เบาหวาน เหงื่อออกมาก เป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานชนิดหนึ่ง ที่พบได้ไม่บ่อยนัก เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมการหลั่งเหงื่อ อาจเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารรสเผ็ด อยู่ในพื้นที่ร้อน หรือเป็นอาการเเสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
[embed-health-tool-bmi]
เบาหวาน เหงื่อออกมาก เกิดจากอะไร
เบาหวานและอาการเหงื่อออกมาก เป็นภาวะที่ต่อมเหงื่อของร่างกายผลิตเเละขับเหงื่อออกมาปริมาณมากกว่างปกติ อาจพบในช่วงระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารหรือหลังจากรับประทานอาหารทันที รวมถึงอาจสัมพันธ์กับอากาศที่ร้อน รสเผ็ดหรือกลิ่นของอาหาร รวมถึงเกิดจากความผิดปกติของระบบการขับเหงื่อ ที่ขับเหงื่อออกมามากเกินไปโดยเฉพาะบริเวณลำคอและใบหน้า ซึ่งอาการดังเกล่าอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวานได้ แม้อาการเหงื่อออกมากอาจไม่ได้ส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ แต่อาจก่อให้เกิดปัญหาเเละความทุกข์ทางจิตใจ ทำให้ผู้ที่มีอาการอาจเสียความมั่นใจและรู้สึกอับอาย จนส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร อาจทำให้รู้สึกเบื่ออาหาร ความอยากอาหารลดลง รับประทานอาหารน้อยลงหรือไม่รับประทานอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำในผู้ป่วยเบาหานที่ใช้ยาลดระดับนำ้ตาลในเลือดกลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylurea) เเละ ผู้ที่ใช้ยาฉีดอินซูลินได้
โดยอาการเหงื่อออกมากในผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- เหงื่อออกมากจากอุณหภูมิภายนอกและภายในร่างกาย
- เหงื่อออกมากจากการรับประทานอาหาร
- เหงื่อออกมาก ซึ่งอาจเกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งอาจเกิดได้ตลอดเวลา รวมถึงในตอนกลางคืนขณะที่นอนหลับ
การรักษาอาจต้องพิจารณาถึงสาเหตุของอาการเหงื่ออกมากในข้างต้น เพื่อรักษาที่สาเหตุร่วมกับการรักษาเฉพาะจุดที่มีเหงื่อออกมาก
การรักษาอาการเหงื่อออกมาก
การรักษาอาการเหงื่อออกมาก โดยทั่วไป อาจทำได้ดังนี้
การรักษาด้วยยา
- ยากลุ่มที่ลดการทำงานของเส้นประสาท เป็นยาชนิดรับประทานโดยจะออกฤทธิ์ลดการส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาท ซึ่งจะสามารถช่วยลดอาการเหงื่อออกมากได้ แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ตาพร่ามัว ปัสสาวะลำบากปัสสาวะ
- ยาทาหรือครีมระงับเหงื่อ เป็นยาที่ต้องได้รับการสั่งจ่ายจากคุณหมอ ซึ่งอาจมีผลข้างเคียง เช่น ระคายเคืองผิวและดวงตาได้
- การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดการทำงานของเส้นประสาทที่กระตุ้นทำต่อมเหงื่อทำงานมากจนเกินไป ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้ให้ผลประมาณ 6-12 เดือน จึงจำเป็นต้องรับการรักษาซ้ำเพื่อให้เกิดผลอย่างต่อเนื่อง
- ยาคลายเครียดบางกลุ่ม เป็นยาที่มักใช้รักษาโรคซึมเศร้าหรืออาการวิตกกังวลเเต่มีผลช่วยลดการขับเหงื่อได้ด้วย
การผ่าตัด
- การผ่าตัดต่อมเหงื่อ เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาต่อมเหงื่อออก มักใช้รักษาเฉพาะบริเวณรักแร้
- การรักษาด้วยกระแสไฟฟ้า เพื่อทำลายต่อมเหงื่อ แต่ต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง ใช้เวลาครั้งละประมาณ 20-30 นาที เเละอาจมีผลข้างเคียง เช่น การรับรู้ความรู้สึกที่ผิวหนังเปลี่ยนไป รู้สึกไม่สบายผิวได้
- การผ่าตัดเส้นประสาท เป็นการผ่าตัดเอาเส้นประสาทที่ควบคุมการขับเหงื่อที่ฝ่ามือออก โดยการขับเหงื่อบริเวณอื่นอาจยังคงเกิดขึ้นเหมือนเดิม มักใช้ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล
การดูแลตัวเองเมื่อมีอาการเหงื่อออกมาก
การดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการเหงื่อออกมาก อาจทำได้ดังนี้
- สวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าโปร่ง สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่อึดอัดและไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง
- อาบน้ำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเหงื่อไคล ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นตัว
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ที่ช่วยระงับเหงื่อและปัญหากลิ่นกาย
- เช็ดตัวให้แห้งเสมอโดยเฉพาะบริเวณซอก ข้อพับ หรือบริเวณที่อับชื้นง่าย เช่น รักแร้ เท้า เพื่อทำความสะอาดเเละป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นกายและปัญหาผิวหนังตามมา
- จัดการกับความเครียด ในบางครั้งความเครียด ความตื่นเต้นและความวิตกกังวล อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มีเหงื่อออกมากขึ้น จึงควรจัดการความเครียดด้วยกิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย