ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา วาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir หรือ Valaciclovir) มักจะใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสบางชนิด สำหรับเด็ก ยานี้จะใช้เพื่อรักษาโรคเริมที่ริมฝีปาก ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (herpes simplex) และโรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (varicella zoster) ในเด็กที่อายุอย่างน้อย 12 ปี สำหรับผู้ใหญ่ยานี้จะใช้รักษาโรคงูสวัด ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซอสเตอร์ (herpes zoster) และโรคเริมรอบๆ ปาก
ยาวาลาไซโคลเวียร์ยังใช้เพื่อรักษาโรคเริม ที่อวัยวะเพศที่ลุกลาม สำหรับผู้ที่มีอาการลุกลามบ่อยครั้ง ยานี้ยังสามารถลดจำนวนครั้งการลุกลามในอนาคตได้อีกด้วย
ยาวาลาไซโคลเวียร์จะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสบางชนิด แต่ไม่สามารถรักษาการติดเชื้อเหล่านี้ให้หายขาดได้ เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อนี้จะอาศัยอยู่ในร่างกายต่อไป แม้แต่ในช่วงระหว่างการลุกลาม ยาวาลาไซโคลเวียร์สามารถลดความรุนแรง และระยะเวลาในการลุกลามเหล่านี้ ช่วยให้แผลหายได้ไวขึ้น ทำให้แผลใหม่ไม่เกิดขึ้น และช่วยลดอาการปวดหรืออาการคัน
รับประทานยาวาลาไซโคลเวียร์พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหากตามที่แพทย์กำหนด ควรดื่มน้ำให้มากขณะที่กำลังใช้ยานี้ เพื่อลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง
ยานี้จะได้ผลดีที่สุดหากใช้ตามที่แพทย์กำหนด เมื่อเริ่มมีสัญญาณของการลุกลาม ยานี้อาจจะไม่ได้ผล หากคุณเริ่มต้นการรักษาช้า สำหรับโรคอีสุกอีใสหรือโรคงูสวัด ควรเริ่มใช้ยาวาลาไซโคลเวียร์เมื่อเริ่มมีอาการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากเกิดผดผื่นขึ้น สำหรับโรคเริมที่ริมฝีปากหรือเริมที่อวัยวะเพศ ควรเริ่มใช้ยานี้เมื่อเริ่มรู้สึกคัน หรือแสบร้อน
แผลที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์นั้น ควรรักษาความสะอาดและความแห้งให้ดีเท่าที่เป็นไปได้ การสวมเสื้อผ้าหลวมๆ อาจช่วยป้องกันการระคายเคืองแผลได้
ยาวาลาไซโคลเวียร์จะทำงานได้ดีที่สุด หากมีปริมาณของยาภายในร่างกายอยู่ในระดับคงที่ ดังนั้น จึงควรใช้ยาโดยเว้นช่วงที่เท่ากัน
ยาวาลาไซโคลเวียร์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาวาลาไซโคลเวียร์บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาวาลาไซโคลเวียร์ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยา วาลาไซโคลเวียร์ จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
โปรดติดต่อแพทย์ทันที หากคุณมีอาการ
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปของยาวาลาไซโคลเวียร์อาจมีดังนี้
หยุดใช้ยาวาลาไซโคลเวียร์ และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีสัญญาณของผลข้างเคียงที่รุนแรง ที่สามารถทำอันตรายต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงได้ ดังต่อไปนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาวาลาไซโคลเวียร์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้คือยาอื่นที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไต รวมถึงยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยานาพรอกเซน (Naproxen)
ยาวาลาไซโคลเวียร์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาวาลาไซโคลเวียร์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับโรคเริมริมฝีปาก
สำหรับเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ — เยื่อเมือก / ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
เริมที่อวัยวะเพศ
สำหรับเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ — กดอาการ
การยับยั้งโรคเริมที่อวัยวะเพศกำเริบในระยะยาว
ยังไม่มีการพิสูจน์ความปอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษานานกว่า 1 ปีสำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ยังไม่มีการพิสูจน์ความปอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษานานกว่า 6 เดือน สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี
ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษานานกว่า 8 เดือน สำหรับคู่ที่ผู้หนึ่งติดเชื้อเอชไอวี และอีกคนไม่ติดเชื้อเอชไอวี
สำหรับเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซอสเตอร์
จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดหากเริ่มการรักษาภายใน 48 ชั่วโมง เมื่อเริ่มมีผดผื่น ยังไม่มีการพิสูจน์ประสิทธิภาพ หากเริ่มต้นการรักษาเมื่อเวลาผ่านไปแล้วมากกว่า 72 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีผดผื่น
สำหรับเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ — เยื่อเมือก/ ผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
โรคเริมที่อวัยวะเพศในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี
ยังไม่มีการพิสูจน์ประสิทธิภาพหากเริ่มรักษาหากเวลาผ่านไปนานกว่า 72 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีสัญญาณและอาการ
ควรเริ่มต้นการรักษาทันที เมื่อมีสัญญาณแรกของโรคเริมที่อวัยวะเพศ ยังไม่มีการพิสูจน์ประสิทธิภาพ หากเริ่มรักษาหากเวลาผ่านไปนานกว่า 24 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีสัญญาณและอาการ
การใช้ยาวาลาไซโคลเวียร์ เพื่อรักษาโรคเริมที่อวัยวะเพศช่วงเริ่มต้น และช่วงอาการกำเริบในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ
สำหรับการป้องกันการติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (CMV)
การใช้ยาวาลาไซโคลเวียร์เพื่อป้องกันการติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัสนั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาแห่งอเมริกา
สำหรับโรคเริมริมฝีปาก
ควรเริ่มการรักษาให้เร็วที่สุด เมื่อเริ่มมีสัญญาณของโรคเริมที่ริมฝีปาก (เช่น แสบร้อน หรือคัน)
สำหรับเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์
โรคอีสุกอีใสในผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
อายุ 2 ถึงน้อยกว่า 18 ปี
ควรเริ่มการรักษาให้เร็วที่สุดเมื่อเริ่มมีสัญญาณของโรคอีสุกอีใส ไม่ควรช้ากว่า 24 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีอาการผดผื่น
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด