อาการแพนิก หรือที่เรียกว่า Panic Attack คือ อาการตื่นกลัวสุดขีด ซึ่งเป็นอาการของโรคแพนิกที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังขับรถ และหากคุณควบคุมอาการไม่อยู่ ก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ วันนี้ Hello คุณหมอ เลยอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ แพนิกตอนขับรถ ให้มากขึ้น คุณจะได้รู้ตัวเมื่อเกิดอาการนี้ และสามารถรับมือได้ดีขึ้นด้วย
อาการของภาวะ แพนิกตอนขับรถ
หากคุณขับรถอยู่แล้วเกิดอาการเหล่านี้ นั่นแปลว่าคุณอาจมีภาวะแพนิกตอนขับรถ
- อยู่ ๆ ก็รู้สึกตื่นกลัวสุดขีด
- หัวใจเต้นแรง หรือเต้นเร็วกว่าปกติ
- รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
- รู้สึกเหมือนจะหมดสติ
- หายใจติดขัด หรือเหมือนจะสำลัก
- คลื่นไส้
- ตัวเย็น และเหงื่อออก
- ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก หรือปวดท้อง
- มือ แขน และขาสั่น
- รู้สึกชา หรือเจ็บจี๊ดเหมือนมีเข็มทิ่มทั่วร่างกาย
- ปากแห้ง
- จู่ ๆ ก็อยากเข้าห้องน้ำ
- มีเสียงวิ้ง ๆ ในหู
- ควบคุมตัวเองไม่ได้
- รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
โดยทั่วไปแล้ว อาการแพนิกตอนขับรถ จะมีอาการประมาณ 5-20 นาที แต่ผู้ป่วยบางรายก็อาจเกิดอาการต่อเนื่องยาวนานได้ถึง 1 ชั่วโมง ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการนี้เดือนละ 1-2 ครั้ง หรือในรายที่มีอาการรุนแรง ก็อาจแพนิกตอนขับรถสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเลยทีเดียว
ภาวะแพนิกกำเริบตอนขับรถ เกิดจากอะไร
ผู้ที่เกิดอาการแพนิกตอนขับรถมักประสบปัญหานี้ตอนขับรถบนทางด่วน ขับรถบนสะพาน ขับรถตอนรถติด ขับรถในตอนกลางคืน เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้ว อาการแพนิกตอนขับรถนี้มักเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ก็อาจทำให้เกิดอาการแพนิกตอนขับรถได้
- คนในครอบครัวป่วยเป็นโรคแพนิก
- เครียดจัด หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตอย่างกะทันหัน
- เพิ่งประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเกี่ยวข้องกับการขับรถหรือไม่ก็ได้
นอกจากนี้ หากคุณเคยเกิดอาการแพนิกมาก่อน หากเจอกับสิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้นบางอย่าง เช่น ภาพ กลิ่น เสียง ที่ทำให้คุณนึกถึงเหตุการณ์ตอนเกิดอาการแพนิกตอนขับรถครั้งก่อน ก็อาจทำให้อาการแพนิกของคุณกำเริบได้เช่นกัน
หากเกิดอาการ แพนิกตอนขับรถ ควรทำอย่างไรดี
อาการแพนิกตอนขับรถอาจทำให้คุณรู้สึกกลัว และมีอาการทางกายบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการขับรถได้ เช่น ควบคุมตัวเองไม่ได้ มือสั่น ทางที่ดี หากคุณรู้สึกว่ามีอาการของภาวะแพนิกตอนขับรถ เช่น วิงเวียนศีรษะ หายใจไม่ออก ควรรีบหยุดรถและออกจากรถทันทีที่ทำได้ แต่หากคุณจำเป็นต้องขับรถต่อไป ไม่สามารถหยุดรถได้จริง ๆ วิธีเหล่านี้ก็อาจช่วยให้คุณรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น
หาสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจที่ปลอดภัย
ลองฟังเพลง พอดแคสต์ หรือวิทยุดู เราแนะนำให้คุณสร้างเพลย์ลิสต์ที่เป็นเพลงแนวผ่อนคลาย หรือเพลงฟังสบาย ๆ หรือหากเป็นพอดแคสต์หรือวิทยุ ก็ควรเลือกฟังรายการที่ตลก เบาสมอง ฟังแล้วไม่เครียด วิธีนี้จะช่วยเบี่ยงเบนคุณจากความเครียดซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอาการแพนิกได้
ควบคุมประสาทสัมผัสให้ดี
คุณควรพกหมากฝรั่ง ลูกอมรสเปรี้ยว รสเผ็ด หรือรสมินต์เย็นซ่า และน้ำเย็นติดตัวหรือติดรถไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถนาน ๆ และหากคุณรู้สึกแพนิก ให้รีบอมลูกอม เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือดื่มน้ำทันที เพราะความเย็นของน้ำ หรือรสชาติของลูกอมและหมากฝรั่งเหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส โดยเฉพาะการรับรสของคุณให้ดีขึ้น และทำให้คุณจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่น แทนที่จะเป็นอาการแพนิก
ปรับอากาศโดยรอบให้เย็นขึ้น
หากคุณเริ่มรู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเหงื่อออก ควรปรับแอร์ภายในรถให้เย็นขึ้น หรือเปิดหน้าต่างรถเพื่อรับลม เมื่อร่างกายของคุณ โดยเฉพาะใบหน้าและมือ ได้สัมผัสอาการเย็น ๆ ก็อาจช่วยให้คุณสงบขึ้น จนอาการแพนิกบรรเทาลงได้
สูดหายใจให้ลึก ๆ
เวลาเกิดอาการแพนิกตอนขับรถ ผู้ป่วยมักจะมีอาการหายใจติดขัด หายใจไม่ออก หรือรู้สึกเหมือนจะสำลัก ซึ่งอาการเหล่านี้ สามารถสร้างความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก ฉะนั้น หากเริ่มมีปัญหาในการหายใจ คุณควรสูดหายใจให้ลึก ๆ และช้า ๆ มีสมาธิกับการหายใจเข้า-ออก ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ และทางที่ดี คุณควรฝึกหายใจลึก ๆ เป็นประจำ จะได้หายใจได้ดีขึ้น และผ่อนคลายขึ้นด้วย
วิธีรักษาภาวะแพนิกตอนขับรถ
หากคุณมีอาการแพนิกตอนขับรถบ่อย ๆ ควรรีบเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาสุขภาพจิตทันที เพราะหากปล่อยไว้จนอาการรุนแรง นอกจากจะทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้แล้ว ยังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ได้ด้วย โดยเฉพาะโรคกลัวที่ชุมชน (Agoraphobia) โดยแพทย์อาจให้คุณเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy หรือ CBT)
- การบำบัดความกลัวด้วยการเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว (Exposure Therapy)
- การใช้ยา เช่น
- ยาเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepines) ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง
- ยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors หรือ SSRI) ซึ่งเป็นยาต้านซึมเศร้าที่ออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มระดับสารเซโรโทนินในสมอง
ย้ำอีกทีว่า หากคุณมีอาการแพนิกตอนขับรถเป็นประจำ ควรรีบเข้าพบคุณหมอ เพราะหากปล่อยไว้ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่น ๆ ตามมา ทั้งยังทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มากขึ้นด้วย