backup og meta

ระวัง! วิ่งออกกำลังกายผิดท่า อาจทำให้คุณบาดเจ็บได้

ระวัง! วิ่งออกกำลังกายผิดท่า อาจทำให้คุณบาดเจ็บได้

คนส่วนใหญ่รู้กันดีกว่า การวิ่งให้ประโยชน์สุขภาพมากมายหลายประการ อย่างไรก็ตาม มีคนไม่มากนักที่รู้ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณวิ่งแบบผิดวิธี ท่าทางการวิ่งที่ไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้ เวลาที่คุณวิ่ง สะโพก เข่า และเท้า ควรจะต้องรองรับน้ำหนักตัวของคุณอย่างเหมาะสม จังหวะการก้าวเท้าในขณะวิ่งไม่ควรสั้นจนเกินไป ถ้าคุณวิ่งผิดรูปแบบ อาจเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นได้ระหว่างวิ่งออกกำลัง และวันนี้ทาง Hello คุณหมอ ได้รวบรวมปัญหาของการ วิ่งออกกำลังกายผิดท่า ที่พบกันบ่อยที่สุดมาฝากกัน

วิ่งออกกำลังกายผิดท่า คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า?

การลงส้นเท้าในขณะวิ่ง

หนึ่งในความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดในการวิ่ง ก็คือ การลงส้นเท้าก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดแรงกระแทกมหาศาล ต่อกระดูกที่เท้า ซึ่งอาจส่งผลให้กระดูกร้าวได้ การลงส้นเท้าก่อนในขณะวิ่ง ยังสร้างความเสียหายให้แก่กระดูกอ่อนที่หัวเข่า ผู้ที่วิ่งแบบลงส้นเท้าก่อนซึ่งวิ่งในระยะยาว อาจมีความเสี่ยงในการทำให้กระดูกโคนขาหักได้ ท่าวิ่งเช่นนี้ยังเพิ่มแรงกระแทกที่ขาส่วนล่างและข้อเท้า จึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในบริเวณเหล่านี้ได้

อาการเจ็บปวดสามารถลุกลามขึ้นมายังหลัง เนื่องจากแรงกระแทกสามารถเดินทางผ่านขึ้นมายังสะโพกได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เนื่องจากส้นเท้าของคุณไม่ได้สร้างขึ้นมา เพื่อรองรับน้ำหนักร่างกายทั้งหมดของคุณ การวิ่งแบบลงส้นเท้าจึงจะค่อย ๆ ทำให้เส้นเอ็นที่ส้นเท้าเสียหาย เกิดความเจ็บปวด และผิดรูปร่างได้

หลีกเลี่ยงการลงส้นเท้าขณะวิ่ง

นักวิ่งจำนวนมากพยายามที่จะป้องกัน ไม่ให้เกิดการวิ่งแบบลงส้นเท้า โดยการหลีกเลี่ยงไม่ให้ส้นเท้ากระทบกับพื้นเลย นี่ก็ไม่ใช่วิธีการวิ่งที่ดีเช่นกัน การวิ่งแบบลงที่ปลายเท้า เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บที่ขาส่วนล่างได้ ในการวิ่งที่ระยะทางมากกว่า 10 กม. นิ้วเท้าของคุณไม่แข็งแรงพอ ที่จะรองรับการใช้งานในการวิ่งได้ไกลขนาดนี้

เมื่อเท้าของคุณกระทบกับพื้นแบบเป็นธรรมชาติ ส้นเท้ามีหน้าที่ลดแรงกระแทก การเกร็งส้นเท้าเอาไว้ไม่ให้กระแทกพื้น จะทำให้เกิดแรงกดไปที่น่องและเอ็นร้อยหวาย ยิ่งไปกว่านั้น ท่านี้ยังต้องใช้แรงมากเป็นพิเศษ ในการพุ่งตัวไปข้างหน้า ผลก็คือ อาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเรื้อรังที่สะโพก เชิงกราน และหลังส่วนล่าง

การนั่งลงทันทีหลังวิ่งเสร็จ

หลังจากการวิ่งอันเหนื่อยล้า สัญชาตญาณของคุณอาจบอกให้คุณนั่งลงแล้วก็พัก แต่จริง ๆ แล้ว การนั่งลงในทันที หลังจากเพิ่งเสร็จสิ้นกิจกรรมทางร่างกายที่หนักหน่วง ไม่ใช่เรื่องดี แต่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณด้วยซ้ำ เนื่องจากเวลาที่คุณวิ่งนั้น การสูบฉีดโลหิตของคุณจะเพิ่มขึ้น คุณควรต้องให้การสูบฉีดโลหิตนั้นค่อย ๆ ลดลง ด้วยการลดฝีเท้ามาเป็นการเดินสักพักหนึ่ง แล้วตามด้วยการยืดกล้ามเนื้อ

ถ้าคุณหยุดการเคลื่อนไหวในทันที สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ กล้ามเนื้อของคุณจะเกิดอาการแข็งเกร็ง และเกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อรบกวนคุณไปอีกหลายวันเลยทีเดียว

เมื่อคุณเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ความเจ็บปวดเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ร่างกายของคุณควรจะสามารถฟื้นตัวได้ จากการวิ่งตามปกติ ถ้าอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อไม่หายไป หรือคุณเกิดอาการบาดเจ็บที่บริเวณเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่าง ในท่าทางการวิ่งของคุณ คุณควรต้องศึกษาเทคนิค ที่จะทำให้การวิ่งของคุณดีขึ้น หรือบางทีการจ้างเทรนเนอร์ ก็อาจช่วยคุณได้ เพื่อที่จะไม่เกิดการบาดเจ็บอีกจากการวิ่งไม่ถูกวิธี

[embed-health-tool-bmr]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

. Forefoot Running: Avoid This Common Mistake! http://www.runningshoesguru.com/2014/03/forefoot-running-avoid-this-common-mistake/ Assessed October 2, 2016

Heel Striking Injuries. http://runforefoot.com/heel-striking-injuries/ Assessed October 2, 2016

3. 25 Runners Share the Biggest Mistakes They Made as Beginners. http://greatist.com/move/running-tips-for-beginners-mistakes-to-avoid Assessed October 2, 2016

เวอร์ชันปัจจุบัน

13/11/2020

เขียนโดย pimruethai

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

ลูกเล่นกีฬา พ่อแม่จะป้องกันอย่างไรให้ลูกห่างไกลจากอาการบาดเจ็บ

การวิ่งมาราธอน กับ โรคหลอดลมอุดกั้น เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย pimruethai · แก้ไขล่าสุด 13/11/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา