อะโทรพีน (Atropine) มักใช้เพื่อลดการผลิตน้ำลาย และสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ ก่อนการผ่าตัด และยังใช้เพื่อรักษาอาการชักหดเกร็งภายในกระเพาะ ลำไส้
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
อะโทรพีน (Atropine) มักใช้เพื่อลดการสร้างน้ำลาย และสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ ก่อนการผ่าตัด และยังใช้เพื่อรักษาอาการชักหดเกร็งภายในกระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะอื่นๆ นอกจากนี้ยังอาจใช้เพื่อต้านผลของยาหรือสภาวะอื่นๆ ตามที่แพทย์กำหนด
อะโทรพีน เป็นยาต้านโคลีเนอร์จิค (anticholinergic) ทำงานโดยการยับยั้งประสิทธิภาพของสารเคมีในร่างกายซึ่งได้แก่ สารอะซิทิลคอลีน (acetylcholine) ภายในระบบประสาท กระเพาะ ลำไส้ และต่อมบางชนิด (เช่น ต่อมน้ำลาย) ทางเดินปัสสาวะ และเนื้อเยื่ออื่นๆ
ยาอะโทรพีน มักให้โดยการฉีด ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ในโรงพยาบาล หรือคลินิก หากคุณต้องใช้ยาอะโทรพีนที่บ้าน ผู้ดูแลสุขภาพจะสอนวิธีการฉีดยาให้ ควรทำความเข้าใจวิธีการใช้ยาอะโทรพีนให้ดี ทำตามขั้นตอนที่เรียนรู้มาให้ถูกต้อง ติดต่อกับผู้ดูแลสุขภาพ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ
อย่าใช้ยาอะโทรพีนหากยามีฝุ่นตะกอน ขุ่น หรือเปลี่ยนสี หรือหากขวดยาแตกหรือเสียหาย
เก็บยานี้พร้อมทั้งเข็มฉีดยาให้ห่างไกลมือของเด็กและสัตว์เลี้ยง ห้ามใช้เข็มฉีดยาหรือวัสดุอื่นซ้ำ สอบถามผู้ดูแลสุขภาพเกี่ยวกับวิธีการกำจัดวัสดุเหลานี้ หลังจากการใช้งาน ควรทำตามกฏการกำจัดขยะในพื้นที่อย่างเคร่งครัด
ยาอะโทรพีน ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะโทรพีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาอะโทรพีนลงในชักโครก หรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยากหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบในกรณีดังต่อไปนี้
ติดต่อแพทย์หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน หรือมีอาการแย่ลง
ยาอะโทรพีน อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัด ผลเหล่านี้อาจจะแย่ลง หากคุณดื่มสุราหรือใช้ยาบางชนิด ควรใช้ยาอะโทรพีนด้วยความระมัดระวัง อย่าขับรถหรือทำสิ่งที่อาจจะไม่ปลอดภัย จนกว่าคุณจะทราบว่า ยามีผลต่อคุณอย่างไร
อย่าดื่มสุราหรือใช้ยาอื่นที่อาจทำให้ง่วงซึม (เช่น ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ) ขณะที่คุณกำลังใช้ยาอะโทรพีนเนื่องจากอาจทำให้ผลมีมากขึ้น สอบถามเภสัชกรหากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับยาอื่นที่อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม
อย่าทำให้ร่างกายเกิดอาการร้อนมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เป็นลมแดดได้
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณเกิดอาการของภาวะขาดน้ำ ได้แก่ อาการปากแห้ง กระหายน้ำ อ่อนแรง เฉื่อยชา ง่วงซึม ร้อนรน ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ความดันโลหิตต่ำ ปัสสาวะน้อย หัวใจเต้นเร็ว มีความผิดปกติในกระเพาะ เช่น คลื่นไส้และอาเจียน
ยาอะโทรพีน อาจทำให้ดวงตาของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น การสวมแว่นตากันแดดอาจช่วยได้
แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ว่า คุณกำลังใช้ยาอะโทรพีนก่อนรับการรักษาทางการแพทย์หรือทำฟัน รับการรักษาฉึกเฉิน หรือการผ่าตัด
ผุ้สูงอายุควรใช้ยาอะโทรพีนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะรู้สึกไวต่อผลของยามากกว่า
ควรใช้ยาอะโทรพีนด้วยความระมัดระวังอย่างมากหากจะใช้ยานี้กับเด็ก เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการใช้ยากับเด็ก
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ ยาอะโทรพีน จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
แจ้งให้แพทย์ทราบหากผลข้างเคียงทั่วไปเหล่านี้ไม่ยอมหายไปหรือรบกวนคุณ ได้แก่
รับการรักษาในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษากับแพทย์
ยาอะโทรพีน อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาอะโทรพีน อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาอะโทรพีน อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ
0.4-1 มก. ฉีดเข้าหลอดเลือด หนึ่งครั้ง อาจให้ยาในช่วงขนาดยาที่มีประสิทธิภาพซ้ำได้ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง เท่าที่ความจำเป็น เพื่อให้ได้อัตราการเต้นของหัวใจที่เพียงพอ หรือภายใน 5-10 นาที หากอัตราการเต้นของหัวใจเริ่มต้นนั้นไม่เพียงพอ ในกรณีที่หายาก อาจจำเป็นต้องให้ยาซ้ำในขนาด 2 มก.
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการ AV Heart Block
0.4-1 มก. ฉีดเข้าหลอดเลือด หนึ่งครั้ง อาจให้ยาในช่วงขนาดยาที่มีประสิทธิภาพซ้ำได้ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เท่าที่ความจำเป็น เพื่อให้สัญญาณไฟฟ้าหัวใจเป็นปกติ หรือภายใน 5-10 นาที หากประสิทธิภาพเริ่มต้นนั้นไม่เพียงพอ สำหรับอาการสัญญาณไฟฟ้าหัวใจถูกขัดขวาง ในกรณีที่หายาก อาจจำเป็นต้องให้ยาซ้ำในขนาด 2 มก.
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะเป็นพิษจากออร์กาโนฟอสเฟต (Organophosphate Poisoning)
อาการในระดับเบาของการสัมผัสกับแก๊สทําลายประสาท (nerve agent) หรือยาฆ่าแมลง : แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดยาอัตโนมัติ 2 มก./0.7 มล. (สีเขียว) ตรงกลางด้านข้างต้นขา ตามด้วยฉีดอะโทรเพนเพิ่มเติม 2 ครั้งต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ในขนาดยา 2 มก./0.7 มล. หลังจากที่ผ่านไป 10 นาที
หลังจากฉีดครั้งแรกหากผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรง เช่น มีพฤติกรรมที่แปลกหรือสับสน หายใจติดขัด หรือมีสารคัดหลั่งจำนวนมากในปอดหรือทางเดินหายใจ กล้ามเนื้อกระตุกอย่างรุนแรงและมีอาการอ่อนแรงทั่วไป ปัสสาวะและอุจจาระโดยไม่ได้ตั้งใจ ชักกระตุก หรือหมดสติ
อาการในระดับรุนแรงของการสัมผัสกับแก๊สทําลายประสาทหรือยาฆ่าแมลง: แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดยาอัตโนมัติ 3 ครั้งในขนาดยา 2 มก./0.7 มล. (สีเขียว) ตรงกลางด้านข้างต้นขาต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว
อาการที่รุนแรงคือ มีพฤติกรรมที่แปลกหรือสับสน หายใจติดขัด หรือมีสารคัดหลั่งจำนวนมากในปอดหรือทางเดินหายใจ กล้ามเนื้อกระตุกอย่างรุนแรง และมีอาการอ่อนแรงทั่วไป ปัสสาวะและอุจจาระโดยไม่ได้ตั้งใจ ชักกระตุก หรือหมดสติ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาะพิษจากสารต้านโคลีนเอสเตอเรส (Anticholinesterase Poisoning)
2 ถึง 3 มก. ฉีดเข้าหลอดเลือดหนึ่งครั้ง อาจต้องให้ยาซ้ำ เพื่อป้องกันหรือรักษาสัญญาณของ กระบวนการพาราซิมพาโทมิเมติก (parasympathomimetic activity) อาการโคม่า และ/หรือหลอดเลือดหัวใจตีบ
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ
0.01 ถึง 0.03 มก./กก. ฉีดเข้าหลอดเลือดทุกๆ 5 นาที เป็นจำนวน 2 ถึง 3 ครั้งเท่าที่จำเป็น ขนาดยาต่ำสุดคือ 0.1 มก. และขนาดยาสูงสุดคือ 0.5 มก. ขนาดยารวมสูงสุดคือ 1 มก.
ท่อช่วยหายใจ: 0.04 ถึง 0.06 มก./กก. อาจให้ซ้ำได้อีกครั้งหากจำเป็น
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการ AV Heart Block
0.01 ถึง 0.03 มก./กก. ฉีดเข้าหลอดเลือดทุกๆ 5 นาที เป็นจำนวน 2 ถึง 3 ครั้งเท่าที่จำเป็น ขนาดยาต่ำสุดคือ 0.1 มก. และขนาดยาสูงสุดคือ 0.5 มก. ขนาดยารวมสูงสุดคือ 1 มก.
ท่อช่วยหายใจ : 0.04 ถึง 0.06 มก./กก. อาจให้ซ้ำได้อีกครั้งหากจำเป็น
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะเป็นพิษจากออร์กาโนฟอสเฟต (Organophosphate Poisoning)
ทารกน้ำหนักต่ำกว่า 15 ปอนด์ (โดยปกติมักจะอายุต่ำกว่า 6 เดือน) : ใช้เครื่องฉีดยาอัตโนมัติ 0.25 มก./ 0.3 มล. (สีเหลือง)
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย