backup og meta

แมคคาเดเมีย ถั่วมหัศจรรย์ สารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 29/07/2020

    แมคคาเดเมีย ถั่วมหัศจรรย์ สารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพ

    แมคคาเดเมีย ถั่วรสชาติหวานมัน ที่ได้รับความนิยมในการรับประทานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ไม่ว่าจะนำมารับประทานเป็นของว่าง สอดใส้ในช็อกโกแลต หรือทำเป็นไอศกรีม แมคคาเดเมียนั้นนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของรสชาติที่แสนอร่อยแล้ว ยังเป็นถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และดีต่อสุขภาพอย่างมากอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ “แมคคาเดเมีย ถั่วมหัศจรรย์ มากประโยชน์ต่อสุขภาพ’

    แมคคาเดเมีย ราชาแห่งถั่ว ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร

    ถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia) นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งถั่ว เนื่องจากเป็นถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และโดยเฉพาะ ไขมันดี

    ในถั่วแมคคาเดเมีย 1 ออนซ์ จะให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

     พลังงาน  204 แคลอรี่
    ไขมัน"}’> ไขมัน

     23 กรัม

     โปรตีน

     2 กรัม

     คาร์โบไฮเดรต

     4 กรัม

     น้ำตาล

     1 กรัม

     ใยอาหาร

     3 กรัม

     แมงกานีส

     58% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

     ไทอามีน (Thiamine)

     22% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

     ทองแดง

     11% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

     แมกนีเซียม

     9% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

     ธาตุเหล็ก

     6% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

     วิตามินบี 6

     5% ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

    แมคคาเดเมียนั้นมีไมันสูงก็จริง แต่ไขมันกว่า 79% ที่พบในแมคคาเดเมียนั้นล้วนแล้วแต่ก็เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fats) หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็น ‘ไขมันดี’ (HDL) ไขมันเหล่านี้เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ เนื่องจากสามารถช่วยลด ‘ไขมันไม่ดี’ (LDL) ที่อยู่ในเลือดได้

    ประโยชน์ของ ถั่วแมคคาเดเมีย

    ดีต่อสุขภาพหัวใจ

    จากที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น ถั่วแมคคาเดเมีย นั้นอุดมไปด้วยไขมันดี ที่สามารถช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอล และไขมันไม่ดีที่อยู่ในกระแสเลือดได้

    งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันมูฟ่า (MUFA) สูง อย่างถั่วแมคคาเดเมีย สามารถช่วยทำให้สุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น นอกจากนี้ยังอาจสามารถช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอล และระดับของความดันโลหิต ซึ่งล้วนแล้วแต่ก็เป็นผลดีต่อสุขภาพหัวใจทั้งสิ้น

    อาจช่วยป้องกันมะเร็ง

    เนื่องจากในถั่วแมคคาเดเมียนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารฟลาโวนอยด์ (flavonoid) หรือวิตามินอี ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านการอักเสบ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยป้องกันความเสียหายต่อเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างถั่วแมคคาเดเมีย จึงอาจสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้นั่นเอง

    ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนลงพุง

    โรคอ้วนลงพุง (Metabolic syndrome) เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลในเลือดสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ และโรคสโตรก ซึ่งการรับประทานถั่วแมคคาเดเมีย อาจสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เหล่านี้ได้

    มีงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานถั่วแมคคาเดเมีย อาจสามารถช่วยป้องกันได้ทั้งโรคอ้วนลงพุง และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการลดระดับของน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (fasting blood sugar levels)

    งานวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานถั่วแมคคาเดเมียวันละ 28-84 กรัมต่อวัน จะมีระดับของน้ำตาลสะสมในเลือดลดลง (HbA1c) และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ในระยะยาว

    ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด

    มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า การรับประทานถั่วยืนต้น เช่น แมคคาเดเมีย อาจสามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ทำการทดลองกับหนูที่เป็นโรคเบาหวาน แล้วพบว่า หนูที่รับประทานอาหารที่มีไขมันมูฟ่าสูง อย่างถั่วแมคคาเดเมีย ร่วมกับการออกกำลังกาย จะสามารถลดระดับของค่าน้ำตาลสะสมได้มากกว่า หนูที่ออกกำลังกายเพียงแค่อย่างเดียว

    ข้อควรระวังในการกิน แมคคาเดเมีย

    • แคลอรี่สูง ถั่วแมคคาเดเมียนั้นมีแคลอรี่ที่สูงมาก การรับประทานแมคคาเดเมีย 1 ถ้วย หรือประมาณ 132 กรัม อาจให้พลังงานมากถึง 950 กิโลแคลอรี่ เกือบเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวัน การรับประทานแมคคาเมียร่วมกับอาหารอื่นที่ให้พลังงานสูง อาจทำให้คุณได้รับแคลอรี่มากเกินไปได้
    • โรคภูมิแพ้ ผู้ที่เป็นโรคแพ้ถั่วอาจมีอาการแพ้เมื่อรับประทานแมคคาเดเมียได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วยืนต้นอื่นๆ เช่น ถั่วลิสง เป็นต้น
    • การนำไปประกอบอาหาร บางคนมักจะนำแมคคาเดเมียไปคั่วผ่านความร้อนก่อนรับประทาน ซึ่งความร้อนจากการประกอบอาหารนั้นอาจทำให้แมคคาเดเมียสูญเสียสารอาหารบางอย่างได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 29/07/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา