ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย ใช้ยาต้านจุลชีพต่อเนื่องจนกระทั่งหายจากภาวะไข้จากระดับเม็ดเลือดขาวต่ำ ผู้ป่วยที่พบว่ามีการติดเชื้อรา ควรได้รับการรักษาอย่างน้อย 14 วัน การรักษาควรดำเนินไปอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน หลังจากที่อาการไข้จากระดับเม็ดเลือดต่ำและอาการของโรคอื่นๆ หายดีแล้ว ถ้าหากใช้ยาตามปกติในปริมาณ 50 มก. ต่อวันแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น ให้เพิ่มปริมาณขนาดยาเป็น 70 มก. ต่อวัน
การปรับขนาดยาเนื่องจากโรคไต
ไม่ควรปรับเปลี่ยนขนาดยา
การปรับขนาดยาเนื่องจากโรคตับ
ผู้ใหญ่:
ผู้ที่มีอาการตับวายในระดับต่ำ (ระดับ Child-Pugh 5 ถึง 6): ไม่ควรปรับเปลี่ยนปริมาณยา
ผู้ที่มีอาการตับวายในระดับต่ำ (ระดับ Child-Pugh 7 ถึง 9):
ขนาดยาเริ่มต้น (เมื่อได้รับคำแนะนำ): ให้ทางเส้นเลือด (IV) 70 มก. ในวันแรก
ขนาดยาปกติ: ให้ทางเส้นเลือด (IV) 35 มก. วันละครั้ง
การปรับขนาดยา
ผู้ใหญ่:
ผู้ที่ใช้ยาไรแฟมพิปิน (rifampin): ควรใช้ยาแคสโปฟังกิน 70 มก. วันละครั้ง
ผู้ที่ใช้ยาเนวิราปีน (nevirapine) ยาเอฟฟาไวเร็นซ์ (efavirenz) ยาคาร์บามาซีปีน (carbamazepine) ยาเดกซาเมทาโซน (dexamethasone) หรือยาเฟนิโทอิน (phenytoin) อาจต้องเพิ่มขนาดยาแคสโปฟังกินเป็น 70 มก. วันละครั้ง
การฟอกเลือด
ยาแคสโปฟังกินไม่สามารถขจัดออกได้ด้วยวิธีการฟอกไต ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้เพิ่มขนาดยา
คำแนะนำอื่น ๆ
ควรฉีดยาแคสโปฟังกินด้วยสายน้ำเกลือแบบช้า อย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง
ขนาดยาแคนซิดาส (แคสโปฟังกิน) สำหรับเด็ก
ขนาดสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาอาการติดเชื้อราแคนดิดาในกระแสเลือด (Candidemia)
อาการติดเชื้อราแคนดิดาในกระแสเลือดและอาการติดเชื้อแคนดิดาอย่างเช่น การเกิดหนองในช่องท้อง (intra-abdominal abscesses) เยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) การติดเชื้อที่เยื่อหุ้มปอด (pleural space infections)
อายุ 3 เดือน หรือมากกว่า:
ขนาดยาเริ่มต้น: ให้ทางเส้นเลือด (IV) 70 มก./ตารางเมตร ในวันแรก
ขนาดยาปกติ: ให้ทางเส้นเลือด (IV) 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง
ขนาดยาเริ่มต้นและปกติไม่ควรเกิน 70 มก. โดยไม่คำนึงถึงขนาดยาของคนไข้ที่คำนวณแล้ว หากการให้ยาทางเส้นเลือด (IV) 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้งไม่ทำให้อาการดีขึ้น สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 70 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง (ห้ามเพิ่มมากไปกว่า 70 มก.)
ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย และการตอบสนองของจุลชีพ ตามปกติแล้วการต้านเชื้อราควรดำเนินไปอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน หลังจากการพบการเพาะเชื้อที่เป็นบวก สำหรับคนไข้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ อาจต้องรับการรักษาที่ยาวนานกว่านั้น จนกว่าจะหายจากภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
ขนาดสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาโรคแอสเปอร์จิลโลซีส อินเวสีฟ (Aspergillosis – Invasive)
สำหรับคนไข้ที่มีอาการดื้อยาหรือแพ้ยาตัวอื่น
อายุ 3 เดือน หรือมากกว่า:
ขนาดยาเริ่มต้น: ให้ยาทางเส้นเลือด (IV) 70 มก./ตารางเมตร ในวันแรก
ขนาดยาปกติ: ให้ยาทางเส้นเลือด (IV) 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง
ขนาดยาเริ่มต้นและปกติไม่ควรเกิน 70 มก. โดยไม่คำนึงถึงขนาดยาของคนไข้ที่คำนวณแล้ว หากการใช้ยาในขนาด 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง นั้นไม่ทำให้อาการดีขึ้น สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 70 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง (ห้ามเพิ่มมากไปกว่า 70 มก.)
ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคประจำตัวของคนไข้ การกดภูมิคุ้มกัน และการตอบสนองต่อการรักษา
ขนาดสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาอาการติดเชื้อราในหลอดอาหาร (Esophageal Candidiasis)
อายุ 3 เดือน หรือมากกว่า:
ขนาดยาเริ่มต้น: ให้ยาทางเส้นเลือด (IV) 70 มก./ตารางเมตร ในวันแรก
ขนาดยาปกติ: ให้ยาทางเส้นเลือด (IV) 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง เป็นเวลา 7 ถึง 14 วันหลังจากอาการดีขึ้น
ขนาดยาเริ่มต้นและปกติไม่ควรเกิน 70 มก. โดยไม่คำนึงถึงขนาดยาของคนไข้ที่คำนวณแล้ว หากการใช้ยาในขนาด 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง นั้นไม่ทำให้อาการดีขึ้น สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 70 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง (ห้ามเพิ่มมากไปกว่า 70 มก.)
เนื่องจากผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการติดเชื้อราแคนดิดาที่บริเวณคอหอยมีความเสี่ยงที่อาการอาจจะทรุดตัวลงได้ จึงควรลองพิจารณาวิธีการรักษาด้วยการกดการทำงานของช่องปาก
ขนาดสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาภาวะไข้จากระดับเม็ดเลือดขาวต่ำ (Febrile Neutropenia)
การใช้ยาต้านจุลชีพครอบคลุมเชื้อแบบกว้างๆ (Empirical therapy):
อายุ 3 เดือน หรือมากกว่า:
ขนาดยาเริ่มต้น: ให้ยาทางเส้นเลือด (IV)70 มก./ตารางเมตร ในวันแรก
ขนาดยาปกติ: ให้ยาทางเส้นเลือด (IV) 50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง
ขนาดยาเริ่มต้นและปกติไม่ควรเกิน 70 มก. โดยไม่คำนึงถึงขนาดยาของคนไข้ที่คำนวณแล้ว หากการใช้ยาในขนาด50 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง นั้นไม่ทำให้อาการดีขึ้น สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 70 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง (ห้ามเพิ่มมากไปกว่า 70 มก.)
ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย ใช้ยาต้านจุลชีพต่อเนื่องจนกระทั่งหายจากภาวะไข้จากระดับเม็ดเลือดขาวต่ำ ผู้ป่วยที่พบว่ามีการติดเชื้อราควรได้รับการรักษาอย่างน้อย 14 วัน การรักษาควรดำเนินไปอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน หลังจากที่อาการไข้จากระดับเม็ดเลือดต่ำและอาการของโรคอื่นๆ หายดีแล้ว ถ้าหากใช้ยาตามปกติในปริมาณ 50 มก. ต่อวันแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น ให้เพิ่มปริมาณขนาดยาเป็น 70 มก. ต่อวัน
การปรับขนาดยา
สำหรับเด็ก
ผู้ที่ใช้ยาร่วมกับตัวเหนี่ยวนำการกำจัดยาออกจากร่างกาย เช่น ยาไรแฟมพิปิน (rifampin) ยาเอฟฟาไวเร็นซ์ (efaviren) ยาเนวิราปีน (nevirapine) ยาเฟนิโทอิน (phenytoin) ยาเดกซาเมทาโซน (dexamethasone) หรือยาคาร์บามาซีปีน (carbamazepine): ใช้ยาแคสโปฟังกิน 70 มก./ตารางเมตร วันละครั้ง (ห้ามเกินกว่า 70 มก.)
ข้อควรระวัง
ยังไม่มียาที่ปลอดภัยและได้ผลสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน
รูปแบบยาคานซิดาส (แคสโปฟังกิน)
ยาคานซิดาส (แคสโปฟังกิน) มีขนาดและรูปแบบยาดังนี้
- ผงยาสำหรับใช้ละลายฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยา ควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย