สรรพคุณของโอ๊ก
เปลือกของต้นโอ๊กใช้เป็นชารักษาโรคเบาหวาน ไข้ อาการไอ และโรคหลอดลมอักเสบ
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
เปลือกของต้นโอ๊กใช้เป็นชารักษาโรคเบาหวาน ไข้ อาการไอ และโรคหลอดลมอักเสบ
ใช้เปลือกของโอ๊กผสมน้ำอาบเพื่อรักอษาอาการบาดเจ็บและบวม (อักเสบ) บริเวณผิวหนัง ปาก ลำคอ องคชาตและทวารหนัก และบรรเทาอาการคันบริเวณผิวที่เกิดจากการสัมผัสอากาศเย็น
โอ๊กใช้รักษาอาการอื่นๆได้ ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เปลือกของโอ๊ก ประกอบไปด้วยสารแทนนิน มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาโรคเบาหวานและอาการอักเสบ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้โอ๊ก
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโอ๊กนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ โอ๊กในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โอ๊ก
เปลือกของโอ๊กปลอดภัยสำหรับการทาบริเวณผิวหนังเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ถ้าใช้ระยะเวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์อาจไม่ปลอดภัย
จากอาการผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาแพทย์
โอ๊กอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้
แจ้งแพทย์หากอาการต่อไปนี้:
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือแพทย์ก่อนใช้
ปริมาณการรับประทานแคปซูลผงเปลือกโอ๊กที่แนะนำคือ 1 กรัม ต่อวันพร้อมอาหาร
ในรูปแบบของสารสกัด ปริมาณยาจะแตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์ แต่โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30-60 หยด เจือจางกับน้ำเปล่า และนำมาใช้ 2-3 ครั้งต่อวัน
การทาบริเวณผิวหนังสามารถใช้ทาได้ตามต้องการ
ขนาดปกติของการใช้โอ๊กอาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพและการใช้ยาอื่น ๆ อาหารเสริมสมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อทราบขนาดยาที่เหมาะสม
ต้นโอ๊กมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
*** Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ วินิจฉัย หรือการรักษาแต่อย่างใด ***
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย