สาเหตุของสิวหัวหนอง
สิวหัวหนองอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น
- ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน เทสโทสเทอโรน เอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น อาจไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวได้
- รูขุมขนอุดตัน หากร่างกายมีการผลิตเหงื่อหรือไขมันมากเกิน อาจทำให้ไขมันไปสะสมที่รูขุมขนและเกิดการอุดตัน จนกลายเป็นสิวหัวหนองได้
- ยาบางชนิด เช่น กลุ่มยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ลิเทียม
วิธีรักษาสิวหัวหนอง
การรักษาสิวหัวหนองอาจมีหลายวิธี ดังต่อไปนี้
- ยาทาเฉพาะที่ ที่มีส่วนผสมในการรักษาสิว เช่น
- กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่อาจช่วยลดการอักเสบและบวมของสิว
- เรตินอยด์ (Retinoid) อาจช่วยลดความมันบนใบหน้า ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ
- เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) อาจช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้
- คลินดามัยซิน (Clindamycin) อาจช่วยรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียได้
ยาชนิดรับประทาน เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สมดุล และอาจช่วยควบคุมการผลิตฮอร์โมนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไขมันในร่างกาย บำบัดด้วยโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy หรือ PDT) เป็นการใช้แสงเลเซอร์ร่วมกับสารเคมีที่ไวต่อแสง เพื่อลดขนาดต่อมไขมันใต้ผิวหนัง และอาจช่วยลดการผลิตน้ำมันภายในรูขุมขน ซึ่งอาจทำให้สิวหัวหนองยุบลง การป้องกันสิวหัวหนอง
วิธีการป้องกันการเกิดของสิวหัวหนอง อาจสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- ลดอาหารประเภทของมัน ของทอด อาจช่วยลดสิวได้ในผู้ป่วยบางราย
- รักษาทำความสะอาดร่างกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหลังจากทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดเหงื่อ ด้วยสบู่อ่อน ๆ เพื่อชะล้างแบคทีเรียที่อาจเป็นต้นกำเนิดทำให้เกิดสิว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า และควรล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าก่อนเข้านอนทุกครั้ง เพื่อลดปัจจัยที่จะทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หากจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือครีมกันแดดควรดูฉลากผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน และเหมาะสมกับสภาพผิว
- ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม รวมถึงผ้าเช็ดตัวที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียอยู่เสมอ อย่างน้อยทุก ๆ 1-2 สัปดาห์
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย