ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยาเอสโตรเจน (Estrogens) ใช้สำหรับสภาวะดังต่อไปนี้
ยาเอสโตรเจนเป็นยาในรูปแบบเม็ดสำหรับรับประทาน โดยปกติสามารถรับประทานพร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหากวันละครั้ง ในบางครั้งอาจรับประทานยาเอสโตรเจนทุกวัน และบางครั้งอาจรับประทานตามกำหนดการหมุนเวียน ที่สับเปลี่ยนระหว่างการรับประทานยาเอสโตรเจน กับช่วงที่ไม่ต้องรับประทานยา เมื่อใช้ยาเอสโตรเจนเพื่อบรรเทาอาการของโรคมะเร็ง มักจะรับประทานยาวันละ 3 ครั้ง รับประทานยาเอสโตรเจนในเวลาเดียวกันทุกวัน ควรทำตามแนวทางการใช้ยาบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด และสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร หากมีส่วนที่ไม่เข้าใจ รับประทานยาเอสโตรเจนตามที่กำหนด อย่ารับประทานมากกว่า หรือน้อยกว่าที่แพทย์กำหนด
แพทย์อาจเริ่มต้นรักษาที่ยาขนาดต่ำ แล้วค่อยๆ เพิ่มขนาดยา หากอาการยังรบกวนคุณอยู่ หรืออาจลดขนาดยา หากสามารถควบคุมอาการได้แล้ว ปรึกษากับแพทย์ว่า ยาเอสโตรเจนนั้นออกฤทธิ์กับคุณได้ดีแค่ไหน
ขอข้อมูลของผลิตภัณฑ์จากเภสัชกรหรือแพทย์
ยาเอสโตรเจนควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเอสโตรเจนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเอสโตรเจนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาเอสโตรเจน
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาเอสโตรเจนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด X โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ผลข้างเคียงมีดังนี้คือ อาการเลือดออกผิดปกติ อาเจียน คลื่นไส้ เจ็บเต้านม น้ำหนักเพิ่ม คั่งน้ำ ปวดหัว ซึมเศร้า
ผู้ชายอาจมีอาการ ภาวะเต้านมโตในผู้ชาย (Gynaecomastia) เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (impotence)
โอกาสในการเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต การบำบัดทดแทนฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว (Unopposed replacement therapy) สำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนนั้น มีความเกี่ยวข้องกันการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งเต้านม
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาเอสโตรเจนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ โดยเฉพาะยาไรแฟมพิซิน ยาบาบิทูเรท ซึ่งจะเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมของเอสโตรเจนได้
ยาเอสโตรเจนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาเอสโตรเจนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
สภาวะดังต่อไปนี้อาจส่งผลกระทบกับยาได้ แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพดังต่อไปนี้ โดยเฉพาะโรคหอบหืด โรคลมชัก (Epilepsy) ปวดหัวไมเกรน มีความบกพร่องของหัวใจหรือไต โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง (cerebrovascular disorders) โรคเบาหวาน ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง (hypercalcaemia) โรคถุงน้ำดี (gall bladder disease) โรคพอร์ฟิเรีย (porphyria)
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
รับประทาน:
อาการปรับขนาดหลอดเลือดที่เกี่ยวข้องกับวัยหมดประจำเดือนระดับปานกลางถึงรุนแรง
ภาวะช่องคลอดเสื่อม
ภาวะฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ
การทำหมันในผู้หญิงหรือภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนกำหนด
เพื่อการรักษาบรรเทาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนในสตรีวัยหมดประจำเดือน
ฉีดยา
มีเลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติ
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้ สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย