backup og meta

การทำใจยอมรับ เมื่อรู้ว่าติดเชื้อ HIV

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus : HIV) ส่วนใหญ่มักอยู่ในสภาวะอารมณ์แปรปรวน อันมีสาเหตุมาจากความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า การถูกตีตราทางสังคมจนทำให้เกิดภาวะบีบคั้นทางด้านจิตใจ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงควรเรียนรู้วิธีการทำใจยอมรับเมื่อรู้ว่าตัวเองติดเชื้อ HIV

[embed-health-tool-ovulation]

ปฏิกิริยาของผู้ป่วย ติดเชื้อ HIV

แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากติดเชื้อเอชไอวี และเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีเมื่อทราบข่าวจะมีปฏิกิริยาปฏิเสธสิ่งที่รับรู้ เช่น ไม่ยอมรับความจริง โกรธคนที่ทำให้ติดเชื้อ (อาการแสดงออกมากหรือน้อยแล้วแต่บุคคลมีอาการตอบสนองแตกต่างกัน) ดังนั้นแพทย์ ผู้ให้คำปรึกษา รวมถึงผู้ที่อยู่รอบข้างผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะต้องเข้าใจโดยปฏิกิริยาเหล่านี้  คุณหมอเรียกว่า “ปฏิกิริยาของความโศกเศร้า” หรือ “Stage of grief” แบ่งออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้

  1. ระยะปฏิเสธ (Denial) เป็นเรื่องธรรมดาที่จะปฏิเสธสิ่งที่รับรู้ ไม่เชื่อ ไม่สามารถรับความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
  2. ระยะโกรธ (Anger) ความผิดหวังที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรู้สึกโกรธ เช่น สิ่งที่เกิดขึ้น บุคคลที่ทำให้ติดเชื้อ รวมถึงแพทย์ที่ทำการรักษา
  3. ระยะต่อรอง (Bargaining) การร้องขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง อยากให้หายจากโรคนี้
  4. ระยะซึมเศร้า (Depression) ระยะนี้ผู้ติดเชื้อเริ่มยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่ง  ต้องคอยระวังอารมณ์เพราะอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า โดยอาการความเสียใจมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคลด้วย
  5. ระยะยอมรับ (Acceptance) เมื่อผู้ติดเชื้อสามารถยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ จะมีการปรับความคิด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทางบวกมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสามารถอยู่กับเชื้อเอชไอวีไปได้อย่างไม่มีความวิตกกังวล และมองถึงอนาคตได้มากขึ้น

วิธีเยียวยาจิตใจ สำหรับคนที่ ติดเชื้อ HIV

แพทย์เป็นคนแรกที่จะทราบผลการติดเชื้อเอชไอวีคนแรก ดังนั้นในขั้นตอนแรกแพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาจะต้องประเมินในเรื่องของพื้นฐานชีวิตผู้ป่วย เช่น ชีวิตความเป็นอยู่ พื้นฐานครอบครัว รวมถึงสภาพแวดล้อมของผู้ป่วย สถานที่จะต้องมีความเป็นส่วนตัว สงบ หลังจากที่ชี้แจงผู้ป่วยว่าติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อค รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

แพทย์จึงต้องสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย เอาใจเขามาใส่ใจ เช่น การให้กำลังใจ ให้ความรู้เกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี แนวทางในการรักษา พยายามทำให้ผู้ติดเชื้อมองภาพรวมในอนาคตว่าจริง ๆ แล้วเอชไอวี เป็นแค่การติดเชื้อ ไม่ใช่เป็นโรค หากผู้ป่วยเข้ากระบวนการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและไม่เข้าสู่ภาวะโรคเอดส์

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

นายแพทย์วิฉกร จิตประพันธ์  แพทย์ประจำ พัลซ์ คลินิก สาขา สีลม (Pulse clinic)

How Can You Help Someone Who Has Been Newly Diagnosed with HIV?. https://www.hiv.gov/hiv-basics/overview/making-a-difference/supporting-someone-living-with-hiv#:~:text=By%20getting%20linked%20to%20HIV,infection%20from%20progressing%20to%20AIDS.. Accessed April 30, 2022.

Living with HIV and AIDS. https://www.nhs.uk/conditions/hiv-and-aids/living-with/. Accessed April 30, 2022.

HIV. https://www.cdc.gov/hiv/basics/livingwithhiv/index.html. Accessed April 30, 2022.

Living with HIV/AIDS. https://medlineplus.gov/livingwithhivaids.html. Accessed April 30, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

30/04/2022

เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

การป้องกันโรคเอดส์ สำคัญอย่างไร และทำได้อย่างไร

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเชื้อ เอชไอวี / เอดส์ ที่ควรทำความเข้าใจเสียใหม่


ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง โดย ทีม Hello คุณหมอ · เขียน โดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไข 30/04/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา