นอกจากนี้ หากปวดท้องระหว่างเป็นประจำเดือน ควรรับประทานผักซึ่งอุดมไปด้วยธาตุสังกะสี เช่น เห็ดชิตาเกะ ถั่วลันเตา บร็อกโคลี ข้าวโพดหวาน เนื่องจากสังกะสีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ โดยผลการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของสังกะสีในการป้องกันอาการปวดประจำเดือน ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Medical Hypotheses ปี พ.ศ. 2550 ระบุว่า การบริโภคสังกะสีวันละ 3 ครั้ง ในช่วง 1-4 วันก่อนมีประเดือน อาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
ปลาทะเล
ปลาทะเลต่าง ๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า มีกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนได้
ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโอเมกา 3 และความรุนแรงของการปวดประจำเดือน ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร International Journal of Gynecology & Obstetrics ปี พ.ศ. 2555 ได้ทำการทดสอบคุณสมบัติของโอเกมา 3 โดยแบ่งกลุ่มทดลองเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานโอเมกา 3 ในรูปแบบอาหารเสริม ขณะที่อีกกลุ่มให้รับประทานยาหลอก เป็นเวลา 3 เดือนเท่า ๆ กัน แล้วนำผลลัพธ์หลังรับประทานอย่างต่อเนื่องมาเปรียบเทียบ สรุปผลการศึกษานี้ได้
ว่าโอเมกา3 อาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนรุนแรงได้และอาจช่วยลดปริมาณการรับประทานยาแก้ปวดประจำเดือน
ดาร์กช็อกโกแลต
ดาร์กช็อกโกแลต เหมาะสำหรับการบริโภคในช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตเป็นแหล่งธาตุเหล็ก จึงอาจช่วยชดเชยธาตุเหล็กที่ร่างกายสูญเสียไปได้
นอกจากนี้ ดาร์กช็อกโกแลตยังเต็มไปด้วยธาตุแมกนีเซียม ซึ่งอาจช่วย บรรเทาอาการทางกายภาพในกลุ่มอาการ PMS (Premenstrual Syndrome) ซึ่งเป็นอาการผิดปกติทางร่างกายและอารมณ์ที่แปรปรวน อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย พบในช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน สอดคล้องกับรายงานการวิจัยเกี่ยวกับคุณสมับติของแมกนีเซียม ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Iranian Journal of Nursing and Midwifery Research ปี พ.ศ. 2553
นักวิจัยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานแมกซีเนียมเม็ดทุกวัน กลุ่มที่ 2 ให้รับประทานแมกนีเซียมเม็ดทุกวันร่วมกับวิตามินบี 6 และกลุ่มสุดท้ายให้รับประทานยาหลอกทุกวัน ระยะเวลาทดลอง 3 เดือนเท่ากันทุกกลุ่ม
จากการทดลองนี้ นักวิจัยพบว่า การรับประทานแมกนีเซียมร่วมกับวิตามินบี 6 อาจให้ผลดีสุด ในการรักษากลุ่มอาการ PMS จึงอาจสรุปได้ว่า การบริโภคแมกซีเนียมร่วมกับวิตามินบี 6 อาจเป็นวิธีรักษากลุ่มอาการ PMS ที่ได้ผลค่อนข้างชัดเจน
น้ำเปล่า
การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม หรือประมาณ 8-10 แก้วต่อวันจำเป็นอย่างมากต่อร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเป็นประจำเดือน การดื่มน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอาจช่วยลดอาการท้องอืด บวมน้ำ ปวดหัว และอาการปวดประจำเดือน รวมทั้งช่วยทดแทนปริมาณของเหลวที่ร่างกายสูญเสียไป
จากผลการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของการดื่มน้ำเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร BMC Women’s Health ปี พ.ศ. 2564 โดยทดลองให้ผู้หญิง 77 คน ซึ่งมีประวัติปวดประจำเดือน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งดื่มน้ำมากกว่าปกติ ส่วนอีกกลุ่มดื่มน้ำตามปกติ พบว่า การดื่มน้ำเพิ่มขึ้นอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน รวมถึงช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย