อาการ คันฝ่ามือ หรือ คันมือ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการแพ้ ภาวะผิวแห้ง โรคผิวหนังอักเสบ โดยปกติแล้ว สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการใช้ยาแก้แพ้และยาต้านอักเสบ อย่างไรก็ตาม หากรักษาเบื้องต้นแล้วอาการคันฝ่ามือไม่ทุเลาลง อาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนัง หรือโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยและรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคัน
อาการคันฝ่ามือเกิดจากอะไร
อาการคันฝ่ามือ อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
อาการแพ้ ฝ่ามืออาจไปสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้บางชนิด เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก หรือโดนแมลงกัดต่อย ทำให้ผิวหนังระคายเคือง และก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น คันมือ มีลมพิษ มีผื่นแดง ภาวะผิวแห้ง สภาพผิวหนังที่แห้ง แตก ลอกง่าย เนื่องจากมีน้ำมันเคลือบผิวน้อย อาจทำให้เกิดอาการคันฝ่ามือได้ โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่รักษาได้ยาก ผู้ป่วยมักมีผิวอักเสบเป็นผื่นนูนแดง ผิวลอกเป็นขุย ซึ่งสามารถพบได้ทั่วร่างกาย รวมถึงบริเวณฝ่ามือ และอาการของโรคสะเก็ดเงินเหล่านี้ อาจส่งผลให้คันฝ่ามือได้ โรคผิวหนังอักเสบอื่น ๆ เป็นภาวะอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากภูมิแพ้ หรือการติดเชื้อ เป็นต้น อาการที่พบบ่อยของโรคนี้ ได้แก่ ผื่นแดง อาการคัน ซึ่งอาจพบที่บริเวณฝ่ามือด้วย โรคเบาหวาน คือ ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการผิวหนังติดเชื้อง่าย ผิวแห้งง่าย จนอาจทำให้ผิวหนังบริเวณฝ่ามือแห้ง ลอก มีปัญหาผิวหนังอักเสบตามตัวและเกิดอาการคันได้ การใช้ยารักษาโรค อาการคันมืออาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาลดความดันโลหิตบางชนิด นอกจากนี้ การรักษามะเร็งก็อาจส่งผลให้เกิดอาการคันฝ่ามือได้เช่นกัน วิธีรักษาอาการคันฝ่ามือ
การรักษาอาการคันมือ อาจทำได้ดังนี้
- สำหรับอาการคันมือจากผิวหนังแห้ง อาจใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือได้
- สำหรับอาการคันฝ่ามือจากภูมิแพ้ หรือโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ อาจรักษาด้วยยาแก้แพ้หรือยาต้านฮิสตามีน (Antihistamine) หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ที่ช่วยต้านการอักเสบและลดอาการบวม คัน บริเวณผิวหนัง
- สำหรับอาการคันฝ่ามือจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และโรคสะเก็ดเงิน คุณหมออาจรักษาอาการคันตามร่างกายและฝ่ามือด้วยการฉายแสงอาทิตย์เทียม (phototherapy) ร่วมกับการใช้ยา หรือในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
- สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรทาโลชั่นให้ผิวบริเวณฝ่ามือชุ่มชื้นอยู่สม่ำเสมอ และต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติ เพราะอาจช่วยบรรเทาอาการคันได้
- สำหรับผู้ที่คันฝ่ามือและบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายเนื่องจากการใช้ยารักษาโรค ไม่ควรหยุดยาเองหรือหยุดยากะทันหัน อาจบรรเทาอาการคันเบื้องต้นด้วยการทายารักษาอาการคัน และไปปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
วิธีป้องกันอาการ คันฝ่ามือ
วิธีเหล่านี้ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการคันมือได้
- เมื่อล้างมือ ให้ใช้สบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และเช็ดมือให้แห้งทุกครั้ง
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ โดยอาจเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ใส่ถุงมือเมื่อต้องทำงานหรือทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับสารเคมี พยายามอย่าให้มือเปล่าสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างมือแบบเจล เพราะมักมีแอลกอฮอล์แห้งความเข้มข้นสูงเป็นส่วนประกอบ ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังแห้ง แตก และคันได้
- ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
- อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนเพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวแห้ง และเกิดอาการคันได้
- ประคบบริเวณที่คันด้วยผ้าเย็น หรือผ้าห่อน้ำแข็ง ช่วยลดอาการคันมือได้