ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
บาโคลเฟน (Baclofen) ใช้เพื่อรักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุกที่เกิดจากโรคบางอย่าง เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งหรือโรคเอ็มเอส (Multiple Sclerosis) และอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ยานี้ออกฤทธิ์คล้ายยาคลายกล้ามเนื้อ
ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการใดๆ ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด และง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน อย่าหยุดใช้ยานี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์
บาโคลเฟนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัดในขณะใช้ยานพาหนะหรือเครื่องจักร รวมถึงการทำกิจกรรมที่มีความตื่นตัวสูง จนกว่าอาการของคุณจะดีขึ้น
ผู้สูงอายุอาจตอบสนองไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ โดยเฉพาะอาการง่วงซึม และการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์จิตใจ
ในช่วงขณะการตั้งครรภ์หรือระหว่างการให้นมบุตรควรใช้บาโคลเฟนเมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้เสมอ
ยานี้อาจซึมผ่านสู่น้ำนมของแม่ไปยังบุตรได้ ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
บาโคลเฟนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
อาการที่สามารถพบได้ทั่วไปมื่อใช้ยานี้
หากคุณเริ่มมีอาการรุนแรงเหล่านี้ ควรหยุดการใช้ยานี้และเข้ารับการรักษาโดยแพทย์
หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้นโปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบในทันที
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และผู้ที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่มักไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณ
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
โปรดตรวจสอบฉลากยาทั้งหมดของคุณอย่างละเอียด เนื่องจากยาเหล่านี้อาจจะมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม โปรดสอบถามเภสัชกรถึงวิธีการใช้อย่างปลอดภัย
บาโคลเฟนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
บาโคลเฟนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
บาโคลเฟนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
-ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนใช้
ขนาดยาสำหรับรักษาอาการหดเกร็ง
สำหรับรับประทาน
แนะนำให้ค่อยๆ เพิ่มปริมาณยา ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย : 5 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 วันจากนั้น เพิ่มปริมาณเป็น 10 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 3 วัน เช่นกัน จนถึง 20 มิลลิกรัม
ขนาดยาที่มีผลกับการรักษา : ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย
ขนาดยาสูงสุด : 80 มิลลิกรัมต่อวัน (รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละ 4 ครั้ง)
คำแนะนำ
การใช้
ขนาดยาสำหรับรักษา
ถ้าไม่มีการตอบสนองในทางบวกต่อการตรวจคัดกรองครั้งที่สามผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาฉีดเพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรัง
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจจำเป็นต้องลดปริมาณของยาบาโคลเฟนลง
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยการล้างไต
การฟอกไตอาจขับยานี้ออกจากร่างกาย ช่วยเรื่องผลข้างเคียงของการให้ยาเกินขนาด และทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวขึ้น
ความแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำในการใช้ยา
ทั่วไป
ขนาดยา บาโคลเฟน สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับรักษาอาการหดเกร็ง
อายุ 12 ปีขึ้นไป
สำหรับรับประทาน
คำแนะนำ
การใช้
การรับประทาน
ยังไม่มีการรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้ยา ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
การฉีดเข้าน้ำไขสันหลัง
ยังไม่มีการรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้ยา ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี
ยาบาโคลเฟนมีรูปแบบดังต่อไปนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมรับประทานบาโคลเฟนอาจควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย