ผ่าคลอด ทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ไม่พร้อมคลอดแบบธรรมชาติ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

    ผ่าคลอด ทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ไม่พร้อมคลอดแบบธรรมชาติ

    ผ่าคลอด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่รู้สึกกังวลหรือกลัวเกี่ยวกับการคลอดธรรมชาติ ทั้งอาจกลัวเจ็บ กลัวลูกน้อยไม่ปลอดภัย รวมทั้งเป็นวิธีคลอดที่เหมาะกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก คุณแม่ที่ใกล้คลอดควรศึกษาถึงขั้นตอนการผ่าคลอดเพื่อจะได้มีทางเลือกในการตัดสินใจคลอดลูกที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความพร้อมด้านจิตใจของคุณแม่เองด้วย

    ผ่าคลอด (Cesarean section) คืออะไร

    ผ่าคลอด เป็นวิธีการผ่าหน้าท้องและผนังมดลูกแล้วนำทารกออกมา ซึ่งโดยปกติแล้วแพทย์จะเลือกผ่าคลอด ในกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถคลอดเองได้ หรือการคลอดแบบธรรมชาติอาจจะมีอันตรายต่อคุณแม่หรือลูกน้อยในครรภ์ แต่ในบางกรณีคุณแม่อาจเลือก วิธีผ่าคลอด แทนการคลอดแบบธรรมชาติหากไม่พร้อมหรืออยู่ในภาวะกลัวการคลอดลูก

    การเตรียมตัวก่อนการผ่าคลอด

    • ของใช้จำเป็นสำหรับคุณแม่
    • ของใช้จำเป็นสำหรับลูกน้อย
    • เอกสารสำคัญต่าง ๆ เช่น สมุดฝากครรภ์ บัตรโรงพยาบาล สำเนาบัตรประชาชนทั้งคุณพ่อคุณแม่ สำเนาทะเบียนบ้าน
    • ทำความสะอาดบริเวณท้อง
    • ร่างกายที่ต้องเตรียมสำหรับ วิธีผ่าคลอด

    เมื่อถึงเวลาผ่าคลอดแพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึก โดยมีอยู่ 2 วิธีคือ

    1. ฉีดยาชาเข้าบริเวณไขสันหลัง
    2. ดมยาสลบ

    ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจาก วิธีผ่าคลอด

    สำหรับวิธีผ่าคลอดนั้น อาจเกิดความเสี่ยงขึ้นได้ โดยความเสี่ยงสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับลูกน้อยและตัวคุณแม่เอง สำหรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่

    ความเสี่ยงต่อลูกน้อย ได้แก่

    • ปัญหาการหายใจ โดยอาจมีอาการหายใจเร็วผิดปกติในช่วง 2-3 วันแรกหลังการผ่าคลอด
    • การบาดเจ็บจากการผ่าตัด แม้ว่าจะเกิดได้ยาก แต่รอยบุบที่ผิวหนังของทารกอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการผ่าตัด

    ความเสี่ยงสำหรับคุณแม่ ได้แก่

    • การติดเชื้อ หลังผ่าคลอดอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุโพรงมดลูก
    • ตกเลือดหลังคลอด เวลาผ่าคลอดอาจทำให้เลือดออกมากระหว่างคลอดและหลังคลอด
    • เพิ่มความเสี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์ในอนาคต หลังจากการผ่าคลอด มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป ยิ่งมีการผ่าคลอดมากเท่าใด ความเสี่ยงของรกเกาะต่ำก็จะยิ่งสูงขึ้น รวมไปถึงความเสี่ยงที่มดลูกจะฉีกขาดตามเส้นรอยแผล

    หากคุณแม่ผ่าคลอดลูกคนแรก และในอนาคตต้องการจะตั้งครรภ์อีก แพทย์จะแนะนำให้ผ่าคลอดในท้องถัดไป ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องสอบแจ้งข้อมูลการตั้งครรภ์และสอบถามข้อมูลจากแพทย์ที่ดูแลเพิ่มเติม

    การดูแลคุณแม่เบื้องต้นหลังการผ่าคลอด

    • การดูแลแผลจากการวิธีผ่าคลอด มักจะใช้เวลานานกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ
    • การพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสำหรับการผ่าตัดคลอดอยู่ที่ประมาณ 3 หรือ 4 วัน หากเทียบกับการคลอดแบบธรรมชาติเฉลี่ยพักฟื้น 1-2 วันก็สามารถกับบ้านได้
    • อาจต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง เช่น การขับรถ จนกว่าจะเข้ารับการตรวจหลังคลอดกับแพทย์เมื่อครบ 6 สัปดาห์
    • ห้ามให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    • หลังผ่าคลอด คุณแม่ไม่ควรยกของหนัก ๆ
    • ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม และเดิน เพื่อช่วยป้องกันอาการท้องผูกและการเกิดลิ่มเลือด
    • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ปรุงสุก สะอาด และหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง
    • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาหกสัปดาห์หลังการผ่าตัดคลอด
    • สังเกตอาการต่าง ๆ ของคุณแม่ หากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ

    ผ่าคลอด เป็นวิธีการคลอดที่คุณแม่ทั่วโลกเลือกคลอดด้วยวิธีนี้เพิ่มขึ้นมาก แม้ว่า วิธีผ่าคลอด อาจเป็นวิธีที่จำเป็นและช่วยชีวิตคุณแม่และลูกน้อย แต่ก็อาจทำให้คุณแม่และลูกน้อยมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้ ดังนั้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ประสงค์จะเลือกการผ่าคลอดแทนการคลอดแบบธรรมชาติ จำเป็นจะต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์ เพื่อประกอบการตัดสินใจและเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกน้อย

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

    โฆษณา
    โฆษณา
    โฆษณา
    โฆษณา