ปลูกถ่ายไต เป็นการผ่าตัดเพื่อย้ายไตที่มีสุขภาพดีจากบุคคลหนึ่ง (ผู้บริจาค) ไปยังอีกบุคคลหนึ่ง (ผู้รับบริจาค) โดยผู้รับบริจาคมักเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรัง
ข้อมูลพื้นฐาน
ปลูกถ่ายไต คืออะไร
การปลูกถ่ายไต (kidney transplant) เป็นการผ่าตัดเพื่อย้ายไตที่มีสุขภาพดีจากบุคคลหนึ่ง (ผู้บริจาค) ไปยังอีกบุคคลหนึ่ง (ผู้รับบริจาค) ผู้รับบริจาคมักเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรัง (chronic kidney failure) หน้าที่ของไต คือ กำจัดของเสียออกจากเลือด เมื่อไตทำงานไม่ปกติ ของเสียในร่างกายเริ่มสะสมตัวในเลือด ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนในร่างกาย
มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ได้แก่
- เบาหวานประเภท 1 หรือประเภท 2
- ความดันโลหิตสูง
- ไตอักเสบ (Glomerulonephritis) ซึ่งเป็นอาการอักเสบที่หน่วยกรองของไต (glomeruli)
- ไตอักเสบประเภท Interstitial nephritis ซึ่งเป็นอาการอักเสบของหลอดไตฝอยและอวัยวะโดยรอบ
- ถุงน้ำในไต (Polycystic kidney disease)
- ทางเดินปัสสาวะอุดกั้นเป็นเวลานานจากภาวะต่างๆ เช่น ต่อมลูกหมากโต นิ่วในไต และมะเร็งบางชนิด
- ปัสสาวะไหลย้อนกลับ (Vesicoureteral reflux) ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้ปัสสาวะไหลย้อนกลับไปยังไต
- ไตติดเชื้อซ้ำ ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กรวยไตอักเสบ (pyelonephritis)
- ในหลายกรณี การปลูกถ่ายไตสามารถช่วยให้ผู้รับบริจาคมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น
ความจำเป็นของการ ปลูกถ่ายไต
แพทย์จะประเมินอาการในปัจจุบันของคุณ คุณอาจได้รับการปลูกถ่ายไตด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- คุณมีสุขภาพดีพอสำหรับการผ่าตัด
- ข้อดีของการปลูกถ่ายไตมีมากกว่าความเสี่ยง
- คุณได้ลองเข้ารับการรักษาทางเลือกแล้วไม่ได้ผล
- คุณรับทราบความเสี่ยงของอาการแทรกซ้อน
- คุณรับทราบว่าคุณจะใช้ยากดภูมิคุ้มกัน และเข้ารับการนัดหมายติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงของการปลูกถ่ายไต
มีเหตุผลหลายประการที่การปลูกถ่ายไตไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้
- อาการติดเชื้อที่กำลังเป็นอยู่ (จำเป็นต้องรักษาก่อน)
- โรคหัวใจ
- ไตวาย
- มะเร็งที่แพร่กระจายไปยังบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย
- โรคเอดส์ (AIDS) ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายและรุนแรงมากที่สุดของการติดเชื้อเอชไอวี
คุณควรทราบด้วยเช่นกันว่า การปลูกถ่ายไตอาจใช้เวลานาน คุณอาจต้องรอไตที่สมบูรณ์ในลำดับถัดไปที่พร้อมสำหรับการปลูกถ่าย ไตจำเป็นต้องมีการตรวจความเข้ากันได้ก่อนที่คุณจะได้รับการปลูกถ่ายได้ ผู้บริจาคไตต้องมีประเภทเนื้อเยื่อและหมู่เลือดเดียวกันกับคุณ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการที่ร่างกายต่อต้านไตที่รับบริจาคได้
การปลูกถ่ายไต เป็นการผ่าตัดใหญ่ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หลายประการ โดยเฉพาะความเสี่ยงในการเกิดปัญหาต่างๆ ภายหลังการปลูกถ่าย ผู้ที่เข้ารับการปลูกถ่ายไตจึงจำเป็นต้องเข้ารับการติดตามอาการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ถึงแม้ว่าจะมีสถิติที่ชี้ให้เห็นว่าอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงลดลงอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่การปลูกถ่ายไต ก็ยังคงมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ
โดยความเสี่ยงในการปลูกถ่ายไตสามารถเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
- ความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการปลูกถ่ายไตเอง
- ความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน (ยาที่ลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน)
- ความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับสิ่งผิดปกติที่เกิดกับไตที่ปลูกถ่าย
อาการแทรกซ้อนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงสองสามเดือนแรกหลังการปลูกถ่ายไต แต่อาการแทรกซ้อนยังสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี
อาการแทรกซ้อนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของการปลูกถ่ายไตมีดังนี้
อาการแทรกซ้อนในระยะสั้น
- เส้นเลือดอุดตัน
- ท่อไตอุดตันหรือรั่ว
- ไตทำงานช้าลง
- การต่อต้านไตเฉียบพลัน
- การติดเชื้อ
- ของเหลวสะสมตัว
- เส้นประสาทเสียหายชั่วคราว
- ได้รับเชื้อโรคมะเร็งหรือการติดเชื้อ
อาการแทรกซ้อนในระยะยาว
- ไตวาย
- ท่อไตอุดตัน
- หลอดเลือด ที่หล่อเลี้ยงไตตีบลง
เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อนต่างๆ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดดังกล่าว หากคุณมีคำถามใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอน
การเตรียมตัวก่อนการปลูกถ่ายไต
โดยปกติแล้วก่อนการปลูกถ่ายไต คุณจะได้รับการประเมินร่างกายโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายไต เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณเป็นผู้เข้ารับการปลูกถ่ายไตที่ดี โดยคุณจะต้องเข้าพบแพทย์หลายครั้งในเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน รวมทั้งจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเลือดและเอกซเรย์ด้วย
การทดสอบก่อนการปลูกถ่ายไต ได้แก่
- การตรวจประเภทเนื้อเยื่อและเลือด เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าร่างกายของคุณจะไม่ต่อต้านไตที่ได้รับบริจาค
- การทดสอบเลือดหรือผิวหนังเพื่อตรวจหาการติดเชื้อ
- การทดสอบหัวใจ เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) การทำเอคโคหัวใจ (echocardiogram) และการใช้สายสวนหัวใจ (cardiac catheterization)
- การทดสอบหามะเร็งในระยะเริ่มแรก
นอกจากนี้ ยังต้องการพิจารณาเลือกโรงพยาบาลหนึ่งแห่งหรือมากกว่าที่มีความเชี่ยวชาญในการปลูกถ่ายไต เพื่อตัดสินใจว่าโรงพยาบาลใดดีที่สุดสำหรับคุณ
- สอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าแพทย์ทำการปลูกถ่ายไตจำนวนกี่ครั้งในแต่ละปี และอัตราสัมฤทธิ์ผลเป็นเท่าไร โดยให้เปรียบเทียบตัวเลขเหล่านี้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- สอบถามเกี่ยวกับทีมช่วยเหลือที่โรงพยาบาลมี และประเภทการจัดการการเดินทางและการพักรักษาที่โรงพยาบาลมีให้
หากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าคุณเป็นผู้เข้ารับการปลูกถ่ายไตที่ดี คุณจะอยู่ในรายการรอเรียกเพื่อเข้ารับการปลูกถ่ายไตต่อไป
ลำดับการรอเข้ารับการปลูกถ่ายไตของคุณขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ แต่ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ประเภทของปัญหาเกี่ยวกับไตที่คุณเป็น ระดับความรุนแรงของโรคหัวใจที่คุณเป็น และความเป็นไปได้ที่การปลูกถ่ายไตจะได้ผล
สำหรับผู้ใหญ่นั้น ระยะเวลาที่รอในรายการรอเข้ารับการปลูกถ่ายไตมักไม่ใช่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับว่าคุณจะได้รับการปลูกถ่ายไตเร็วเท่าไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าไตที่ได้รับบริจาคเข้ากับคุณได้หรือไม่ ในขณะที่คุณรอรับการปลูกถ่ายไต แนะนำว่าให้คุณปฏิบัติตัว ดังนี้
- ปฏิบัติตามแผนการรับประทานอาหารใดๆ ที่ทีมผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายไตแนะนำ
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ไม่สูบบุหรี่
- รักษาน้ำหนักให้ได้ตามเกณฑ์ที่ได้รับการแนะนำ โดยควรปฏิบัติตามโปรแกรมการออกกำลังกายที่ได้รับการแนะนำ
- ใช้ยาทั้งหมดที่สั่ง และรายงานการเปลี่ยนแปลงการใช้ยาหรือปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นใหม่ หรืออาการที่แย่ลง ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายไตทราบ
- เข้าพบแพทย์และทีมผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายไตอย่างสม่ำเสมอ ทีมผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายไตควรมีเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกต้องของคุณเพื่อให้สามารถติดต่อคุณได้ทันทีหากมีไตที่พร้อมสำหรับคุณ
- เตรียมทุกอย่างให้พร้อมล่วงหน้าสำหรับการไปโรงพยาบาล
ขั้นตอนการปลูกถ่ายไต
ศัลยแพทย์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการปลูกถ่ายไต โดยผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายไตจะได้รับยาสลบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ศัลยแพทย์ลงรอยผ่าในบริเวณช่องท้องส่วนล่าง
- ศัลยแพทย์ปลูกถ่ายไตภายในบริเวณช่องท้องส่วนล่าง หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำของไตที่ปลูกถ่ายจะถูกเชื่อมต่อกับหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำในเชิงกราน เมื่อเลือดไหลผ่านไตที่ได้รับการปลูกถ่าย การขับถ่ายปัสสาวะก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ส่วนท่อที่ลำเลียงปัสสาวะ (ท่อไต) ก็จะถูกเชื่อมต่อกับกระเพาะปัสสาวะ
- ไตเดิมของคุณจะถูกเก็บไว้หากไม่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ไม่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง การติดเชื้อ หรือมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับร่างกายของคุณ แล้วแผลจะถูกเย็บปิด
หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การพักฟื้น
หลังการปลูกถ่ายไต
โดยปกติแล้ว หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไต คุณจะพักอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 3-4 วันเพื่อพักฟื้น แพทย์ที่ทำการปลูกถ่ายไตจะติดตามกระบวนการพักฟื้นของคุณ ในระหว่างที่พักอยู่ในโรงพยาบาลตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
- ดูแลไตที่ได้รับการปลูกถ่ายของคุณ หลังจากออกจากโรงพยาบาล คุณจะจำเป็นต้องมาโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์เพื่อให้แพทย์ที่ทำการปลูกถ่ายไต สามารถเฝ้าระวังการทำงานของไตที่ปลูกถ่ายและการพักฟื้นของคุณ
- การติดตามอาการ แพทย์ที่ทำการปลูกถ่ายไตจะให้ข้อมูลแก่แพทย์ที่ดูแลสุขภาพเบื้องต้นของคุณ เกี่ยวกับอาการของคุณ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาที่บ้าน คุณจะได้รับการนัดหมายติดตามอาการประจำปีหรือมากกว่าหากจำเป็น
- การใช้ยา คุณจะจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อไม่ให้ร่างกายของคุณต่อต้านไต โดยทีมผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายไต จะให้รายละเอียดการใช้ยาชนิดใหม่ของคุณ
- การฟื้นฟูร่างกาย แพทย์ที่ทำการปลูกถ่ายไตจะพิจารณาการฟื้นฟูร่างกายของคุณ หลังการปลูกถ่ายไต คุณจะได้รับแนวปฏิบัติเฉพาะเพื่อออกกำลังกายให้มากขึ้น โดยมีแผนการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่ได้รับการแนะนำ แพทย์และพยาบาลที่ทำการปลูกถ่ายไตจะดำเนินการร่วมกับคุณเพื่อหาทางเลือกในการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
การปลูกถ่ายไตที่ประสบผลสำเร็จ จำเป็นต้องมีการติดตามอาการที่ใกล้ชิดกับแพทย์ และคุณต้องใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเสมอ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]