การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

การติดเชื้อเอชไอวี ส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกโจมตี หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็จะทำให้เกิดโรคเอดส์ได้ และนี่คือสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้เกี่ยวกับ การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ เพื่อจะได้ป้องกันตัวเอง รวมถึงดูแลสุขภาพโดยรวมของคุณได้อย่างเหมาะสม

เรื่องเด่นประจำหมวด

การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

HIV อาการ ในแต่ละระยะของการติดเชื้อ เป็นอย่างไร

เมื่อติดเชื้อ HIV อาการ ที่ปรากฏจะแตกต่างไปในแต่ละระยะ โดยการติดเชื้อ HIV แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะการติดเชื้อเฉียบพลัน ระยะการติดเชื้อไม่แสดงอาการ และระยะโรคเอดส์ ทั้งนี้ หากผู้ติดเชื้อ HIV ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาดและปราศจากสารตกค้าง และรับประทานยาต้านไวรัสทุกวัน จะช่วยชะลอหรือป้องกันไม่ให้เข้าสู่ระยะโรคเอดส์ได้ ทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุด [embed-health-tool-bmi] HIV คืออะไร HIV (เอชไอวี) ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเซลล์ซีดี 4 (CD4 cells) ซึ่งทำหน้าต่อสู้กับการติดเชื้อและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดนี้น้อยลง จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหากการติดเชื้อ HIV พัฒนาจนเข้าสู่ระยะสุดท้ายหรือระยะโรคเอดส์ (AIDs) ก็จะยิ่งทำให้เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่มักรักษาได้ยากและติดเชื้อซ้ำได้ง่าย เช่น วัณโรค การติดเชื้อรา การติดเชื้อในสมอง เชื้อ HIV สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสหรือได้รับของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ ด้วยวิธีต่อไปนี้ การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักโดยไม่สวมถุงยางอนามัย เป็นวิธีที่พบได้บ่อยมากที่สุด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น เช่น การเสพยาเสพติดด้วยกัน การสัมผัสเลือดหรือของเหลวของผู้ติดเชื้อ […]

สำรวจ การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

ลิ้นคนเป็นเอดส์ มีลักษณะอย่างไรบ้าง

ลิ้นคนเป็นเอดส์ หมายถึง ลิ้นของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต่ำลง ส่งผลให้เสี่ยงติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น เชื้อแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida Albicans) ซึ่งทำให้เป็นเชื้อราในช่องปาก หรือเชื้อเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus หรือ HSV) ซึ่งเป็นสาเหตุของเริมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรวมถึงบริเวณลิ้นและในช่องปากด้วย [embed-health-tool-ovulation] เอดส์ คืออะไร เอดส์ (AIDS) หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นอาการในระยะสุดท้ายของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยผู้ป่วยจะมีระดับเม็ดเลือดขาว CD4 (Cluster of Differentiation 4) ที่มีหน้าที่ควบคุมและต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ในระดับต่ำกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อหรือป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้ ระดับ CD4 ในคนทั่วไปจะเท่ากับ 500-1,400 เซลล์/เลือด 1 มิลลิลิตร ในขณะที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ระดับ CD4 จะลดลงไปเรื่อย ๆ จนเหลือประมาณ 200 […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

ตุ่ม PPE หรือตุ่มเอดส์ เมื่อเป็นแล้วควรดูแลตนเองอย่างไร

ตุ่ม PPE เป็นอาการทางผิวหนังอย่างหนึ่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) อาจเรียกว่าตุ่มเอดส์ มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก อาจทำให้รู้สึกคัน มักพบตามผิวหนังบริเวณนอกร่มผ้า เช่น ใบหน้า แขน ขา โดยทั่วไปตุ่ม PPE จะพบได้ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีระยะที่ 2 ทั้งนี้ เมื่อไปพบคุณหมอ คุณหมออาจให้คนไข้รับประทานยาหรือทายาแก้แพ้ เพื่อรักษาอาการคัน [embed-health-tool-ovulation] ตุ่ม PPE คืออะไร PPE ย่อมาจาก Pruritic Papular Eruption หมายถึง ตุ่มแดงขนาดเล็กคล้ายตุ่มยุงกัด ก่อให้เกิดอาการคัน โดยปกติตุ่ม PPE มักพบได้ตามใบหน้า แขน หรือขาของผู้ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ทำให้บางครั้งถูกเรียกว่า “ตุ่มเอดส์” อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อโรคเอชไอวีบางรายอาจไม่มีตุ่ม PPE ขึ้นตามร่างกาย เนื่องจากตุ่ม PPE มักพบในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม ลดจำนวนลงจนเหลือน้อยกว่า 200 ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร ตุ่ม PPE อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

ผื่นแดง เอดส์ เป็นอย่างไร เกิดจากอะไร

ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอสไอวี (HIV) จะมีอาการของโรคหลายระดับ การติดเชื้อในระยะแรกอาจไม่แสดงอาการและผู้ป่วยยังมีร่างกายแข็งแรงเหมือนคนปกติที่ไม่ติดเชื้อ แต่เมื่อไวรัสแบ่งตัวและเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันจนเม็ดเลือดขาวมีจำนวนลดลง และหากถึงระยะสุดท้ายของการติดเชื้อหรือที่เรียกว่าระยะเอดส์ อาจทำให้มีอาการเจ็บป่วย เช่น เกิด ผื่นแดง เอดส์ กระจายทั่วร่างกาย เกิดอาการคันที่แขน ขา ใบหน้า และลำตัว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยระดับความรุนแรงของอาการที่พบมักขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย [embed-health-tool-bmr] เอดส์คืออะไร โรคเอดส์ (AIDS) คือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ถือเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (Human immunodeficiency virus หรือ HIV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ ได้ตามปกติ เชื้อเอชไอวีมักแพร่กระจายได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสกับเลือดที่ติดเชื้อ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ เป็นต้น ทั้งยังสามารถแพร่จากแม่สู่ลูกได้ทั้งในช่วงตั้งครรภ์ ขณะคลอด และในช่วงให้นม ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะมีอาการที่แตกต่างกันไปตามระยะของการติดเชื้อ ภาวะทางผิวหนัง เช่น ตุ่มคัน ผื่นแดง เป็นอาการที่พบได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นของการติดเชื้อเอชไอวี หากไม่ควบคุมด้วยการรับประทานยาต้านไวรัส การติดเชื้อจะลุกลามไปเรื่อย ๆ นำไปสู่ระยะป่วยเป็นโรคเอดส์ หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome หรือ AIDS) […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

เอดส์ อาการ เริ่มต้น เป็นอย่างไร และควรดูแลตัวเองอย่างไร

เอดส์ หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นอาการในระยะสุดท้ายของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยผู้ป่วยจะมีเม็ดเลือดขาว CD4 ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ติดเชื้อหรือป่วยเป็นโรคที่ค่อนข้างรุนแรงได้ง่ายกว่าคนทั่วไป รวมไปถึงมีการติดเชื้อฉวยโอกาสเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ อาการในระยะแรกหลังการติดเชื้อเอชไอวี ประกอบด้วย มีไข้ ปวดหัว เจ็บคอ ซึ่งคล้ายกับอาการของโรคหวัด ทำให้ผู้ติดเชื้อหลายคนอาจไม่ระวังหรือสงสัยว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวี และไม่ไปพบคุณหมอตั้งแต่แรก ๆ กระทั่งติดเชื้อรุนแรงขึ้นจนเข้าสู่ระยะของโรคเอดส์ในที่สุด [embed-health-tool-ovulation] เอดส์ คืออะไร เอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome หรือ AIDS) หมายถึง อาการในระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) ซึ่งติดต่อผ่านเลือด การถ่ายเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ผู้ป่วยโรคเอดส์จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง หรือป่วยง่ายกว่าคนทั่วไป เนื่องจากจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าในร่างกายถูกทำลายโดยเชื้อเอชไอวี ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มการติดเชื้อฉวยโอกาส คนปกติจะมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ของจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,500 เซลล์ต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ผู้ป่วยโรคเอดส์จะมีเซลล์ดังกล่าวประมาณ 200 เซลล์ต่อลูกบาศก์เมตร เอดส์ อาการ เริ่มต้น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

อาการโรคเอดส์ผู้ชาย สังเกตอย่างไร

โรคเอดส์ คืออาการระยะสุดท้ายของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย อาการโรคเอดส์ผู้ชายอาจไม่แตกต่างจากอาการโรคเอดส์ผู้หญิงมากนัก ทั้งนี้ เชื้อเอชไอวีสามารถแพร่กระจายไปยังบุคคลอื่นได้หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือติดต่อผ่านทางเลือดของผู้ติดเชื้อ หากพบว่าติดเชื้อเอชไอวีควรเร่งรักษาในทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และป้องกันเชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น [embed-health-tool-bmi] สาเหตุของโรคเอดส์ สาเหตุของโรคเอดส์เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวีจากสารคัดหลั่ง น้ำอสุจิ หรือเลือดของผู้ติดเชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การถ่ายเลือด หรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ส่งผลให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ เมื่อร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำกว่า 200 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตร จึงอาจส่งผลให้การทำงานของภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและพัฒนาอาการเป็นโรคเอดส์ได้ อาการโรคเอดส์ผู้ชาย สำหรับอาการโรคเอดส์ผู้ชายอาจมีสัญญาณเตือนถึงแรงขับทางเพศที่ลดต่ำลงเนื่องจากร่างกายอาจไม่ผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้เพียงพอ อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปัสสาวะมีสีขุ่นหรือปะปนเลือด รู้สึกแสบร้อนขณะปัสสาวะ มีแผลที่อวัยวะเพศ โดยอาจมีลักษณะอาการ ดังนี้ 1. อาการติดเชื้อเอชไอวีระยะเริ่มต้น อาจปรากฏหลังจากร่างกายเกิดการติดเชื้อประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทำให้มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ปวดศีรษะ เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ เกิดผื่นบนผิวหนัง ท้องเสีย น้ำหนักลด เหงื่อออกช่วงเวลากลางคืน 2. อาการระยะแฝง หลังจากติดเชื้อระยะแรก อาการคล้ายไข้หวัดอาจหายไปได้เอง แต่ยังคงมีเชื้อเอชไอวีแฝงอยู่ในร่างกายและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ โดยอาจใช้เวลานานหลายปี ส่วนใหญ่แล้วมักไม่มีอาการใด ๆ แต่ยังคงสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปสู่ผู้อื่นได้อยู่ 3. อาการระยะโรคเอดส์  เมื่อจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

อาการของโรคเอดส์ สังเกตจากอะไร

โรคเอดส์ คือ การติดเชื้อเอชไอวีในระยะสุดท้าย หรือที่เรียกว่า ระยะเอดส์ ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด และแพร่จากแม่สู่ลูกระหว่างการตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และการให้นมบุตรได้ด้วย เพื่อความปลอดภัยและเฝ้าระวังการติดเชื้อ ควรศึกษา อาการของโรคเอดส์ รวมถึงอาการติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรก ก่อนเสี่ยงเป็นโรคเอดส์ที่อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอลง [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคเอดส์ เกิดจากอะไร โรคเอดส์ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ การตั้งครรภ์หรือการให้นมบุตรจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีสู่ลูก การถ่ายเลือด เช่น การบริจาคเลือด หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อเอชไอวีอาจทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวซีดีโฟร์ (CD4) ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรค เมื่อใดที่ร่างกายมีเซลล์ซีดีโฟร์ต่ำกว่า 200 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตร ก็อาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยบ่อย และถือว่าการติดเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ระยะเอดส์ หรือเป็นโรคเอดส์แล้ว ระยะของการติดเชื้อเอชไอวีและ อาการของโรคเอดส์  ระยะของการติดเชื้อเอชไอวีและ อาการของโรคเอดส์ ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี มีดังนี้ ระยะที่ 1: อาการติดเชื้อเอชไอวีเฉียบพลัน เป็นระยะแรกของการติดเชื้อเอชไอวี อาการอาจปรากฏภายใน 2-4 สัปดาห์หลังจากร่างกายได้รับเชื้อ โดยมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ แต่อาจหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อาการเริ่มต้นของการติดเชื้อเอชไอวี ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ และมีอาการทางประสาทอื่น ๆ […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

อาการโรคเอดส์ผู้หญิง ที่ควรสังเกต และวิธีป้องกันโรคเอดส์

อาการโรคเอดส์ผู้หญิง อาจมีแสดงอาการที่แตกต่างจากผู้ชายเล็กน้อย เช่น ตกขาวผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยโรคเอดส์ (AIDS) หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่มักแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ การส่งผ่านไวรัสจากแม่สู่ลูกระหว่างตั้งครรภ์ การคลอด หรือให้นมลูก [embed-health-tool-ovulation] โรคเอดส์เกิดจากอะไร  เอดส์ คือ ระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี โดยการติดเชื้อเอชไอวีแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกเริ่มติดเชื้อ ระยะอาการสงบ และระยะเอดส์ การติดเชื้อเอชไอวีใน 2 ระยะแรก อาการอาจยังไม่ปรากฏแน่ชัด แต่อาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่หากการติดเชื้อเข้าสู่ระยะที่ 2 หรือระยะเอดส์ ระบบภูมิคุ้มกันจะถูกทำลายอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจทำให้ติดเชื้อโรคอื่น ๆ และเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื้อหุ้มสมองอักเสบ ได้ง่ายขึ้น โดยเชื้อเอชไอวีสามารถติดต่อได้ผ่านเลือด น้ำอสุจิ สารคัดหลั่งในช่องคลอด น้ำนมของผู้ติดเชื้อ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีตรวจพบเชื้อตั้งแต่ในระยะแรก แต่รักษาและควบคุมอาการของโรคได้เป็นอย่างดี ก็อาจไม่ทำให้การติดเชื้อลุกลามหรือรุนแรงจนถึงระยะสุดท้าย หรือระยะโรคเอดส์ อาการโรคเอดส์ผู้หญิง ผู้หญิงเสี่ยงติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

โรคเอดส์ อาการ มีอะไรบ้าง

โรคเอดส์ อาการ ที่สังเกตได้อาจแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะติดเชื้อ ระยะสงบ และระยะเอดส์ ซึ่งหมายถึงการติดเชื้อเอชไอวีระยะสุดท้าย ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่สำคัญในการต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายลดลง ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอจนไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้ และเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น วัณโรค โรคปอดบวม  เยื่อหุ้มสมองอักเสบ [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุของโรคเอดส์  สาเหตุที่อาจทำให้ติดเชื้อเอชไอวี มีดังนี้ ติดต่อเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อผ่านทางช่องคลอด ทวารหนักและช่องปากโดยไม่มีการป้องกัน ติดต่อผ่านทางเลือด การรับเลือดของผู้ติดเชื้อผ่านการถ่ายให้เลือด การติดเชื้อผ่านทางบาดแผล หรือการใช้เข็มฉีดยาหรือเข็มสักร่วมกับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี การติดเอดส์จากมารดาสู่ทารก มารดาตั้งครรภ์ที่ติดเชื้ออาจแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีไปยังทารกได้ระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ทารกในครรภ์ได้รับเชื้อเอชไอวี คุณแม่ควรตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนตั้งครรภ์หรือรักษาการติดเชื้อเอชไอวีให้เรียร้อยก่อนการตั้งครรภ์ โรคเอดส์ อาการ สังเกตได้  อาการของโรคเอดส์ขึ้นอยู่กับระยะการติดเชื้อที่ผู้ป่วยเป็น โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะแรกของการติดเชื้อ  เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ท้องเสีย เจ็บคอ มีผื่น ปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ ไอ เหงื่อออกตอนกลางคืน  ระยะอาการสงบ ระยะนี้เชื้อไวรัสไม่แสดงอาการใด ๆ โดยระยะนี้สามารถอยู่ได้นาน 8-10 ปี หากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

อาการคัน จากโรคเอดส์ เกิดจากอะไรได้บ้าง

อาการคัน จากโรคเอดส์ เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อเอชไอวีเฉียบพลัน จนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น ไวรัสเริม โรคหูดข้าวสุก มากขึ้น นอกจากนั้น อาการคันอาจเกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดโรคผิวหนังในผู้ป่วยเอชไอวีและมีอาการคันรุนแรงขึ้น [embed-health-tool-ovulation] อาการคัน จากโรคเอดส์ มีสาเหตุจากอะไร อาการคัน จากโรคเอดส์ เป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอของผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ก่อให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังในลักษณะต่าง ๆ ที่ทำให้มีอาการคันรุนแรงในบางกรณี อาจไม่สามารถรักษาได้จนทำให้เกิดรอยด่าง แผลเป็นบนผิวหนัง หรือมีอาการคันจนนอนไม่หลับ ส่งผลต่อความเครียดทางจิตใจ สาเหตุของอาการคัน จากโรคเอดส์ที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อเอชไอวีเฉียบพลัน เป็นอาการติดเชื้อเอชไอวีระยะแรก มีอาการภายใน 2-6 สัปดาห์ ได้แก่ ปวดหัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองบวม ผื่นแดง คันที่ลำตัว มีไข้ แผลในช่องปาก หลอดอาหาร ทวารหนัก หรืออวัยวะเพศ ติดเชื้อฉวยโอกาส เป็นระยะติดเชื้อแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระยะที่ 3 ของการติดเชื้อเอชไอวีหรืออาการโรคเอดส์ เช่น ติดเชื้อที่ผิวหนัง อาจเกิดจากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

โรคเอดส์ อาการ สาเหตุ และการรักษา

โรคเอดส์ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) เรียกอีกอย่างว่า ระยะเอดส์ ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี เชื้อสร้างความเสียหายให้ระบบภูมิคุ้มกัน จนขัดขวางกระบวนการในการต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสและเชื้อโรคอื่น ๆ ทั้งยังอาจแพร่กระจายโดยการสัมผัสกับเลือดที่ติดเชื้อ จากแม่สู่ลูกในระหว่างตั้งครรภ์ การคลอดบุตร หรือให้นมบุตร การติดเชื้อเอชไอวีอาจใช้เวลาหลายปีกว่าที่เชื้อจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเข้าสู่ระยะโรคเอดส์ แม้จะยังไม่มียารักษาการติดเชื้อเอชไอวี แต่การรับประทานยาตามคำแนะนำของคุณหมอก็สามารถช่วยชะลอการเข้าสู่ระยะโรคเอดส์ และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะเอดส์ได้ [embed-health-tool-ovulation] คำจำกัดความ โรคเอดส์คืออะไร โรคเอดส์ หรือที่เรียกว่า ระยะเอดส์ คือ คือกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องจากการติดไวรัสเอชไอวี จัดเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อ เซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยโรคเอดส์จะถูกทำลายและลดจำนวนลง ทำให้ติดเชื้ออื่น ๆ และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น โดยเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การได้รับเลือดผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ทารกในครรภ์ได้รับเชื้อจากมารดาตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี ทารกได้รับเชื้อเพราะกินนมแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น โรคเอดส์สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอาจเป็นกลุ่มพนักงานบริการทางเพศ กลุ่มชายรักชาย และผู้ที่ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีด โดยปัจจุบันในประเทศไทย มีผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังคงมีชีวิตอยู่ประมาณ 500,000 คน โดยเป็นผู้ที่ได้รับยาต้านไวรัส 394,598 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,600 คน และผู้เสียชีวิตจากเอชไอประมาณวี 12,000 คน อาการ อาการของโรคเอดส์ อาการที่พบได้บ่อยของการติดเชื้อเอชไอวี มีดังนี้ มีไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ หนาวสั่น […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม