ข้อบ่งใช้
ยาไตรโพรลิดีนใช้สำหรับ
ยาไตรโพรลิดีน (Triprolidine) เป็นยาต้านฮีสตามีน (antihistamine) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการหลั่งสารฮีสตามีนในร่างกาย สารฮีสตามีนนั้นสามารถทำให้เกิดอาการจาม คัน น้ำตาไหล และน้ำมูกไหล
ยาไตรโพรลิดีนใช้เพื่อรักษาอาการจาม น้ำมูกไหล น้ำตาไหล ลมพิษ ผื่นผิวหนัง คัน และอาการของโรคหวัดหรือโรคภูมิแพ้อื่นๆ
ยาไตรโพรลิดีนอาจจะใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากที่อยู่ในคู่มือการใช้ยา
วิธีการใช้ยาไตรโพรลิดีน
ใช้ยานี้ตามที่กำหนดบนฉลากยา หรือตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือใช้ยานานกว่าที่กำหนด ยาแก้ไอหรือยาแก้หวัดนั้นมักจะใช้เป็นระยะสั้นๆ จนกระทั่งอาการหายไป
อย่าใช้ยานี้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ปี โปรดสอบถามแพทย์ ก่อนใช้ยาแก้ไอหรือแก้หวัดในเด็ก อาจเกิดการเสียชีวิต จากการใช้ยาแก้ไอและแก้หวัดในทางที่ผิด ในเด็กที่อายุน้อยมาก
คุณไม่ควรใช้ยาต้านฮีสตามีน เพื่อทำให้เด็กง่วงนอน
ควรยาน้ำโดยใช้กระบอกฉีดยาที่ติดมา หรือช้อนหรือถ้วยสำหรับตวงยา หากคุณไม่มีเครื่องมือสำหรับตวงยา โปรดขอจากเภสัชกร
อย่าใช้ยานี้นานเกิน 7 วันติดต่อกัน โปรดติดต่อแพทย์ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหลังจากรักษาผ่านไป 7 วัน หรือหากคุณเป็นไข้ พร้อมกับมีอาการปวดหัว ไอ หรือผื่นผิวหนัง
หากคุณจำเป็นต้องรับการผ่าตัด โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้าว่า คุณกำลังใช้ยาไตรโพรลิดีน แพทย์อาจจำเป็นต้องหยุดใช้ยาเป็นเวลาสั้นๆ
การเก็บรักษายาไตรโพรลิดีน
ยาไตรโพรลิดีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไตรโพรลิดีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาไตรโพรลิดีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาไตรโพรลิดีน
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารสำคัญที่มีฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ของยาไตรโพรลิดีน หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยาไตรโพรลิดีนจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรห์หรือไม่ โปรดสอบถามแพทย์ก่อนใช้ยานี้ หากคุณตั้งครรภ์
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยาไตรโพรลิดีนสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่หรือส่งผลกระทบต่อทารกที่ดื่มน้ำแม่ได้หรือไม่ ยาต้านฮีสตามีนนั้นสามารถชะลอการผลิตน้ำนมแม่ได้ โปรดสอบถามแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ยาน้ำที่มีน้ำตาลเทียมนั้นอาจจะมีส่วนผสมของฟีนิลอะลานีน (phenylalanine) โปรดตรวจสอบฉลากยา หากคุณเป็นโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (phenylketonuria)
ยานี้อาจทำให้คุณมองเห็นไม่ชัด หรือทำให้ความคิดหรือปฏิกิริยาตอบสนองลดลงได้ ควรระมัดระวังการขับรถ หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว หรือการมองเห็นที่ชัดเจน
การดื่มแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มผลข้างเคียงบางอย่างของยาไตรโพรลิดีนได้
โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนใช้ยาแก้หวัด แก้ไอ แก้แพ้ หรือยานอนหลับอื่นๆ ยาสูตรผสมหลายๆ ชนิดจะมีสารต้านฮีสตามีน การรับประทานยาเหล่านี้ร่วมกัน อาจจะทำให้คุณได้รับยาชนิดนี้มากเกินไป
ควรหลีกเลี่ยงความร้อนมากเกินไป หรือภาวะขาดน้ำขณะออกกำลังกาย และในสภาพอากาศร้อน ยาไตรโพรลิดีนสามารถลดเหงื่อได้ และคุณอาจจะมีโอกาสเป็นโรคลมแดดมากขึ้น
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาไตรโพรลิดีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาไตรโพรลิดีน
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันทีหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
หยุดใช้ยาไตรโพรลิดีน และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้
- อาการปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะติดขัด
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังต่อไปนี้
- ปวดหัว วิงเวียน ง่วงซึม
- มองเห็นไม่ชัด
- ปากแห้ง จมูกแห้ง หรือคอแห้ง
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องผูก
- ปัสสาวะมากขึ้น
- ผู้สึกประหม่าหรือกระสับกระส่าย (โดยเฉพาะในเด็ก)
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาไตรโพรลิดีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาไตรโพรลิดีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาไตรโพรลิดีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- ความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic bronchitis) หรือโรคถุงลมโป่งพอง (emphysema)
- มีการอุดตันในระบบทางเดินอาหาร (กระเพาะอาหารหรือลำไส้)
- โรคไต
- ปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ
- โรคต้อหิน
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาไตรโพรลิดีนสำหรับผู้ใหญ่
โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาไตรโพรลิดีนสำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาน้ำ
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]