ข้อบ่งใช้ แนฟทิไฟน์
แนฟทิไฟน์ ใช้สำหรับ
แนฟทิไฟน์ (Naftifine) ใช้เพื่อรักษาโรคน้ำกัดเท้า (athlete’s foot) อาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง ยานี้ช่วยกำจัดรอยแดง อาการคัน และผิวลอกเป็นแผ่น ยาแนฟทิไฟน์เป็นยาต้านเชื้อรา ออกฤทธิ์โดยการป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
วิธีการใช้ แนฟทิไฟน์
- ยานี้ใช้เฉพาะกับผิวหนังเท่านั้น ทําความสะอาดและเช็ดบริเวณที่ต้องการให้แห้ง ทาแนฟทิไฟน์บางๆ ตรงบริเวณที่ต้องการรอบๆ แล้วนวดเบาๆ
- ใช้ยานี้ตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ล้างมือให้สะอาดหลังจากใช้งาน ห้ามพันแผลบริเวณนี้เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้บริเวณดวงตา ปาก และด้านในอวัยวะเพศ หากยาได้สัมผัสกับส่วนใดส่วนหนึ่ง ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก
- ห้ามทายานี้บ่อยหรือนานเกินกว่าที่กำหนด เพราะอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้
ใช้ยานี้เป็นอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ง่ายต่อการจำ ควรใช้ยาในเวลาเดียวกันกับทุกวัน
ใช้ยานี้ต่อไปจนกระทั่งครบกำหนดตามใบสั่งแพทย์ แม้อาการจะหายไปหลังจากเริ่มใช้ยาไม่กี่วัน การหยุดยาก่อนกำหนดสามารถทำให้การติดเชื้อกลับมาเป็นซ้ำได้
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
การเก็บรักษา แนฟทิไฟน์
- ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
- เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรทิ้งแนฟทิไฟน์ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน
แนฟทิไฟน์บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาแนฟทิไฟน์
- ก่อนใช้ยาแนฟทิไฟน์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณแพ้ยาชนิดนี้หรือยาต้านเชื้อราอื่นๆ เช่น เทอร์บินาฟีน (terbinafine) สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ก่อนใช้ยานี้ โปรดแจ้งประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์กับแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ
ในช่วงการตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้นและควรปรึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงและผระโยชน์กับแพทย์ก่อนเสมอ
ยานี้อาจซึมเข้าสู่น้ำนมแม่ที่ให้แก่บุตรได้ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
แนฟทิไฟน์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ แนฟทิไฟน์
- อาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยตรงบริเวณที่ใช้
หากอาการไม่หายไปหรือแย่ลง ควรแจ้งกับแพทย์หรือเภสัชกรของคุณทันที
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
การแพ้ยาที่รุนแรงนี้ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงอาจมี ได้แก่ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) เวียนหัวขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
แนฟทิไฟน์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งยาที่คุณใช้ทั้งหมด (ทั้งยาตามใยสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) ให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
แนฟทิไฟน์อาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
แนฟทิไฟน์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการใช้ยานี้
ขนาด แนฟทิไฟน์ สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกลาก
- ครีม 1% : ทาบางๆ และนวดเบา ๆ บริเวณที่ต้องการและบริเวณโดยรอบ วันละ 1 ครั้ง
- เจล 1% : ทาบาง ๆ และนวดเบาๆ บริเวณที่ต้องการและบริเวณโดยรอบ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ครีม 2% : ควรทาบางๆ ในบริเวณที่มีอาการและบริเวณขอบโดยเข้าไปประมาณ 1/2 นิ้ว วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์
วิธีใช้
- ครีม 1% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคัง และโรคกลาก เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes และเชื้อรา Epidermophyton floccosum
- เจล 1% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลาก เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes เชื้อรา T tonsurans และเชื้อรา E floccosum
- ครีม 2% : ใช้สำหรับใช้รักษาโรคสังคังและโรคกลาก เนื่องจากเชื้อรา Trichophyton rubrum
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาสังคัง
- ครีม 1% : ทางบางๆ และนวดเบาๆ บริเวณที่ต้องการและบริเวณโดยรอบ วันละ 1 ครั้ง
- เจล 1% : ทาบางๆ และนวดเบาๆ บริเวณที่ต้องการและบริเวณโดยรอบ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ครีม 2% : ควรทาบางๆ ในบริเวณที่มีอาการบวกบริเวณขอบออกไปประมาณ 1/2 นิ้ว วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์
วิธีใช้
- ครีม 1% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลาก เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes และเชื้อรา Epidermophyton floccosum
- เจล 1% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับโรคสังคังและโรคกลาก เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes เชื้อรา T tonsurans และเชื้อราE floccosum
- ครีม 2% : ใช้สำหรับใช้รักษาโรคสังคังและโรคกลาก เนื่องจากเชื้อรา Trichophyton rubrum
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาเชื้อราที่เท้า
- ครีม 1% : ทาบาง ๆ และนวดเบาๆ บริเวณที่ต้องการและบริเวณโดยรอบ วันละ 1 ครั้ง
- เจล 1% : ทาบางๆ และนวดเบาๆ บริเวณที่ต้องการและบริเวณโดยรอบ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ครีม 2% : ควรทาบางๆ ในบริเวณที่มีอาการบวกบริเวณขอบออกมาประมาณ 1/2 นิ้ว วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- เจล 2% : ควรทาบาง ๆ ในบริเวณที่มีอาการบวกบริเวณขอบออกมาประมาณ 1/2 นิ้ว วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์
วิธีใช้
- ครีม1% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับน้ำกัดเท้า เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes และเชื้อรา Epidermophyton floccosum
- เจล 1% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับน้ำกัดเท้า เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes เชื้อรา T tonsurans และเชื้อรา E floccosum
- ครีม 2% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับน้ำกัดเท้า เนื่องจากเชื้อรา T rubrum
- เจล 2% : ใช้กับการรักษาเฉพาะที่สำหรับน้ำกัดเท้า เนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytesและเชื้อรา E floccosum
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้
- ล้างมือให้สะอาดก่อน-หลังใช้ยา
- ยาใช้เฉพาะที่ ห้ามใช้กับดวงตา ปาก หรือใช้ภายใน
ทั่วไป
- ควรมียืนยันการวินิจฉัยโรคด้วยการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์โดยตรงหรือโดยการเพาะเชื้อ
- ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจใหม่อีกครั้ง หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาด้วยยาสูตร 1% เป็นเวลา 4 สัปดาห์
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ใช้ยาให้ห่างจากบริเวณดวงตา จมูก ปาก
- ปรึกษากับแพทย์หากมีอาการระคายเคืองหรือรู้สึกไวเกิดขึ้นหลังจากทีใช้ยานี้
ขนาดยาแนฟทิไฟน์สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาสังคัง
อายุ 12 ปีขึ้นไป
ครีม 2%: ควรทาบางๆ ในบริเวณที่มีอาการและบริเวณขอบโดยเข้าไปประมาณ 1/2 นิ้ว งันละครั้ง เป็นเวลาสองสัปดาห์
วิธีใช้
ใช้สำหรับรักษาโรคสังคังเนื่องจากเชื้อรา T rubrum
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคเชื้อราที่เท้า
อายุ 12 ปีขึ้นไป
ครีม 2% : ควรทาบาง ๆ ในบริเวณที่มีอาการและบริเวณขอบโดยเข้าไปประมาณ 1/2 นิ้ว วันละครั้ง เป็นเวลาสองสัปดาห์
เจล 2% : ควรทาบาง ๆ ในบริเวณที่มีอาการและบริเวณขอบโดยเข้าไปประมาณ 1/2 นิ้ว วันละครั้ง เป็นเวลาสองสัปดาห์
วิธีใช้
ครีม 2% : ใช้สำหรับรักษาน้ำกัดเท้าเนื่องจากเชื้อรา T rubrum
เจล 2% : ใช้สำหรับรักษาน้ำกัดเท้าเนื่องจากเชื้อรา T rubrum เชื้อรา T mentagrophytes และเชื้อรา E floccosum
ข้อควรระวัง
ยังไม่มีการพิสูจน์ที่แน่ชัดถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาในสูตร 1% สำหรับผู้ป่วยที่อายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย และประสิทธิภาพของยาในสูตร 2% สำหรับผู้ป่วยที่อายุต่ำกว่า 12 ปี
รูปแบบของยา
แบบการใช้งานมี ดังนี้
- ยาแบบครีมทาเฉพาะที่
- ยาแบบเจลทาเฉพาะที่
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานแนฟทิไฟน์ควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]