backup og meta

ตาล้า สาเหตุ อาการ และการรักษา

คำจำกัดความตาล้าสาเหตุปัจจัยเสี่ยงการวินิจฉัยและการรักษาการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง

ตาล้า เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการใช้สายตามาเกินไป เช่น การขับรถเดินทางไกล จ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดิจิทัลอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดตา ระคายเคือง โดยปกติอาการตาล้าอาจไม่ก่อให้เกิดภาวะรุนแรง และสามารถหายไปได้เองหากดูแลอย่างถูกวิธี

ตาล้า สาเหตุ อาการ และการรักษา

คำจำกัดความ

ตาล้า คืออะไร

ตาล้า คืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตา ส่งผลให้การมองเห็นเปลี่ยนแปลงชั่วคราว เนื่องจากมีการใช้สายตาอย่างหนักในระหว่างวัน เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ เล่นแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน เพราะการใช้สายตายเป็นเวลานานอาจทำให้กะพริบตาน้อยลง ทำให้ขาดความชุ่มชื้นในดวงตา จนตาแห้ง แสบตา และตาล้า ซึ่งปกติแล้วควรกะพริบตาประมาณ 18 ครั้งต่อนาที เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในดวงต

ตาล้า

อาการตาล้า

อาการตาล้า สามารถสังเกตได้จากสัญญาณเตือน ดังต่อไปนี้

  • เจ็บตา ระคายเคืองตา
  • ตาแห้ง หรือตาแฉะ
  • น้ำตาไหล
  • ปวดศีรษะ
  • ลืมตายาก
  • มีปัญหาในการโฟกัสสิ่งรอบตัว มองเห็นเป็นภาพซ้อน
  • ตาไวต่อแสง
  • ปวดคอ ไหล่ หรือหลังจากการนั่งจดจ่อเป็นเวลานาน

สาเหตุ

สาเหตุตาล้า

สาเหตุที่อาจทำให้ตาล้า มีหลายประการ ดังนี้

  • การจ้องหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัล โดยไม่หยุดพักสายตา
  • ใช้สายตาในพื้นที่ที่แสงน้อย
  • ขับรถเดินทางไกล เนื่องจากต้องใช้สมาธิจ้องมองถนนเป็นเวลานาน
  • ดวงตาสัมผัสกับอากาศ หรือลมแรง เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม
  • โรคสายตา เช่น ตาแห้ง สายตาสั้น สายตายาว

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงตาล้า

ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดคือการใช้สายตาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ดิจิทัลอื่น ๆ เป็นเวลานาน โดยไม่กะพริบตาเพิ่มความชุ่มชื้น และได้รับผลกระทบจากแสงหน้าจอสะท้อนเข้าดวงตา ทำให้ดวงตามีความตึงเครียด ส่งผลให้เกิดอาการตาล้า เจ็บตา

การวินิจฉัยและการรักษา

ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้ ไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยตาล้า

คุณหมออาจสอบถามอาการ และพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุนำไปสู่อาการตาล้า และทดสอบการมองเห็น

การรักษาตาล้า

การรักษาอาการตาล้าเป็นไปตามสาเหตุที่ผู้ป่วยเป็น โดยส่วนใหญ่คุณหมออาจแนะนำให้ใส่แว่นที่เหมาะกับปัญหาสายตา และกิจกรรมที่ปฏิบัติเป็นประจำ เพื่อลดอาการตาล้า ปวดตา

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง

การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันตาล้า

เพื่อป้องกันอาการตาล้า ควรปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนี้

  • กะพริบตาบ่อย ๆ
  • เมื่อใช้สายตาเป็นเวลานาน ควรพักสายตาเป็นระยะ โดยการละสายตาจากหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัล ให้ห่างออกไปประมาณ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร ทุก ๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที
  • จำกัดเวลาอยู่หน้าจอ โดยเฉพาะเด็ก เพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดตา
  • ปรับแสงในห้องมีความสว่างพอดี เมื่อดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพทมือถือ
  • หากสามารถควบคุมอากาศภายในห้อง หรือภายในบ้านได้ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความชื้น พัดลม ควรปรับอย่างพอดี ป้องกันลมเข้าตา ที่อาจทำให้ตาแห้ง แสบตา นำไปสู่อาการตาล้า
  • สวมใส่แว่น หรือคอนแทคเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
  • ใช้น้ำตาเทียมหากรู้สึกว่าตาแห้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Eye Fatigue. http://www.webmd.com/eye-health/eye-fatigue-causes-symptoms-treatment. Accessed September 29, 2021

Eyestrain. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/eyestrain/symptoms-causes/syc-20372397. Accessed September 29, 2021

Eyestrain. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/eyestrain/diagnosis-treatment/drc-20372403 . Accessed September 29, 2021

13 Tips to Prevent Eye Fatigue. https://www.webmd.com/eye-health/eye-fatigue-causes-symptoms-treatment. Accessed September 29, 2021

11 Tips for Eliminating Computer Eye Strain. http://visionsource.com/blog/tips-for-eliminating-computer-eye-strain/ . Accessed September 29, 2021

เวอร์ชันปัจจุบัน

29/09/2021

เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี

อัปเดตโดย: ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความเชื่อผิดๆ และข้อเท็จจริงสามประการเกี่ยวกับ สายตา

เตรียมพร้อมรับมือกับ ภาวะสายตายาวตามวัย ในวัยใกล้ 40


ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง โดย ทีม Hello คุณหมอ · เขียน โดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไข 29/09/2021

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา