backup og meta

อาการบวมส่วนปลายในผู้ป่วยเบาหวาน สาเหตุ และการรับมือ

อาการบวมส่วนปลายในผู้ป่วยเบาหวาน สาเหตุ และการรับมือ

อาการบวมส่วนปลาย หรืออาการบวมของรยางค์ (Peripheral Edema) เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบหมุนเวียนเลือด จึงทำให้เกิดอาการบวมและเป็นแผลได้ง่าย ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานจึงต้องให้ความสำคัญในดูแลแผลและควบคุมอาการบวม เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นและส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ

[embed-health-tool-bmi]

อาการบวมส่วนปลาย ในผู้ป่วยเบาหวาน 

อาการบวมส่วนปลาย เกิดจากแรงดันในหลอดเลือดที่เพิ่มขึ้น จนทำให้น้ำรั่วออกมาจากเส้นเลือดฝอยออกมาสู่บริเวณเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ผิวหนังเกิดอาการบวมตึง และมีลักษณะบุ๋มลงไป แต่ในผิวผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีลักษณะบุ๋ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการในแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม อาการบวมสามารถขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณขา หน้าท้อง ปอด แต่ส่วนใหญ่อาการบวมส่วนปลายมักเกิดขึ้นบริเวณเท้า ข้อเท้า และขา เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดเพียงข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้

สาเหตุของ อาการบวมส่วนปลายในผู้ป่วยเบาหวาน

อาการบวมส่วนปลายในผู้ป่วยเบาหวาน เกิดจากหลายสาเหตุ หลายปัจจัยด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ลิ่มเลือดอุดตันของเส้นเลือดดำ
  • การอักเสบของเนื้อเยื่อ 
  • ถุงน้ำบริเวณใต้ข้อพับเข่าแตก 
  • ระบบหมุนเวียนน้ำเหลืองเกิดการอุดตัน
  • อาการบวมน้ำจากการใช้อินซูลิน 
  • ภาวะอื่น ๆ เช่น ผู้ป่วยเป็นโรคตับ โรคหัวใจ และโรคไตอย่างใดอย่างหนึ่งร่วมด้วย และมีอาการบวมที่เท้าหรือข้อเท้า 
  • ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบ ยาฮอร์โมน ยาลดความดันโลหิต ยากล่อมประสาท ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวานบางชนิด

รับมืออย่างไร หากมีอาการบวมส่วนปลายในผู้ป่วยเบาหวาน

ผู้ป่วยเบาหวานสามารถลด อาการบวมส่วนปลายในผู้ป่วยเบาหวาน ในเบื้องต้นด้วยตนเองได้ ดังนี้

  • ยกขาที่บวมให้สูง
  • การใช้ยาขับปัสสาวะที่จัดให้โดยคุณหมอร่วมกับการควบคุมปริมาณน้ำและโซเดียมในอาหารอย่างเคร่งครัด
  • ถุงน่องกระชับขา (Compression Stocking) เพื่อกดรัดและลดอาการบวม

ในกรณีที่ผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการรุนแรง เช่น ผิวหนังแตก มีแผล มีการติดเชื้อของเนื้อเยื่อบริเวณผิวหนัง หรืออาการบวมไม่ดีขึ้น  ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาในทันที 

ถึงแม้ว่าอาการบวมส่วนปลายจะไม่ใช่โรคติดต่อที่ร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยปละละเลยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้ ดังนั้น หากผู้ป่วยเบาหวานสังเกตเห็นอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทันที เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน 

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

DVT (deep vein thrombosis).https://www.nhs.uk/conditions/deep-vein-thrombosis-dvt/.Accessed July 9, 2021

Control of Lower Extremity Edema in Patients with Diabetes: Double Blind Randomized Controlled Trial Assessing the Efficacy of Mild Compression Diabetic Socks.https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5429175/.Accessed July 9, 2021

Lower limb oedema in diabetes.https://wchh.onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1002/pdi.2133.Accessed July 9, 2021

Edema: Diagnosis and Management.https://www.aafp.org/afp/2013/0715/p102.html.Accessed July 9, 2021

Type 2 diabetes. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/type-2-diabetes/symptoms-causes/syc-20351193. Accessed March 30, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

26/05/2022

เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ภาวะ แทรกซ้อน โรค เบาหวาน ปัจจัยเสี่ยงและวิธีดูแลตัวเอง

สาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และปัจจัยเสี่ยง


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล

โรคเบาหวาน · โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 26/05/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา