ขนาดยาโทลบูตาไมด์สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นเบาหวานประเภท 2
ขนาดยาเริ่มต้น: รับประทานยา 1 ถึง 2 กรัม วันละครั้ง หรือแบ่งขนาดยาเพื่อรับประทานในระหว่างวัน
-การปรับยาขึ้นอยู่กับการตอบสนองของน้ำตาลในเลือด
ขนาดยาควบคุม: รับประทานยา 0.25 ถึง 3 กรัม วันละครั้ง หรือแบ่งขนาดยาเพื่อรับประทานในระหว่างวัน
ขนาดยาสูงสุด: 3 กรัมต่อวัน
ความเห็น: การย้ายผู้ป่วยจากการรักษาด้วยการรับประทานยาต้านปัสสาวะอื่น ๆ ควรทำอย่างระมัดระวัง:
-เมื่อเปลี่ยนการรักษาจากยาโทลบูตาไมด์ ควรมีการดูแลชนิดพิเศษในช่วง 2 สัปดาห์แรก เนื่องจากผลกระทบแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
-เมื่อเปลี่ยนจากการรักษาด้วยอินซูลิน การรักษาด้วยอินซูลินควรทำควบคู่กันด้วย ในผู้ป่วยที่ต้องการอินซูลิน 20 ยูนิตต่อวันหรือมากกว่านั้น
–สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับอินซูลิน 20 ถึง 40 ยูนิตต่อวัน ควรลดปริมาณอินซูลินลง 30% ถึง 50% ในช่วง 2-3 วันแรก จากนั้น จะปรับการรักษาตามการตอบสนอง
–สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการอินซูลินมากกว่า 40 ยูนิตต่อวัน ควรลดปริมาณอินซูลินลง 20% ในวันแรก จากนั้นจะปรับการรักษาตามการตอบสนอง
การใช้: เป็นตัวช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดลง ในผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว
การปรับขนาดยาในผู้ป่วยไต
ใช้ด้วยความระมัดระวัง ควรรักษาระดับขนาดยาเริ่มต้นและขนาดยาควบคุมเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
การปรับขนาดยาในผู้ป่วยโรคตับ
ใช้ด้วยความระมัดระวัง ควรรักษาระดับขนาดยาเริ่มต้นและขนาดยาควบคุมเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
การปรับขนาดยา
ผู้ป่วยสูงอายุ อ่อนแรงหรือขาดสารอาหาร ควรรักษาระดับขนาดยาเริ่มต้นและขนาดยาควบคุมเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
ความเห็นอื่นๆ
คำแนะนำในการจัดการ
รับประทานยาในช่วงเช้า วันละครั้ง
-สำหรับขนาดยาที่มากกว่า 500 มิลลิกรัม แบ่งขนาดยา รับประทานเป็น 2 ครั้งต่อวัน
ข้อสำคัญในการเก็บรักษา
-เก็บให้ห่างจากแสงแดด
คำแนะนำทั่วไป
-ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุ อ่อนแรงหรือขาดสารอาหาร ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแบบผสมผสาน และ/หรือผู้ป่วยที่ตับ ไตหรือต่อมหมวกไตบกพร่อง อาจจำเป็นต้องทำการลดขนาดยา
-ยาตัวนี้ไม่ควรนำมาใช้กับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 1 (type 1 diabetes mellitus) หรือภาวะคีโตซิส (diabetic ketoacidosis)
-โรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก (Hemolytic anemia) อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD) พิจารณายาซัลโฟนิลยูเรียทางเลือกอื่น
-เมื่อผู้ป่วยที่ปรับตัวเข้ากับยารักษาเบาหวาน มีอาการอย่างเช่น มีไข้ แผลติดเชื้อหรือการผ่าตัด อาจจำเป็นต้องหยุดใช้ยาตัวนี้และให้อินซูลินแทน
การสังเกตอาการ
การประเมินทางการแพทย์และทางแล็บ มีความจำเป็นเพื่อระบุขนาดยาต่ำสุดที่มีประสิทธิภาพ และตรวจหาอาการผิดปกติหลายๆ อย่าง
-ควรตรวจสุขภาพภายใน 4 ถึง 8 สัปดาห์แรก และเข้ารับการตรวจเป็นประจำหลังจากนั้น
-การสังเกตอาการด้วยวิธีทางแล็บ ได้แก่ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆ การสังเกตระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง และควรทำการตรวจปัสสาวะ (เช่น กลูโคสและคีโตน) บ่อยขึ้นระหว่างการเริ่มใช้ยาและการเปลี่ยนแปลงขนาดยา; ค่าน้ำตาลเฉลี่ย (HbA1c) ควรทำเมื่อได้รับการอนุญาตจากหมอ
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
-ผู้ป่วยควรเข้าใจถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร เพื่อจัดการกับโรคของพวกเขาเอง
-ผู้ป่วยควรทำความเข้าใจว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การออกกำลังกายเป็นเวลานานหรือมากเกินไป การอดอาหาร การเจ็บป่วย หรือการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ; ผู้ป่วยควรรู้วิธีจัดการกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและเตรียมตัวในการรักษาโรค
-ผู้ป่วยควรระมัดระวังเกี่ยวกับการขับรถและการใช้เครื่องจักร โดยเฉพาะเมื่อมีความเสี่ยงสำหรับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
-ผู้ป่วยควรปรึกษากับหมอ หากมีอาการที่เกิดจากความเครียด อย่างเช่น เป็นไข้ มีบาดแผลหรือโรค เนื่องจากแผนการรักษาโรคเบาหวานอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง
-แนะนำให้ผู้ป่วยปรึกษากับหมอหรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ หากคุณตั้งท้อง มีแนวโน้มที่จะตั้งท้องหรือป้อนนมลูก
ขนาดยาโทลบูตาไมด์สำหรับเด็ก
ไม่เป็นที่แน่ชัดสำหรับขนาดยาในผู้ป่วยวัยเด็ก ยาตัวนี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับลูกของคุณ เป็นเรื่องสำคัญเสมอในการเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความปลอดภัยของยาก่อนใช้ โปรดปรึกษากับหมอหรือเภสัชกรของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
รูปแบบยา
ยาโทลบูตาไมด์ มีให้เลือกใช้ในรูปแบบและฤทธิ์ยาดังต่อไปนี้ ได้แก่
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
- ผงฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด แจ้งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินท้องถิ่นหรือไปยังห้องฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาโทลบูตาไมด์ กลับมาใช้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม หากใกล้ถึงเวลาที่คุณจะต้องใช้ยาครั้งต่อไป ให้งดยาที่ลืมไป แล้วใช้ยาตามกำหนดการเดิม อย่าเพิ่มขนาดยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย