ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยาโคลซาปีน (Clozapine) มักใช้เพื่อรักษาความผิดปกติทางจิตใจหรืออารมณ์บางอย่าง เช่น โรคจิตเภท (Schizophrenia) โรคจิตอารมณ์ (Schizoaffective Disorder)
ยาโคลซาปีนนั้นเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท (psychiatric medication) ประเภทยาต้านโรคจิต ทำงานโดยการช่วยฟื้นฟูความสมดุลของสารเคมีในสมองบางอย่าง เช่น สารสื่อประสาท (neurotransmitter)
ยาโคลซาปีนจะลดภาพหลอน และช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายในผู้ป่วยที่อาจจะทำร้ายตัวเอง ยานี้ช่วยให้คุณคิดได้ชัดเจนขึ้น คิดถึงตัวเองในแง่บวก และรู้สึกกังวลใจน้อยลง
รับประทานยานี้พร้อมอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหากตามที่แพทย์กำหนด หากคุณใช้ยาเม็ดแบบแตกตัวในปาก ค่อยๆ แกะยาแต่ละเม็ดออกจากห่อก่อนใช้ยา ปล่อยให้ยาเม็ดแบบแตกตัวละลายบนลิ้นแล้วจึงกลืน ไม่จำเป็นต้องรับประทานพร้อมกับน้ำ กำจัดยาเม็ดแตกตัวที่เคยสัมผัสกับอากาศเนื่องจากการเปิดห่อหรือห่อยาเสียหาย อย่าเก็บไว้สำหรับการใช้ยาครั้งต่อไป
หากคุณกำลังใช้ยาน้ำ ควรเขย่าขวดยาให้ดีเป็นเวลา 10 วินาทีก่อนใช้ยาทุกครั้ง ควรตวงยาด้วยเครื่องมือหรือช้อนสำหรับตวงยา อย่าใช้ช้อนธรรมดาเนื่องจากอาจจะได้ขนาดยาไม่ถูกต้อง
ควรเริ่มต้นใช้ยาที่ขนาดต่ำ แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มขนาดยาเพื่อลดผลข้างเคียง เช่น วิงเวียน ง่วงซึม อาการชัก ควรทำตามแนวทางการใช้ยาจากแพทย์อย่างเคร่งครัด ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา เนื่องจากยาโคลซาปีนสามารถทำให้จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ คุณควรจะรับการตรวจเลือดเป็นประจำตามที่กำหนด ควรไปตามนัดตรวจทุกครั้ง
หากคุณลืมใช้ยานานกว่าหนึ่งหรือสองวัน โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับตารางการใช้ยาใหม่ เพื่อกลับไปใช้ยาตามเดิม (อ่านเพิ่มเติมในส่วนการลืมใช้ยา) ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
อย่าหยุดใช้ยาโคลซาปีนโดยไม่ปรึกษากับแพทย์ สภาวะบางอย่างอาจรุนแรงขึ้นหากหยุดใช้ยากะทันหัน และคุณยังอาจเกิดอาการเหงื่อออก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงอย่างรุนแรง เพื่อป้องกันอาการเหล่านี้ขณะหยุดใช้ยา ควรค่อยๆ ลดขนาดยาลงมา
อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ กว่าจะได้ประโยชน์จากยาสูงสุด แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการไม่หายไป หรือแย่ลง
ยาโคลซาปีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาโคลซาปีนบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาโคลซาปีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ก่อนใช้ยานี้แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณแพ้ยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีสารไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะ
ยาโคลซาปีนอาจทำให้เกิดสภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการเต้นของหัวใจ อย่างระยะคิวทียาวในการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (QT prolongation) ในนานๆ ครั้ง อาการระยะคิวทียาวนี้อาจทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติรุนแรงจนอาจถึงแก่ชีวิต และอาการอื่นๆ เช่น วิงเวียนอย่างรุนแรง หมดสติ และจำเป็นต้องรับการรักษาในทันที
ความเสี่ยงในการเกิดระยะคิวทียาวนั้นอาจเพิ่มขึ้น หากคุณมีสภาวะหรือใช้ยาที่อาจทำให้เกิดอาการนี้ได้ ก่อนใช้ยาโคลซาปีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ และหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้
ระดับของโพแทสเซียมหรือแมกนีเซียมในเลือดต่ำ ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดระยะคิวทียาวได้อีกด้วย ความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นหากคุณกำลังใช้ยาบางอย่าง เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาขับน้ำ หรือหากคุณมีสภาวะ เช่น เหงื่อออกมาก ท้องร่วง หรืออาเจียน ปรึกษากับแพทย์ถึงวิธีการใช้ยาโคลซาปีนอย่างปลอดภัย
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัด อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัวหรือการมองเห็นที่ชัดเจนจนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย และควรจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
ก่อนการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าคุณกำลังใช้ยานี้
ยาในรูปแบบยาน้ำหรือยาเม็ดแบบแตกตัว อาจมีน้ำตาลหรือสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล (aspartame) ยาน้ำยังอาจมีแอลกอฮอล์อีกด้วย จึงควรใช้อย่างระมัดระวังหากคุณเป็นโรคเบาหวาน โรคตับโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (phenylketonuria) หรือโรคที่ต้องจำกัด หรือหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้ในอาหาร สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรถึงวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างปลอดภัย
ผู้สูงอายุอาจมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะอาการท้องผูก ปัสสาวะลำบาก ง่วงซึม วิงเวียน หน้ามืด และระยะคิวทียาว (อ่านเพิ่มเติมด้านบน) อาการง่วงซึม วิงเวียน และหน้ามืด สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มได้
ในช่วงตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ทารกที่เกิดจากแม่ที่ใช้ยานี้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ในนานๆ ครั้ง อาจเกิดอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็งหรือสั่นเทา ง่วงซึม หายใจลำบาก ร้องไห้ไม่หยุด หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในทารกแรกเกิด โดยเฉพาะช่วงเดือนแรก โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
เนื่องจากปัญหาทางจิตใจหรืออารมณ์ที่ไม่ได้รับการรักษา เช่น โรคจิตเภท หรือโรคจิตอารมณ์ สามารถกลายเป็นสภาวะที่รุนแรงได้ อย่าหยุดใช้ยานี้นอกเสียจากแพทย์จะสั่ง หากคุณมีแผนที่ตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือคาดว่าอาจจะตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์
ยานี้อาจเข้าสู่น้ำนมแม่ และทำอันตรายต่อทารกได้ ไม่แนะนำการให้นมบุตรระหว่างการใช้ยาโคลซาปีน โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนใช้ยานี้
ยาคีโตโรแลคจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา มีดังนี้
อาจเกิดอาการน้ำลายไหล ง่วงซึม วิงเวียน หน้ามืด ปวดศีรษะ สั่นเทา มีปัญหากับการมองเห็น (เช่น มองเห็นไม่ชัด) น้ำหนักขึ้น และท้องผูก อาการเหล่านี้ โดยเฉพาะอาการง่วงซึม จะลดลงเมื่อร่างกายของคุณคุ้นเคยกับยา หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ควรรับประทานเส้นใยอาหารให้เหมาะสม ดื่มน้ำให้มากๆ และออกกำลังกายเป็นประจำ หากคุณมีอาการท้องผูกระหว่างใช้ยานี้โปรดปรึกษาแพทย์ในการเลือกใช้ยาระบาย (ยาประเภทกระตุ้นและทำให้อุจจาระอ่อนนุ่ม)
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
ในนานๆ ครั้ง ยานี้อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และทำให้เกิดโรคเบาหวาน หรือทำให้โรคเบาหวานรุนแรงขึ้น แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณมีอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง เช่น ปัสสาวะเพิ่มขึ้น กระหายน้ำเพิ่มขึ้น หากคุณเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ และแจ้งผลให้แพทย์ทราบ แพทย์อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาสำหรับโรคเบาหวาน โปรแกรมการออกกำลังกาย หรืออาหารที่รับประทาน
ยานี้ยังอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลหรือไตรกลีเซอไรด์ อาการนี้ควบคู่กับโรคเบาหวานอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการรักษา
แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง คือ
รับการรักษาในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก คือ
ในนานๆ ครั้งยานี้อาจทำให้เกิดสภาวะที่รุนแรงมาก อย่างกลุ่มอาการนิวโรเล็ปติกร้ายแรง (neuroleptic malignant syndrome) รับการรักษาในทันทีหากคุณมีอาการ คือ
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรง ได้แก่
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่ เมโธโคลพราดีน (metoclopramide)
ยาอื่นอาจส่งผลกระทบต่อการกำจัดยาโคลซาปีนออกจากร่างกาย และส่งผลกระทบต่อการทำงานของยานี้ เช่น
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม เช่น
ควรอ่านฉลากยาของยาที่คุณใช้ทั้งหมด เช่น ยาแก้แพ้หรือยาแก้ไอแก้หวัด เนื่องจากยาเหล่านี้อาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมได้ โปรดสอบถามเภสัชกรสำหรับวิธีการใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
ควันบุหรี่อาจลดระดับของยานี้ในเลือดได้ แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณสูบบุหรี่หรือหยุดสูบบุหรี่ไม่นาน
ยาโคลซาปีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาโคลซาปีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาโคลซาปีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคจิตเภท (Schizophrenia)
คำแนะนำ
การใช้ยา
การปรับขนาดยาสำหรับไต
ไตบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ : อาจจำเป็นต้องลดขนาดยา
การปรับขนาดยาสำหรับตับ
ตับบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ : อาจจำเป็นต้องลดขนาดยา
การปรับขนาดยา
การหยุดใช้ยา
ใช้ร่วมกับยายับยั้งไซโตโครมพี450 1เอ2 ขนาดปานกลางหรือเบา เช่น ยาคุมกำเนิดแบบรับประทานหรือแคฟเฟอีน (caffeine) ยายับยั้งไซโตโครมพี450 2ดี6 (CYP450 2D6 Inhibitors) ยายับยั้งไซโตโครมพี450 3เอ4 (CYP450 3A4 Inhibitors) เช่น ไซเมทิดีน (cimetidine) เอสซิตาโลแพรม (escitalopram) อิริโทรมัยซิน (erythromycin) พาร็อกซีทีน (paroxetine) บูโพรพิออน (bupropion) ฟลูออกซิทีน (fluoxetine) ควินิดีน (quinidine) ดูล็อกซีทีน (duloxetine) เทอร์บินาฟีน (terbinafine) เซอร์ทราลีน (sertraline)
เมื่อเริ่มต้นการรักษาด้วยยาโคลซาปีน หรือเพิ่มยายับยั้งไซโตโครมพี450 1เอ2 ขนาดปานกลางหรือเบา ยายับยั้งไซโตโครมพี450 2ดี6 หรือยายับยั้งไซโตโครมพี450 3เอ4 เข้าไปในยาโคลซาปีน :
ควรมีการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์และลดขนาดยาโคลซาปีนหากจำเป็น
เมื่อหยุดใช้ยายับยั้งไซโตโครมพี 450 1เอ2 ขนาดปานกลางหรือเบา หรือ ยายับยั้งไซโตโครมพี 450 2ดี6 หรือยายับยั้งไซโตโครมพี450 3เอ4 แล้วใช้ยาโคลซาปีนต่อ :
ควรเฝ้าระวังเพื่อดูว่าประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่และอาจพิจารณาเพิ่มขนาดยาโคลซาปีนหากจำเป็น
ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำไซโตโครมพี450 3เอ4 (CYP450 3A4 Inducers) ขนาดแรง เช่นเฟนิโทอิน (phenytoin) คาร์บาเมเซพีน (carbamazepine) สมุนไพรเซนต์จอห์น (St. John’s wort) และไรแฟมพิน (rifampin) :
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้ยา
ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
ยาเม็ดแบบแตกตัว
ยาแขวนตะกอนสำหรับรับประทาน
การเก็บรักษา
ยาแขวนตะกอนสำหรับรับประทาน
ยาแตกตัวสำหรับรับประทาน
ทั่วไป
การเฝ้าระวัง
คำแนะนะสำหรับผู้ป่วย
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย