สะเก็ดเงิน เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันทำให้เซลล์ผิวหนังเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วผิดปกติ ส่งผลให้ผิวหนังผู้ป่วยมีสะเก็ดเงินสีขาว เงิน หรือเหลือง ขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และอาจลุกลามไปยังเล็บมือและเล็บเท้าได้
เมื่อสะเก็ดเงินเกิดขึ้นบริเวณเล็บมือหรือเล็บเท้า เซลล์ผิวหนังที่เพิ่มจำนวนอย่างผิดปกติจะดันให้เล็บค่อย ๆ หลุดออกจากนิ้ว
โดยทั่วไป อาการของโรคสะเก็ดเงินตามเล็บมือหรือเล็บเท้า ได้แก่
- เล็บกลายเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาล
- เล็บล่อนจากเนื้อเยื่อใต้เล็บ
- เล็บแข็งและหนาขึ้น
- มีสะเก็ดเงินสีขาวหรือสีเงินเกิดขึ้นใต้เล็บ
ทั้งนี้ เมื่อพบว่าตนเองเป็นโรคสะเก็ดเงิน ควรรีบไปพบคุณหมอ เพราะสะเก็ดเงินไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่อาจดูแลตนเองเพื่อประคองอาการ โดยคุณหมอมักแนะนำให้ทายาสเตียรอยด์ (Steroid) รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน รวมถึงการฉายรังสีอัลตราไวโอเลตสังเคราะห์ เพื่อยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์ผิวหนัง และลดการลุกลามของโรค
เล็บหลุด ดูแลตัวเองอย่างไร
การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อเล็บหลุด มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- หากเล็บหลุดออกไปเพียงบางส่วน ให้ปล่อยส่วนที่เหลืออยู่ไว้กับนิ้ว ไม่ต้องพยายามนำออก
- หากบางส่วนของเล็บหลุดออกจากตำแหน่งเดิม แต่ยังไม่หลุดออกทั้งหมด อาจค่อย ๆ เล็มเล็บส่วนที่ยังเหลือให้อยู่ในกรอบเล็บ เพื่อป้องกันเล็บไปเกี่ยวกับเสื้อผ้าหรือสิ่งของรอบตัว เช่น โซฟา ผ้าเช็ดตัว
- หลังจากนั้น ควรค่อย ๆ ล้างทำความสะอาดเล็บ ตามด้วยทายาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- พันนิ้วที่เล็บหลุดด้วยผ้าพันแผล โดยระวังไม่ให้ผ้าพันแผลสัมผัสโดนส่วนเนื้อเยื่อใต้เล็บ เพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อแกะผ้าพันแผลออก
- ประคบน้ำแข็ง หรือรับประทานยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (Naproxen) เพื่อบรรเทาอาการปวดหรืออักเสบของนิ้วที่เล็บหลุด
- หากอาการไม่ดีขึ้น มีไข้ ปวดบวมแดงบริเวณนิ้ว ควรไปพบคุณหมอ เพื่อรับการตรวจและรักษาเพิ่มเติม
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย