backup og meta

ไวโคดิน® (Vicodin®)

ไวโคดิน® (Vicodin®)

ข้อบ่งใช้

ไวโคดิน® ใช้สำหรับ

ไวโคดิน® (Vicodin®) ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรงปานกลาง

ไวโคดิน® มีส่วนผสมของยาแก้ปวดโอปิออยด์ (opioid) อย่าง ไฮโดรโคโดน (hydrocodone) และยาแก้ปวดที่ไม่ใช้โอปิออยด์ อย่าง อะเซตามีโนเฟน (acetaminophen)

ยาไฮโดรโคโดนนั้นจะออกฤทธิ์ต่อสมอง โดยเปลี่ยนการรับรู้ความรู้สึกของร่างกายและการตอบสนองต่ออาการปวด ในขณะที่ยาอะเซตามีโนเฟนนั้นสามารถลดไข้ได้

วิธีการใช้ ไวโคดิน®

ใช้ไวโคดิน®ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ทั้งหมดบนฉลากยา อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า หรือใช้ยานานกว่าที่กำหนด เนื่องจากการใช้ยาเกินขนาดสามารถสร้างความเสียหายต่อตับ หรือทำให้เสียชีวิตได้

ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้

ไวโคดิน®นั้นสามารถเสพติดได้ แม้ว่าจะใช้ยาตามปกติก็ตาม อย่าแบ่งยานี้กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเคยใช้ยาเสพติด ห้ามขายหรือแจกจ่ายไวโคดิน®

หากคุณต้องรับการผ่าตัดหรือการตรวจทางการแพทย์ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าว่า คุณกำลังใช้ยานี้ คุณอาจต้องหยุดใช้ยานี้เป็นเวลาสั้นๆ

อย่าหยุดใช้ยาไวโคดินอย่างกะทันหัน หลังจากใช้ในระยะยาว ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะมีอาการถอนยาที่ไม่น่าพึงประสงค์

การเก็บรักษาไวโคดิน®

ไวโคดิน®ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ไวโคดิน®บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยา หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งไวโคดิน®ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ไวโคดิน®

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก

  • คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
  • หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
  • หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่ออกฤทธิ์ของไวโคดิน® หรือยาอื่นๆ
  • หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ

คุณไม่ควรใช้ไวโคดิน® หากคุณแพ้ต่อยาอะเซตามีโนเฟนหรือยาไฮโดรโคโดน หรือหากคุณเพิ่งดื่มแอลกอฮอล์ ยากล่อมประสาท ยา คลายเครียด หรือยาแก้ปวดแบบเสพติดอื่นๆ

อย่าใช้ไวโคดิน®หากคุณเคยใช้ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอ (MAO inhibitor) ภายใน 14 วันที่ผ่านมา เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาของยาที่อันตรายได้ ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอนั้น มีทั้งยาไซโซคาร์โบซาซิด (isocarboxazid) ยาลิเนโซลิด (linezolid) ยาฟีเนลซีน (phenelzine) ยาราซาจิลีน (rasagiline) ยาเซเลจิลีน (selegiline) และยาทรานีลไซโพรมีน (tranylcypromine)

ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาไฮโดรโคโดน และทำให้เกิดสภาวะที่รุนแรง อย่างกลุ่มอาการเซโรโทนิน (serotonin syndrome) โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยาสำหรับโรคซึมเศร้า อาการป่วยทางจิต โรคพาร์กินสัน อาการปวดหัวไมเกรน การติดเชื้อที่รุนแรง หรือยาป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียน โปรดสอบถามแพทย์ ก่อนเปลี่ยนวิธีการใช้ หรือเวลาการใช้ยาใดๆ

ยาไวโคดินมักจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ในผู้ใหญ่และผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรง ขาดสารอาหาร หรืออ่อนแอ

หากคุณใช้ยาแก้ปวดแบบเสพติดขณะที่กำลังตั้งครรภ์ ทารกของคุณอาจจะมีภาวะพึ่งพายา อาการนี้สามารถทำให้เกิดอาการถอนยา ที่รุนแรงจนถึงแก่ชีวิต กับทารกหลังคลอดได้ ทารกที่เกิดมามีภาวะพึ่งพายาเสพติดนั้น อาจจำเป็นต้องรับการรักษาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์

ยาอะเซตามีโนเฟนและยาไฮโดรโคโดน สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ และทำอันตรายต่อทารกได้ คุณไม่ควรให้นมบุตร ขณะที่กำลังใช้ยาไวโคดิน

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยง ในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ไวโคดิน®จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ไวโคดิน®

ผลข้างเคียงบางส่วนที่พบได้ทั่วไปของยาไวโคดินมีดังนี้

  • ง่วงซึม
  • ปวดหัว
  • หน้ามืด
  • คลื่นไส้
  • ท้องไส้ปั่นป่วน
  • ท้องผูก
  • มองเห็นไม่ชัด
  • ปากแห้ง

โปรดติดต่อแพทย์หากคุณมีอาการ

  • หายใจช้า หัวใจเต้นช้า
  • รู้สึกหน้ามืด คล้ายจะหมดสติ
  • สับสน พฤติกรรมหรือความคิดผิดปกติ
  • ชัก
  • มีรอยช้ำหรือเลือดออกง่าย
  • ภาวะมีบุตรยาก ประจำเดือนขาด
  • ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ  ปัญหาทางเพศ หมดความสนใจทางเพศ
  • ปัญหาเกี่ยวกับตับ – คลื่นไส้ ปวดท้องส่วนบน คัน รู้สึกเหนื่อย เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีคล้ำ อุจจาระสีดินเหนียว ดีซ่าน (ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง)
  • ระดับคอร์ติซอล (cortisol) ต่ำ – คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร วิงเวียน เหนื่อยล้าหรืออ่อนแรงรุนแรงขึ้น

ในกรณีหายาก ยาอะเซตามีโนเฟนอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาผิวหนังที่รุนแรง และอาจถึงแก่ชีวิตได้ อาการนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะเคยใช้ยาอะเซตามีโนเฟนในอดีต และไม่มีปฏิกิรยาใดๆ หยุดใช้ยาไวโคดิน และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการรอยแดง หรือผื่นบนผิวหนังที่แพร่กระจาย และทำให้เกิดแผลพุพองและผิวลอก หากคุณมีปฏิกิริยานี้ คุณไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของอะเซตามีโนเฟนอีก

รับการรักษาในทันที หากคุณมีอาการของกลุ่มอาการเซโรโทนิน (serotonin syndrome) เช่น กระวนกระวาย มองเห็นภาพหลอน เป็นไข้ เหงื่อออก สั่นเทา หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง กระตุก สูญเสียการเคลื่อนไหวที่สอดประสาน คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง

รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ไวโคดิน®อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่

  • ยาแก้ปวดแบบเสพติดอื่นๆ – ยาแก้ปวดโอปิออยด์หรือยาแก้ไอตามใบสั่งของแพทย์
  • ยาที่ทำให้คุณง่วงนอนหรือหายใจช้าลง – ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากล่อมประสาท (sedative) ยาคลายเครียด (tranquilizer) หรือยาระงับอาการทางจิต (antipsychotic medicine)
  • ยาที่ส่งผลกระทบต่อสารเซโรโทนิน (serotonin) ในร่างกาย – ยาสำหรับโรคซึมเศร้า (depression) โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) ปวดหัวไมเกรน การติดเชื้อที่รุนแรง หรือยาป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียน

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ไวโคดิน®อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ไวโคดิน®อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่

  • โรคพิษสุรา (Alcoholism)
  • โรคตับ
  • การเคลื่อนไหวของทางเดินอาหารบกพร่อง (Impaired GI Motility)
  • โรคท้องร่วงแบบติดเชื้อ (Infectious Diarrhea)
  • ทารกคลอดก่อนกำหนด
  • ไตวาย
  • แอลกอฮอล์เป็นพิษเฉียบพลัน (Acute Alcohol Intoxication)
  • ภาวะพึ่งพายา (Drug Dependence)
  • ภาวะความดันโลหิตต่ำ
  • ความดันภายในกะโหลกศีรษะ (Intracranial Pressure)
  • การกดทางเดินหายใจ (Respiratory Depression)
  • โรคฟีนิลคีโตนูเรีย (PKU)
  • ภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ (Adrenal Insufficiency)
  • อาการกระตุกที่ทางเดินน้ำดี (Biliary Spasm)
  • ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism)
  • อาการชัก
  • ภาวะปัสสาวะคั่ง (Urinary Retention)
  • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาของไวโคดิน® สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ใหญ่คือ 1 หรือ 2 เม็ด ทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาอาการปวด ขนาดยาต่อวันทั้งหมด ไม่ควรเกิน 8 เม็ด

ขนาดยาของไวโคดิน® สำหรับเด็ก

สำหรับเด็ก ขนาดยาขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว คุณควรทำความเข้าใจทั้งหมดเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาก่อนใช้ยานี้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาเม็ด ไฮโดรโคโดน ไบทาร์เทรต (hydrocodone bitartrate) ขนาด 10 มก. และอะเซตามีโนเฟนขนาด 300 มก.

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Vicodin. https://www.drugs.com/vicodin.html. Accessed July 18, 2017

Vicodin. http://www.webmd.com/drugs/2/drug-3459/vicodin-oral/details#uses. Accessed July 18, 2017

VICODIN. https://www.rxlist.com/vicodin-drug.htm. Accessed 19 Accessed 2019.

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

อัปเดตโดย: Nattavara Pasathan


บทความที่เกี่ยวข้อง

ยาแก้เจ็บคอ ควรใช้เมื่อไหร่ดี มีข้อควรระวังอย่างไร

ท่ายืดกล้ามเนื้อ แก้ปวดหลัง ได้โดยไม่ต้องพึ่งยา


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา