ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา ไซตาโลแพรม (Citalopram) มักใช้เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (depression) ยานี้อาจช่วยเพิ่มระดับของพลังงานและความรู้สึกสุขสบาย ไซตาโลแพรม เป็นยาที่ใช้ในการต้านซึมเศร้าในกลุ่ม SSRI (selective serotonin reuptake inhibitor) ทำงานโดยการช่วยฟื้นฟูสมดุลของสารตามธรรมชาติอย่างเซโรโทนิน (serotonin) ภายในสมอง
ยานี้ยังอาจใช้เพื่อรักษาสภาวะทางจิตใจอื่นๆ อย่างโรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive disorder) โรคแพนิค (panic disorder) นอกจากนี้ยังใช้รักษาอาการร้อนวูบวาบ (hot flashes) ที่เกิดขึ้นในช่วงวัยหมดประจำเดือน (Menopause)
รับประทานยาไซตาโลแพรมตามที่แพทย์กำหนด ควรทำตามแนวทางการใช้ยาบนฉลากยา ในบางครั้งแพทย์อาจเปลี่ยนขนาดยาของคุณ อย่าใช้ยานี้ในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ
ตรวจขนาดของยาน้ำ โดยใช้กระบอกยาหรืออุปกรณ์สำหรับตวงยาหรือถ้วยตวงยา หากคุณไม่มีอุปกรณ์สำหรับตวงยา ให้สอบถามจากเภสัชกร
อาจต้องใช้เวลานานกว่า 4 สัปดาห์ กว่าที่อาการจะดีขึ้น ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามที่กำหนด และแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้น
อย่าหยุดใช้ยาไซตาโลแพรมอย่างกะทันหัน ไม่อย่างนั้นจะมีอาการถอนยาที่ไม่พึงประสงค์ สอบถามวิธีการหยุดใช้ยาอย่างปลอดภัยจากแพทย์
ยาไซตาโลแพรมควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไซตาโลแพรมบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาไซตาโลแพรมลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
อย่าใช้ยาไซตาโลแพรม หากคุณใช้ยาต้านซึมเศร้าในกลุ่ม MAO inhibitor ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาของยาที่รุนแรงได้ ยาเหล่านี้ได้แก่ ไอโซคาร์บอกซาซิด (Isocarboxazid) ไลน์โซลิด (linezolid) ยาเมทิลีนบลูสำหรับฉีด (methylene blue) ฟีเนลซีน (phenelzine) ราซาจิลีน (rasagiline) เซเลจิลีน (selegiline) ทรานิลซัยโปรมีน (tranylcypromine) และอื่นๆ
ผู้ที่อายุน้อยบางราย อาจจะมีความคิดอยากจะฆ่าตัวตาย หลังจากที่ใช้ยาต้านซึมเศร้าช่วงแรกๆ แพทย์ควรจะตรวจสอบความคืบหน้าของอาการเป็นประจำ คนในครอบครัวและผู้ดูแลอื่นๆ ก็ควรจะตื่นตัวเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรืออาการ
การรับประทานยาต้านซึมเศร้าเอสเอสอาร์ไอขณะตั้งครรภ์นั้น อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับปอดที่รุนแรง หรืออาการแทรกซ้อนอื่นๆ ต่อทารก แต่หากคุณหยุดใช้ยาต้านซึมเศร้า อาจทำให้อาการกำเริบได้ แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณตั้งครรภ์ อย่าเริ่มหรือหยุดใช้ยานี้ ขณะตั้งครรภ์ โดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาไซตาโลแพรมจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปอาจมีดังนี้
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีอาการ
รับการรักษาในทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีอาการใหม่หรืออาการที่แย่ลง เช่น มีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือพฤติกรรม วิตกกังวล มีอาการแพนิคกำเริบ (panic attacks) มีปัญหากับการนอนหรือหากคุณรู้สึกหุนหันพลันแล่น ฉุนเฉียว ร้อนรน ไม่เป็นมิตร ก้าวร้าว กระสับกระส่าย ตื่นตัวจนเกินไป (ทางจิตใจหรือร่างกาย) ซึมเศร้ามากกว่าเดิม หรือมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาไซตาโลแพรมอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้คือ
ยาไซตาโลแพรมอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาไซตาโลแพรมอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ ถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้คือ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (Depression):
ขนาดยาเริ่มต้น: 20 มก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาปกติ: 20 ถึง 40 มก./วัน อาจเพิ่มขนาดยาเริ่มต้น 20 มก. ไม่เกินสัปดาห์ละครั้งจนถึงขนาดยาสูงสุด 40 มก.ต่อวัน
ขนาดยาสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (Depression):
รับประทาน 20 มิลลิกรัม/วัน เป็นขนาดยาที่แนะนำสูงสุดสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (Depression):
เด็กจนถึงอายุ 11 ปี: ขนาดยาเริ่มต้น: 10 มก. รับประทานวันละครั้ง ค่อยๆ เพิ่มขนาดยา 5 มก./วัน ทุกๆ 2 สัปดาห์ตามความจำเป็นทางการแพทย์ ช่วงขนาดยาคือ: 20 ถึง 40 มก./วัน
12 ถึง 18 ปี: ขนาดยาเริ่มต้น: 20 มก. รับประทานวันละครั้ง ค่อยๆ เพิ่มขนาดยา 10 มก./วัน ทุกๆ 2 สัปดาห์ตามความจำเป็นทางการแพทย์ ช่วงขนาดยาคือ: 20 ถึง 40 มก./วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder):
เด็กจนถึงอายุ 11 ปี: ขนาดยาเริ่มต้น: 5-10 มก. รับประทานวันละครั้ง ค่อยๆ เพิ่มขนาดยา 5 มก./วัน ทุกๆ 2 สัปดาห์ตามความจำเป็นทางการแพทย์ ช่วงขนาดยาคือ: 10 ถึง 40 มก./วัน
12 ถึง 18 ปี: ขนาดยาเริ่มต้น: 10 ถึง 20 มก. รับประทานวันละครั้ง ค่อยๆ เพิ่มขนาดยา 10 มก./วัน ทุกๆ 2 สัปดาห์ตามความจำเป็นทางการแพทย์ ช่วงขนาดยาคือ: 10 ถึง 40 มก./วัน
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมรับประทานยา ควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย