backup og meta

ใช้สายตามากเกินจนเกิด อาการตาล้า จัดการอย่างไรดี?

ใช้สายตามากเกินจนเกิด อาการตาล้า จัดการอย่างไรดี?

อาการตาล้า (Eye fatigue) เกิดจากอาการแสบ อาการคัน และอาการเมื่อยล้าของดวงตา สามารถพบได้บ่อย และไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรง แม้บางครั้งเราอาจมีอาการตาล้าจนแทบทนไม่ได้ แต่อาการที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ดวงตาเสียหายแต่อย่างใด ต่อไปนี้ คือข้อแนะนำและวิธีการจัดการกับอาการตาล้า ที่ Hello คุณหมอนำมาฝาก

อาการตาล้า คืออะไร

ตาล้า เป็นอาการหนึ่งที่ไม่ใช่โรคเกี่ยวกับดวงตา มักเกิดขึ้นหลังจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น ขับรถยนต์ ใช้คอมพิวเตอร์ และอ่านหนังสือ หากรู้สึกไม่สบายตาในขณะจ้องมองสิ่งต่างๆ นั่นอาจหมายถึงอาการสายตาล้า โดยปกติแล้ว อาการจะหายไปหลังจากได้พักดวงตา แต่ในบางกรณี สายตาล้าเป็นอาการของปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา

สาเหตุของอาการตาล้า

ปัจจุบัน สาเหตุของอาการตาล้าที่พบได้มากที่สุดคือ การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ทุกคนใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างน้อยที่สุด 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งทำให้กะพริบตาน้อยกว่าปกติ และทำให้เกิดอาการตาแห้ง

นอกจากนี้ เมื่อคุณพยายามใช้สายตาในความมืด จะทำให้กล้ามเนื้อหนังตาและใบหน้าต้องบีบตัวแน่นมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนเกิดอาการปวดเพราะกล้ามเนื้อดวงตาทำงานหนักเกินไปจากการใช้งานกล้ามเนื้อดวงตา และอาจทำให้เกิดอาการตาล้าได้มากขึ้น

ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะ หรือมีการมองเห็นไม่ชัด อาจมีอาการแย่ลงจากปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่เป็นอยู่ เช่น สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง โดยผู้ที่มีปัญหาทางสายตาจำเป็นต้องใส่แว่นสายตาเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ หากใครนอนน้อย นอนไม่พอ มักต้องทำงานภายใต้แรงกดดัน หรือมีอาการเหนื่อยล้า อาจมีอาการสายตาล้าแย่ลง

อาการตาล้าเป็นอย่างไร

อาการสายตาล้ามีดังต่อไปนี้

  • ระคายเคืองดวงตา
  • ตาแห้ง
  • ตาแฉะ
  • มองเห็นไม่ชัด
  • แพ้แสง
  • ปวดตา
  • ตาแดง
  • สายตาเปลี่ยนแปลงมากขึ้น

หากมีปัญหาดังกล่าว ควรเข้ารับการทดสอบทางจักษุวิทยา หากพักผ่อนแล้วอาการตาล้ายังไม่หายไป หรืออาจเป็นอาการของโรคเกี่ยวกับดวงตาอื่นๆ จึงควรไปพบจักษุแพทย์ทันที หากอาการเหล่านี้คงอยู่เป็นเวลานาน และเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้น

การป้องกันอาการตาล้า

โดยทั่วไปแล้ว อาการตาล้าไม่ใช่ปัญหาที่อันตราย การป้องกันสายตาล้าเป็นเรื่องง่าย  คุณสามารถทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงนิสัยที่ทำให้เกิดสายตาล้า เช่น นั่งใกล้โทรทัศน์ ใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ เป็นต้น

ควรจัดสรรเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม รับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับดวงตา เช่น วิตามินเอ ลูทีน เบต้าแคโรทีน ที่สำคัญคือคุณต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยทำงาน ควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมง และเข้านอนก่อน 5 ทุ่ม เพื่อปกป้องไม่เฉพาะดวงตา แต่ยังปกป้องตับของคุณอีกด้วย

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

How to relieve the computer eye strain . https://www.specsavers.co.uk/eye-health/computer-eye-strain-symptoms-and-solutions. Accessed on March 15, 2017

Eye strain. http://www.medicinenet.com/eye_strain/article.htm. Accessed on March 15, 2017

13 Tips to Prevent Eye Fatigue. https://www.webmd.com/eye-health/eye-fatigue-causes-symptoms-treatment. Accessed on March 15, 2017

Eye Strain: What Might Make Your Eyes Feel Tired. https://www.aao.org/eye-health/diseases/what-is-eye-strain. Accessed on March 15, 2017

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

คอนแทคเลนส์ และสิ่งที่ไม่ควรทำ หากไม่อยากให้ดวงตามีปัญหา

อาการผิดปกติของดวงตา ที่อาจดูเหมือนเล็กน้อย..แต่ไม่ใช่เรื่องเล็ก


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา