ตรวจสอบอาหารที่เขากิน
คุณควรพูดคุยกับคุณหมอ เกี่ยวกับอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้มากเป็นพิเศษ พ่อแม่บางคนให้ลูกน้อยดื่มน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของซอร์บิทอล (Sorbitol) ซึ่งเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายของทารกไม่สามารถดูดซึมได้ จนทำให้ลูกท้องอืด แน่นท้อง ควรปรึกษาคุณหมอว่าควรให้ลูกกินอาหารชนิดใด และหลีกเลี่ยงอาหารชนิดใดบ้าง
ระมัดระวังอาหารที่กิน
ถ้าลูกของคุณกินนมแม่ ก็อาจมีปัญหาในเรื่องการย่อยอาหารบางชนิดที่คุณกิน ซึ่งคุณส่งผ่านให้ทางน้ำนม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม คาเฟอีน ถ้าคุณให้ลูกกินนมผง ก็ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อให้แนะนำนมผงที่เหมาะสมกับลูกของคุณได้
การใช้ยารักษาโดยทั่วไป
คุณสามารถใช้ยาลดแก๊สในกระเพาะอาหารที่มีขายตามร้านขายยาได้ แต่ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ก็ควรสอบถามให้แน่ใจด้วยว่า ยานั้นก่อให้เกิดอาการแพ้ยาในทารกหรือไม่ ควรใช้ขนาดยาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม
แก๊สในเด็กทารกกับอาการโคลิค
ในช่วงสี่เดือนแรกทารกน้อยอาจมีอาการโคลิค คือ ร้องไห้ไม่หยุดยาวนานหลายชั่วโมง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้บ่อยถึงสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 สัปดาห์ การมีแก๊สในกระเพาะอาหารไม่ใช่สาเหตุของอาการโคลิค แต่ถ้าลูกน้อยมีอาการโคลิก ก็อาจจะกลืนอากาศเข้าไปมากขึ้น ส่งผลให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะตามไปด้วย
เมื่อไรที่ควรเป็นกังวล
โดยส่วนใหญ่แล้ว การเกิดแก๊สในทารกถือเป็นอาการปกติ และสามารถรักษาได้ แต่ในบางกรณี ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางระบบย่อยอาหารที่มีรุนแรงมากขึ้น ฉะนั้น คุณจึงควรรีบติดต่อคุณหมอทันทีที่ลูกน้อยมีอาการดังต่อไปนี้
- ไม่ยอมขับถ่าย ถ่ายเป็นเลือด หรืออาเจียน
- มีอารมณ์ฉุนเฉียว ถ้าคุณไม่สามารถปลอบโยนให้ลูกน้อยสงบลงได้ ก็ควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอวินิจฉัย
- มีไข้ ถ้าลูกน้อยมีอุณหภูมิที่วัดทางทวารหนักสูงกว่า 38 องศาเซลเซีลส คุณหมอจำเป็นต้องตรวจหาอาการติดเชื้อ หากลูกน้อยของคุณมีอายุต่ำกว่า 3 เดือน ก็ควรรีบพาไปพบคุณหมอในทันที
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด