backup og meta

เบาหวาน คัน ช่องคลอด เกี่ยวข้องกันอย่างไร และป้องกันได้อย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 29/09/2022

    เบาหวาน คัน ช่องคลอด เกี่ยวข้องกันอย่างไร และป้องกันได้อย่างไร

    เบาหวาน คัน ช่องคลอด เป็นหนึ่งในอาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดการติดเชื้อราในช่องคลอด เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ที่อาจส่งผลให้เชื้อราในช่องคลอดเจริญเติบโตได้ดีขึ้น นำไปสู่การติดเชื้อราในช่องคลอด และทำให้เกิดอาการคันช่องคลอด ตกขาว และมีอาการแสบระหว่างปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ หากสังเกตพบอาการเหล่านี้ ควรพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

    เบาหวาน กับอาการ คัน ช่องคลอด เกี่ยวข้องกันอย่างไร

    อาการคันช่องคลอด ในผู้ป่วยเบาหวาน มักจะเกิดจากการติดเชื้อรา โดยปกติผู้หญิงจะติดเชื้อราในช่องคลอดอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต โดยเกิดจากการติดเชื้อราที่เรียกว่า “เชื้อราแคนดิดา” (Candida) หรือ “ยีสต์” ในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องคลอดได้มากกว่าคนทั่วไป

    ผลการวิจัยในปี 2556 เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อราในช่องคลอดกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 พบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในผู้หญิงและเด็กที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมีภาวะติดเชื้อราในช่องคลอดมากกว่าคนปกติทั่วไป

    อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้มากกว่า เนื่องจากมีระดับไกลโคเจน (Glycogen) ซึ่งเป็นโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) ที่ร่างกายใช้ในการเก็บน้ำตาลกลูโคสในช่องคลอดมากกว่าปกติ เมื่อน้ำตาลในเลือดสูง ความเป็นกรดในช่องคลอดก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เชื้อราเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นการติดเชื้อ

    เบาหวาน คัน ช่องคลอด ป้องกันได้อย่างไร

    นอกจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยเบาหวานยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเชื้อราในช่องคลอดได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้ารัดรูป
  • สวมชุดชั้นในผ้าฝ้าย
  • หลังการออกกำลังกาย เช่น ว่ายน้ำ ควรถอดชุดออกและทำความสะอาดร่างกายทันที
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน หรือแช่ในอ่างน้ำร้อน
  • หลีกเลี่ยงการสวนล้าง หรือใช้สเปรย์ฉีดบริเวณช่องคลอด
  • หากเป็นประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยที่มีกลิ่นหอม
  • วิธีการรักษาเมื่อติดเชื้อราในช่องคลอด

    วิธีการรักษาเชื้อราในช่องคลอดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นวิธีการรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วยภาวะติดเชื้อราในช่องคลอดทั่วไป แพทย์อาจจ่ายครีมทาบริเวณช่องคลอด หรือยาเหน็บให้ใช้เป็นเวลา 1-7 วัน เช่น ยาฟลูโคนาโซล (Fluconazole) ที่มีสรรพคุณป้องกันและรักษาการติดเชื้อรา แต่มีข้อห้ามคือ ห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์ ฉะนั้นทางที่ดี คุณควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนตัดสินใจใช้ยารักษาการติดเชื้อราในช่องคลอด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 29/09/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา