backup og meta

อาการ น็อค เบาหวาน คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์ · โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 04/10/2022

    อาการ น็อค เบาหวาน คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

    อาการ น็อค เบาหวาน หรืออาการน้ำตาลต่ำ เป็นภาวะสุขภาพที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเบาหวาน อาจเกิดขึ้นเมื่อระดับอินซูลินต่ำกว่าปกติ หรือเมื่อมีน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร มักเกิดจากการกินยารักษาเบาหวานหรือการฉีดอินซูลินเกินขนาด การกินอาหารผิดเวลา การออกกำลังกายหักโหมมากเกินไป จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายขาดน้ำตาล จึงอาจทำให้ เกิดอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ เป็นต้น บางครั้งอาจรุนแรงจนถึงขั้น ชัก หมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้  ทั้งนี้ เมื่อเกิดอาการน้ำตาลต่ำ ควรรีบรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ลูกอม น้ำหวานหรือน้ำผลไม้ เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและหากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการซ้ำ ๆ ควรรีบไปพบคุณหมอ

    อาการ น็อค เบาหวาน คืออะไร

    อาการน็อคเบาหวานเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) คือ มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน (หรือระดับน้ำตาลต่ำกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้ที่ไม่ไ้ด้เป็นเบาหวาน) มักเกิดขึ้นเมื่อมีอินซูลินในร่างกายปริมาณมากเกินไป จนส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงจนเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายขาดพลังงาน

    อาการ น็อค เบาหวาน เป็นอย่างไร

    เมื่อเกิดภาวะน็อคเบาหวาน อาจทำให้เกิดอาการ ดังนี้

  • ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
  • อ่อนเพลีย
  • เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
  • หงุดหงิด กระสับกระส่าย ตื่นตระหนก ไม่มีสมาธิ
  • เหงื่อออกมาก ตัวเย็น ตัวสั่น
  • หิวบ่อย
  • ฝันร้าย ตื่นกลางดึก (หากอาการเกิดช่วงกลางคืน)
  • หากมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำเเล้ว ไม่ได้การรักษาอย่างถูกวิธี อาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นได้ เช่น

    • สายตาพร่ามัว ตาดับ
    • ง่วง ซึม สับสน
    • ชัก
    • มีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น พูดไม่ชัด พูดไม่ออก ปากเบี้ยว อ่อนเเรงแขน-ขา
    • ล้ม หรือหมดสติ
    • หัวใจหยุดเต้น เสียชีวิต

    สาเหตุของอาการน็อคเบาหวาน

    สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการน็อคเบาหวาน อาจมีดังนี้

    • ฉีดอินซูลินหรือรับประทานยาลดระดับน้ำตาลในเลือดมากเกินขนาด
    • การอดอาหาร การงดรับประทานอาหารบางมื้อ การรับประทานอาหารผิดเวลา เนื่องจากยาลดระดับน้ำตาลบางชนิดออกฤทธิ์เป็นระยะเวลานาน ดังนั้น หากอดอาหาร หรือ รับประทานอาหารไม่ตรงมื้อไป จึงทำให้เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำได้
    • ทำกิจกรรมที่หนักกว่าปกติหรือออกกำลังกายอย่างหักโหมโดยไม่ได้รับประทานอาหารชดเชยเพื่อป้องกันพลังงานที่เสียเพิ่มขึ้น หรือไม่ได้ปรับขนาดยาให้เหมาะสม จนทำให้ระดับน้ำตาลลดต่ำลงจนเกินอาการน๊อคเบาหวาน
    • การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากโดยไม่รับประทานอาหาร เนื่องจากในการกำจัดแอลกอฮอล์ที่ตับจะได้สารที่ไปขัดขวาง กระบวนการผลิดน้ำตาลที่ตัวตับเอง ทำให้เมือระดับน้ำตาลในเลือดเริ่มลดต่ำลงจากการที่ไม่ได้รับประทานอาหาร ตับกลับไม่สามารถผลิตน้ำตาลออกมาทดแทนได้เหมือนในภาวะอื่น ๆ จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง

    การวินิจฉัยอาการน็อคเบาหวาน

    การวินิจฉัยอาการน็อคเบาหวานสามารถทำได้ด้วยการตรวจวัดระดับน้ำตาลโดยสามารถใช้เครื่องตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้วตรวจได้ด้วยตนเอง วิธีการเบื้องต้น คือ เจาะเลือดที่บริเวณปลายนิ้วแล้วหยดลงบนแผ่นทดสอบ จากนั้นเครื่องจะวิเคราะห์ค่าระดับน้ำตาลแล้วเเสดงผลที่หน้าจอ หากพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงว่าผู้ป่วยมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรรีบรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ลูกอม น้ำหวาน น้ำผลไม้ เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและหากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการซ้ำ ๆ ควรรีบไปพบคุณหมอ

    วิธีรักษาอาการน็อคเบาหวานเบื้องต้น

    สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำการปฐมพยาบาลอาการน็อคเบาหวาน โดยใช้แผนการรักษาที่เรียกว่า 15-15 ดังนี้

    • ให้ผู้ป่วยกินหรือดื่มคาร์โบไฮเดรตปริมาณ 15 กรัมเพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
    • หลังจากผ่านไป 15 นาที ให้ตรวจสอบระดับน้ำตาลด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด
    • หากยังมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่ายังไม่ปลอดภัย ให้บริโภคคาร์โบไฮเดรตเพิ่มอีก 15 กรัม แล้ววัดระดับน้ำตาลอีกครั้ง หากยังไม่สูงขึ้น หลังจากปฏิบัติตามขี้นตอนดังกล่าวเเล้ว 3 ครั้ง ควรรีบไปพบคุณหมอ

    การป้องกันอาการน็อคเบาหวาน

    ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอาจป้องกันอาการน็อคเบาหวานหรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

    • หมั่นตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้วอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในช่วงที่เหมาะสมหรือไม่ เเนะหากมีระดับน้ำตาลปลายนิ้วลดลง เช่น ต่ำกว่า 80 มิลลกรัม/เดซิลิตร เเม้จะยังไม่มีอาการผิดปกติ อาจเว้นหรือลดปริมาณอินซูลินรวมไปถึงยาลดระดับน้ำตาลในมื้อนั้น ๆ ลงชั่วคราว เพื่อป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
    • รับประทานยารักษาโรคเบาหวาน เเละ ใช้ยาฉีดอินซูลิน ตามขนาดและเวลาที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด รวมทั้ง ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอเกี่ยวกับการรับประทานกินอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
    • หากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ให้จดรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะดังกล่าว เช่น เวลาที่รับประทานอาหาร อาหารที่กินล่าสุด ยาที่ใช้ การออกกำลังกาย อาการที่เกิด เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณหมอวินิจฉัยอาการและวางแผนการรักษาได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

    โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


    เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 04/10/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา