การใช้ประโยชน์ ดอกเสาวรส
ดอกเสาวรส ใช้ทำอะไร
ดอกเสาวรส (Passion flower) เป็นพืชที่นำมารักษาอาการ และโรคต่างๆ ได้ดังนี้
- แก้ปัญหานอนไม่หลับ (insomnia)
- ระบบการทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ (GI) ทำให้เกิดโรควิตกกังวล (GAD) กระวนกระวายและประหม่า
- อาการชัก
- โรคฮิสทีเรีย (Hysteria)
- อาการวัยทอง
- โรคสมาธิสั้น (ADHD)
- อาการประหม่า และตื่นตัว
- อาการใจสั่น
- การเต้นของหัวใจผิดปกติ
- ความดันโลหิตสูง
- อาการปวดกล้ามเนื้อ
- บรรเทาอาการเจ็บปวด
- โรคริดสีดวง
ดอกเสาวรสยังสามารถใช้ควบคู่ หรือผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น หญ้าฮอปส์ (hops) ต้นคาวา (kava) ต้นสกูลแคป (skullcap) ต้นวาเลอเรียน (valerian) เพราะจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ดอกเสาวรส สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์กล่อมประสาท และเป็นตัวช่วยในการนอนหลับ แต่ต้องถูกยกเลิกให้ใช้ในปี ค.ศ. 1978 เพราะไม่มีการรับรองถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสมุนไพรนี้ แต่อย่างไรก็ตามดอกเสาวรสนำไปเป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือสามารถผสมกับสมุนไพรอื่นๆ ได้
การทำงานดอกเสาวรสเป็นอย่างไรบ้าง
มีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของดอกเสาวรส ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามบางงานวิจัยได้กล่าวว่า สารเคมีของดอกเสาวรส จะช่วยให้หลับสบาย ไร้ความกังวล และบรรเทาอาการชักกระตุกของกล้ามเนื้อขณะที่คุณนอนหลับได้
ข้อควรระวังและคำเตือน
เราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ดอกเสาวรส
ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะ ดังต่อไปนี้
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรจะได้รับยาหรือสมุนไพรบำรุง ที่จัดจำหน่ายโดยแพทย์เท่านั้น
- อยู่ในระหว่างการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารที่มีส่วนประกอบของดอกเสาวรสหรือยาและสมุนไพรชนิดอื่น
- มีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน
- มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่นแพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์
ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ดอกเสาวรสมีความปลอดภัยแค่ไหน
ดอกเสาวรสสามารถใช้ในการประกอบอาหาร และรับประทานได้ แต่สำหรับการนำมาทำเป็นยา หรือชา ผู้บริโภคควรทานในระยะสั้น (น้อยกว่า 2 เดือน) ในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะปลอดภัยกับร่างกาย
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ดอกเสาวรสมีอะไรบ้าง
ดอกเสาวรสอาจทำให้คุณเกิดอาการเวียนศีรษะ สับสน กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ มีการเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัว และหลอดเลือดอักเสบ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับผลข้างเคียงดังกล่าว ซึ่งหากพบอาการข้างเคียงใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อนการใช้เสมอ
ปฏิกิริยาระหว่างยา
การทานสมุนไพรนี้อาจมีผลต่อยาที่ทานในปัจจุบัน ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ก่อนใช้
กลุ่มตัวยาที่มักจะมีปฏิกิริยากับดอกเสาวรส คือกลุ่มยากล่อมประสาท (CNS depressants) เพราะดอกเสาวรสมีฤทธิ์ที่ทำเกิดความง่วงซึมหากรับประทานยายากลุ่มกล่อมประสาทเพิ่ม อาจทำให้ผู้บริโภคมีอาการง่วงมากเกินไป
ตัวอย่างกลุ่มยากล่อมประสาท เช่น ยาเพนโทบาร์บิทอล (Pentobarbital) , ยาฟีโนบาร์บิทัล (Phenobarbital) , เซโคบาร์บิตาล (Secobarbital) , ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) , ยาลอราซีแพม (Lorazepam) , ยาโซลพิเดม (Zolpidem) เป็นต้น
ขนาดการใช้
ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้
ปกติแล้วควรใช้ดอกเสาวรสในปริมาณเท่าใด
- สำหรับผู้ที่เป็นโรควิตกกังวล (GAD) : ควรทานปริมาณ 45 หยด ของสารสกัดจากดอกเสาวรส ทุกวัน และรูปแบบของยาเม็ดในปริมาณ 90 mg ต่อวัน
- สำหรับผู้ที่เลิกยา Narcotic : ควรทานปริมาณ 60 หยด ของสารสกัดจากดอกเสาวรสผสมกับสารโคลนิดีนในปริมาณ 8 mg
ปริมาณการใช้ดอกเสาวรส อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่นๆ การใช้ยาสมุนไพรนั้นอาจไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอ จึงควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ในเรื่องปริมาณที่เหมาะสม
สมุนไพรดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบใด
สมุนไพรดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบต่อไปนี้
- แคปซูล
- สารสกัดเข้มข้น
- ดอกเสาวรสรูปแบบผง
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]