หน้าเป็นผด มีอาการอย่างไร
โดยทั่วไป ผดจะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีผิวเดียวกับผิวหนังหรือสีออกแดงเรื่อ ๆ อาจเกิดขึ้นพร้อมกันจำนวนมากบนใบหน้าบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม หรือคาง หรือตามส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น คอ หัวไหล่ หน้าอก รักแร้ ข้อศอก ขาหนีบ
นอกจากนี้ ลักษณะของผดที่ขึ้นบนใบหน้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท โดยมักพบในทารก และมีชื่อเรียกรวมถึงลักษณะที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- ผดชนิดตุ่มน้ำใส (Miliaria Crystallina) เป็นผดในระดับไม่รุนแรง เม็ดผดจะมีของเหลวอยู่ข้างใน ไม่มีอาการอักเสบ แต่เม็ดผดอาจแตกง่ายหากใช้มือลูบหรือเกา
- ผดชนิดตุ่มแดง หรือ ผดร้อน (Miliaria Rubra) เกิดจากปริมาณเหงื่อที่มีจำนวนมากเกินไปแล้วไม่ถูกขับออกจากร่างกาย ไหลเข้าสู่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า ทำให้ผิวหนังอักเสบจนเกิดเป็นตุ่มสีแดง และมีอาการคันร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ผดชนิดตุ่มแดงมักยุบตัวและหายได้ภายในวันเดียว หรือเมื่ออุณหภูมิรอบ ๆ ตัวเย็นลง
- ผดร้อนอักเสบ (Miliaria Pustulosa) หมายถึงผดผื่นชนิดตุ่มแดงหรือผดร้อนเกิดการอักเสบ อาจเกิดการติดเชื้อชนิดไม่รุนแรง ทำให้มีอาการกลัดหนองร่วมด้วย
- ผดร้อนเรื้อรัง (Miliaria Profunda) เกิดขึ้นเมื่อเหงื่อไม่ถูกขับออกจากร่างกายแล้วไหลเข้าไปยังผิวหนังชั้นหนังแท้ทำให้เกิดการอุดตันในชั้นหนังแท้ จนเกิดเป็นตุ่มนูนสีเดียวกับผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ผดร้อนเรื้อรังอาจเจอได้น้อยมาก และเมื่อหน้าเป็นผดร้อนเรื้อรังอาจมีอาการคลื่นไส้หรือเวียนศีรษะร่วมด้วย
หากหน้าเป็นผด หรือเกิดผดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ควรเป็นกังวลจนเกินไป เพราะผดไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง อาจรอภายใน 1-2 วัน ผดจะค่อย ๆ ยุบตัวลง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย