่อบุภายในผนังช่องท้องหลังจากที่ทำการใส่ท่อสายสวน (catheter) และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ มีดังนี้
- กล้ามเนื้อช่องท้องอ่อนแรง
- น้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากน้ำตาลเด็กซ์โทรส (Dextrose) ในน้ำยาฟอกเลือด (Dialysate)
- น้ำหนักเพิ่ม
ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมก็อาจมีความเสี่ยงโดยเฉพาะดังนี้
- ความดันโลหิตต่ำ
- โลหิตจาง หรือมีเซลล์เม็ดเลือดแดงไม่พอ
- ตะคริว
- นอนไม่หลับ
- คัน
- ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง
- โรคซึมเศร้า
- ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่เยื่อบุรอบ ๆ หัวใจ
หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ขณะที่ยังคงทำการฟอกไตทางช่องท้อง หรือฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ควรแจ้งให้ผู้ดูแลสุขภาพที่ทำ การฟอกไต ทราบ ผู้ที่ทำการฟอกไตในเวลานาน ยังอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะทางการแพทย์อื่น ๆ รวมไปถึงภาวะแอมีลอยโดซิส (Amyloidosis) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดเมื่อระดับของโปรตีนแอมีลอยด์ที่สร้างขึ้นในไขกระดูกนั้นสะสมอยู่ในไต ตับ หัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ
สิ่งที่สำคัญคือควรทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อน ก่อนเริ่มกระบวนการนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ โปรดปรึกษากับแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอน
การเตรียมตัวสำหรับ การฟอกไต
การเตรียมตัวสำหรับฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมนั้น ใช้เวลาหลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน ก่อนเริ่มกระบวนการ
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการฟอกไต
การฟอกไต เป็นการรักษาเพื่อช่วยชีวิตที่มีการใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อกำจัดของเสียที่อันตรายอย่างเกลือและน้ำส่วนเกินภายในเลือดออกไป ทำให้เลือดกลับมาเป็นปกติและมีสมดุลอย่างสุขภาพดี การฟอกไตนั้นทดแทนการทำงานที่สำคัญของไตหลาย ๆ ประการ
ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมนั้นเป็นการฟอกไตที่พบได้มาก จะใช้เครื่องไตเทียม (Hemodialysis) เพื่อกำจัดของเสียและสารเคมีภายในเลือด
เพื่อให้สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างง่ายดาย ศัลยแพทย์จะสร้างเส้นฟอกเลือด (Vascular access) เส้นฟอกเลือดนี้จะทำให้เลือดปริมาณมากไหลเวียนในร่างกายขณะที่ทำการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ทำให้มีเลือดที่ถูกกรองให้สะอาดมากขึ้น
ระยะเวลาการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมนั้นมักจะนาน 3 ถึง 5 ชั่วโมง และมักจำเป็นต้องทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง แต่การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมการใช้เวลาสั้นกว่า และบ่อยกว่านั้น
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมส่วนใหญ่มักทำในโรงพยาบาลหรือศูนย์ฟอกไต ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับขนาดตัวและปริมาณของเสียในร่างกาย
ฟอกไตทางช่องท้อง
ฟอกไตทางช่องท้องนั้นเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดเพื่อใส่ท่อสายสวนเข้าไปในบริเวณช่องท้อง ขณะที่ทำการรักษา จะใช้ของเหลวแบบพิเศษที่เรียกว่าน้ำยาฟอกไตใส่เข้าไปในช่องท้อง เมื่อน้ำยาฟอกไตนั้นได้ดึงของเสียออกมาจากกระแสเลือดก็จะถูกถ่ายออกจากช่องท้อง
ฟอกไตทางช่องท้องนั้นมีหลายประเภท แต่ประเภทหลัก คือ การฟอกไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่องด้วยตนเอง (Continuous ambulatory peritoneal dialysis) และการฟอกไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่อง (Continuous cycler-assisted peritoneal dialysis)
- การฟอกไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่องด้วยตนเอง จะมีการเติมของเหลวและถ่ายออกวันละหลายๆ ครั้ง
- การฟอกไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่อง จะใช้เครื่องที่หมุนเวียนน้ำยาล้างไตเข้าและออกจากช่องท้องมักทำในเวลากลางคืนขระที่คุณหลับ
ฟอกไตทางช่องท้องสามารถทำได้ที่บ้าน แต่คุณจำเป็นจะต้องได้รับการฝึกเกี่ยวกับขั้นตอนในการรักษาดังกล่าวนี้
หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษากับแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การพักฟื้น
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการฟอกไต
หลังจากที่คุณหยุดฟอกไต ไตของคุณจะค่อยๆ ล้มเหลวต่ออีกครั้ง คุณไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ โดยปราศจากไตที่สามารถทำงานได้อย่างน้อยหนึ่งข้าง เว้นเสียแต่ว่าคุณจะทำการปลูกถ่ายไต หากคุณไม่ทำการปลูกถ่ายไต ก็จะต้องทำ การฟอกไต ไปตลอดชีวิต
คุณอาจจำเป็นต้องปรึกษากับนักโภชนาการ เกี่ยวกับการปรับอาหารเพื่อเพิ่มพลังงานในร่างกาย
การออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถช่วยได้เช่นกัน หากคุณเหนื่อยล้า และกำลังทำการฟอกไต การเริ่มต้นโปรแกรมออกกำลังกายตามปกติอาจจะยากเกินไป แต่หากคุณมีความพยายาม คุณจะพบว่าการออกกำลังกายนั้นง่ายขึ้นเรื่อยๆ
การออกกำลังกายแอโรบิคระดับเบาจนถึงระดับปานกลาง เช่น การปั่นจักรยาน การวิ่ง การเดิน หรือการว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายดีที่สุด แพทย์จะแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ
อาการน้ำหนักขึ้นนั้นอาจเป็นอาการแทรกซ้อนของฟอกไตทางช่องท้อง หากคุณกังวลว่าอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากเกินไป คุณควรปรึกษากับทีมผู้ทำ การฟอกไต ที่สามารถแนะนำวางแผนอาหารและการออกกำลังกายได้
หลีกเลี่ยงสูตรอาหารลดน้ำหนักที่อ้างว่า จะสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว การอดอาหารอย่างหนักแบบนี้จะทำให้สารเคมีในร่างกายปั่นป่วน และทำให้คุณรู้สึกป่วยอย่างมาก
อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและการฟอกไตทางช่องท้องสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยปกติแล้วจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า อาการเหนื่อยล้านั้นอาจเกิดได้จากการรวมกันของอาการเหล่านี้คือ
- การทำงานของไตที่ไม่ปกติ
- ผลกระทบของการฟอกไตต่อร่างกาย
- การจำกัดอาหารที่เกี่ยวข้องกับการฟอกไต
- ความเครียดและความวิตกกังวลโดยรวมที่ผู้ที่เป็นโรคไตวายหลายๆ คนประสบ
ผลข้างเคียงของฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมมีดังนี้
- ความดันโลหิตต่ำ
- ภาวะพิษเพราะติดเชื้อ
- เป็นไข้สูง 38 องศาเซียลเซียสขึ้นไป
- เป็นตะคริว
- คันที่ผิวหนัง
- นอนไม่หลับ
- ปวดที่กระดูกหรือข้อต่อ
- สูญเสียความต้องการทางเพศ และหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- ปากแห้ง
- วิตกกังวล
ผลข้างเคียงของ การฟอกไต ทางช่องท้อง มีดังนี้
- การติดเชื้อแบคทีเรียที่เยื่อบุช่องท้อง หรือภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
- ไส้เลื่อน
- น้ำหนักขึ้น
[embed-health-tool-bmi]