ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) หรือที่รู้จักกันว่า ยาพาราเซตามอล (paracetamol) ยา อะเซตามิโนเฟน นี้เป็นยาแก้ปวดและลดไข้ ใช้สำหรับอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ข้ออักเสบ ปวดหลัง ปวดฟัน อาการหวัดและไข้
นอกจากนี้ ยาอะเซตามิโนเฟน ยังอาจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ที่ไม่ได้ระบุในคำแนะนำนี้
ใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาเกินขนาด หรือน้อยกว่าที่กำหนด หรือเป็นเวลานานกว่าที่แพทย์แนะนำ การใช้ยาเกินขนาดอาจเกิดอันตรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
หากเป็นยาน้ำ ควรตวงยาด้วยกระบอกฉีดยาหรือช้อนหรือถ้วยตวงเฉพาะ หากไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ ควรขอจากเภสัชกร
หากคุณใช้ยานี้กับเด็ก ควรใช้ขนาดที่รูปแบบของยาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ใช้ที่หยอดหรือกระบอกฉีดยาที่มาพร้อมกับตัวยาเท่านั้น ใช้ปริมาณยาตามที่ระบุในตามเอกสารกำกับยาอย่างเคร่งครัด
ยาอะเซตามิโนเฟนสำหรับทารกมี 2 ชนิด โดยแต่ละชนิดมาพร้อมกับอุปกรณ์ตวงยาที่แตกต่างกัน อย่าใช้อุปกรณ์ตวงยาผิดประเภทเพราะจะทำให้เด็กได้รับยาเกินขนาดได้
การใช้ยาอะเซตามิโนเฟนแบบแกรนูลผงฟู่ ละลายผงยาในน้ำอย่างน้อย 4 ออนซ์ คนให้เข้ากันและดื่มทันที ควรดื่มให้หมด หากมียาเหลือในแก้ว เทน้ำเพิ่มเล็กน้อยเพื่อให้ยาละลายและดื่มทันที
ควรเก็บรักษายาอะเซตามิโนเฟนในอุณหภูมิห้อง รวมถึงเก็บให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับยา คุณไม่ควรเก็บไว้ในห้องน้ำหรือตู้เย็น ยาอะเซตามิโนเฟนแต่ละยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญ คือ การอ่านคำแนะนำการเก็บรักษายาบนบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามเภสัชกรเพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
คุณไม่ควรทิ้งยายาอะเซตามิโนเฟนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่คุณได้รับคำแนะนำให้ทำอย่างนั้น สิ่งสำคัญคือทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่จำเป็นต้องรับประทานอีกต่อไป ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีทิ้งยาอย่างปลอดภัย
ก่อนการใช้ยา ควรแจ้งแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้
การใช้ยาเกินขนาดอาจส่งผลเสียต่อตับ และอาจรุนแรงถึงชีวิต รีบพบแพทย์ หากเกิดอาการคลื่นไส้ ปวดบริเวณท้องส่วนบน คัน เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีโคลน หรือตาหรือผิวเหลือง
ไม่ควรใช้ยานี้โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หากคุณเคยเป็นโรคตับแข็ง หรือดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออันตรายที่เกิดกับตับขณะใช้ยาอะเซตามิโนเฟน
หยุดใช้ยาทันทีและพบแพทย์หากเกิดอาการดังนี้
การใช้ยาอาจส่งผลต่อผลการตรวจหาระดับน้ำตาลกลูโคสในปัสสาวะได้
ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอ ที่จะระบุความเสี่ยงขณะที่ใช้ยาอะเซตามิโนเฟน ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง
เพื่อประเมินข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนรับประทานยาอะเซตามิโนเฟน อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยานี้จัดเป็นยาที่มีความเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์ประเภท C
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาจัดประเภทความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ดังต่อไปนี้
หยุดใช้ยาอะเซตามิโนเฟนทันทีและไปพบแพทย์หากเกิดอาการดังนี้
ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากเกิดอาการแพ้เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้า ริมฝีปาก ลิ้นและคอบวมขึ้น
ในบางกรณี ยาอะเซตามีโนเฟนอาจทำให้เกิดอาการทางผิวหนังอย่างรุนแรง ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต กรณีนี้อาจเกิดขึ้นแม้เคยใช้ยานี้มาก่อน และไม่มีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ยาทันที และไปพบแพทย์หากเกิดผื่นแดงบริเวณผิวหนัง และผื่นลามไปทั่ว และผิวหนังพองและลอก หากเกิดอาการดังกล่าว ไม่ควรใช้ยาใดๆ ที่มีส่วนผสมของยาอะเซตามิโนเฟนอีก
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ยาอะเซตามีโนเฟนอาจมีปฏิกิริยาต่อยาตัวอื่นที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้
คุณควรเก็บรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาที่จำหน่ายตามใบสั่งยา ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา และสมุนไพร) และแจ้งให้แพทย์รวมถึงเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่มหรือหยุดรับประทาน รวมถึงเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์
ยาอะเซตามีโนเฟนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ โดยเปลี่ยนฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงให้ที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อถามถึงอาหารหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้ก่อนรับประทานยา
ยาอะเซตามีโนเฟนอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาของยาที่มีต่อร่างกายอาจทำให้สุขภาพของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบเกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ
อายุข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถแทนคำปรึกษาทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนใช้ยาอะเซตามีโนเฟน
สำหรับอาการไข้ในผู้ใหญ่
โดยการฉีด
น้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป: ฉีดยาขนาด 1000 มิลลิกรัมเข้าหลอดเลือดดำ ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 650 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
น้ำหนักต่ำกว่า 50 กิโลกรัม ฉีดขนาด 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 12.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
สำหรับรับประทาน
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที: ขนาด 325 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์นาน: ขนาด 1300 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง
ชนิดเหน็บทวาร
สำหรับอาการปวดในผู้ใหญ่
โดยการฉีด
น้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป: ฉีดยาขนาด 1000 มิลลิกรัมเข้าเส้นเลือดดำ ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 650 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
น้ำหนักน้อยกว่า50 กิโลกรัม: ฉีดยาขนาด 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเข้าเส้นเลือดดำ ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 12.5 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
สำหรับรับประทาน
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที: ขนาด 325 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์นาน: ขนาด 1300 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง
ชนิดเหน็บทวาร
สำหรับอาการไข้ในเด็ก
โดยการฉีด
อายุ 2 ถึง 12 ปี ฉีดยาขนาด 15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือ 12.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป และน้ำหนักตัวน้อยกว่า 50 กิโลกรัม ฉีดยาขนาด 15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 12.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป และน้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป ฉีดยาขนาด 1000 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 650 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
สำหรับรับประทาน
ทานขนาด 10 ถึง 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
ปริมาณยาที่ใช้ให้พิจารณาจากน้ำหนักตัวก่อนอายุ
อายุ 12 ปีขึ้นไป
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที: ขนาด 325 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์นาน: ขนาด 1300 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง
สำหรับเหน็บทวาร
สำหรับอาการปวดในเด็ก
โดยการฉีด
อายุ 2 ถึง 12 ปี ฉีดยาขนาด 15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือ 12.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป และน้ำหนักตัวน้อยกว่า 50 กิโลกรัม ฉีดยาขนาด 15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 12.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป และน้ำหนักตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไป ฉีดยาขนาด 1000 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง หรือ 650 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง
สำหรับรับประทาน
ทานขนาด 10 ถึง 15 มิลลิกรัมต่อนำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
ปริมาณยาที่ใช้ให้พิจารณาจากน้ำหนักตัวก่อนอายุ
อายุ 12 ปีขึ้นไป
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที: ขนาด 325 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ตัวยารูปแบบออกฤทธิ์นาน: ขนาด 1300 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง
สำหรับเหน็บทวาร
อะเซตามีโนเฟนอยู่ในรูปแบบดังต่อไปนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิขฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย