ลมชักชนิดเหม่อ (Absence Seizure) จัดเป็นโรคทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการชัก เป็นลักษณะการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวในการทำงานของระบบสมอง (มีอาการสั้นกว่า 15 วินาที) ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ไม่มีอาการตอบสนองชั่วคราว
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
ลมชักชนิดเหม่อ (Absence Seizure) จัดเป็นโรคทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการชัก เป็นลักษณะการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวในการทำงานของระบบสมอง (มีอาการสั้นกว่า 15 วินาที และจะกลับมาหายเอง) ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ไม่มีอาการตอบสนองชั่วคราว
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอาการลมชักชนิดเหม่อจะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แต่การสูญเสียสติแม้ในระยะเวลาสั้น ๆ สามารถทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ดังนั้นหากพบอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ลมชักชนิดเหม่อสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่มักพบบ่อยในวัยเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปี ถึง 9 ปี
โดยส่วนใหญ่อาการของลมชักชนิดเหม่อจะเกิดขึ้นกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5-9 ปี ซึ่งจะมีอาการที่แสดงออกแตกต่างกันออกไป ดังนี้
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการลมชักชนิดเหม่อ โดยทั่วไปอาการชักเกิดจากการกระตุ้นของประจุไฟฟ้าที่ผิดปกติจากเซลล์ประสาทในสมอง รวมถึงสาเหตุอื่นๆ ดังนี้
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
นักประสาทวิทยาจะทำการวินิจฉัยความผิดปกติของโรคที่เกี่ยวของกับทางระบบประสาท เช่น โรคลมชัก ในเบื้องต้นจะประเมินอาการของผู้ป่วย สุขภาพโดยรวม การรับประทานยา และการวินิจฉัยอื่นๆ ดังนี้
ในเบื้องต้นการรักษาลมชักชนิดเหม่อแพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาเพื่อต้านอาการชัก เช่น ยาเอโธซักซิไมด์ (Ethosuximide) ลาโมไตรจีน (Lamotrigine) กรดวาลโปรอิก (Valproic) เป็นต้น ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงแพทย์อาจทำการผ่าตัด
หมายเหตุ ในสตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้กรดวาลโปรอิก เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ได้
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ระบุว่า ประมาณ 25% ผู้ป่วยโรคลมชักสามารถป้องกันได้ด้วยการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว ดังต่อไปนี้
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย