นอกจากนี้ ในบางกรณี คุณหมออาจขอตรวจภายในเพิ่มเติม โดยการใช้กล้องขยายช่องคลอด (Colposcopy) ส่องหาความผิดปกติบริเวณปากมดลูก และหากพบชิ้นเนื้อหรือก้อนเนื้อตำแหน่งที่สงสัยว่าผิดปกติ คุณหมอมักตัดชิ้นเนื้อไปตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อนำไปวินิจฉัยและหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป
การเตรียมตัวก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก
ตรวจมะเร็งปากมดลูก มักตรวจในช่วงที่ไม่มีรอบเดือน ยกเว้นบางกรณีที่ร่างกายผิดปกติ เช่น เกิดเลือดไหลออกทางช่องคลอดไม่หยุด สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการตรวจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมดังต่อไปนี้ประมาณ 2 วันก่อนเข้ารับการตรวจ
- ทำความสะอาดช่องคลอด ด้วยการสวนล้าง
- ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
- มีเพศสัมพันธ์
- ใช้ยาคุมกำเนิดแบบครีม หรือเจล
- ใช้ยาปฏิชีวนะหรือครีมทาบริเวณช่องคลอด
กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่า
- เริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงที่อายุ ≥ 21 ปี แต่เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 25 ปีในประเทศไทยนั้นพบได้น้อย ดังนั้นการเริ่มตรวจคัดกรองเร็วเกินไปจึงไม่จำเป็น
- แนะนำให้เริ่มตรวจคัดกรองสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุ ≥ 25 ปี หรือถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์พิจารณาตรวจเมื่ออายุ ≥ 30 ปี
- ผู้หญิงอายุ 25-65 ปี ไม่ว่าได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวีแล้วหรือยังไม่เคย ควรรับการตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยวิธีแปปสเมียร์ทุก ๆ 23 ปี และการตรวจหาเชื้อเอชพีวีทุก ๆ 5 ปี
- ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 25 ปีไม่แนะนำให้ตรวจคัดกรอง ยกเว้น ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ติดเชื้อเอชไอวี มีคู่นอนหลายคน เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
- ผู้หญิงซึ่งผ่าตัดนำมดลูกและปากมดลูกออกจากร่างกายแล้ว (Hysterectomy) ไม่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอีกต่อไป ยกเว้นการผ่าตัดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็ง สำหรับผู้หญิงที่เคยผ่าตัดมดลูกเพื่อผ่าคลอดหรือรักษาโรคอื่น ๆ ยังควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกต่อไป
- ผู้หญิงอายุ 65 ปี ขึ้นไป ซึ่งไม่พบประวัติเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกจากการตรวจคัดกรองในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองอีกต่อไป
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย