backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ปากมดลูกหลวม สาเหตุ อาการ และการรักษา

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 30/09/2022

ปากมดลูกหลวม สาเหตุ อาการ และการรักษา

ปากมดลูกหลวม หรือปากมดลูกปิดไม่สนิท (Cervical Incompetence) เป็นภาวะชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องในการทำงานของปากมดลูก ส่งผลให้เนื้อเยื่อปากมดลูกอ่อนแอ และอาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดหรือการตั้งครรภ์ผิดปกติ ดังนั้น จึงควรเข้ารับการรักษากับคุณหมออย่างรวดเร็ว

คำจำกัดความ

ปากมดลูกหลวม คืออะไร

อาการปากมดลูกหลวม หรือปากมดลูกปิดไม่สนิท หรือเรียกอย่างหนึ่งว่าปากมดลูกไม่แข็งแรง (Cervical Insufficiency) เป็นภาวะชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ เนื้อเยื่อปากมดลูกอ่อนแอ และทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดหรือเป็นสาเหตุของการตั้งครรภ์ผิดปกติ

ก่อนการตั้งครรภ์ ปากมดลูกจะปิดและแข็งตัวตามปกติ เมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินไปจนถึงกำหนดคลอด ปากมดลูกจะอ่อนตัวลงทีละน้อย หดตัวบางลง และเริ่มเปิดออก หากเป็นโรคปากมดลูกหลวม ปากมดลูกจะเปิดเร็วขึ้น ส่งผลให้การเกิดการคลอดก่อนกำหนด

ปากมดลูกหลวมสามารถวินิจฉัยและรักษาได้ยาก หากปากมดลูกเปิดเร็วกว่าปกติ คุณหมออาจแนะนำให้ใช้ยาป้องกันในระหว่างตั้งครรภ์ หรือปิดปากมดลูกด้วยการเย็บให้แน่น

ปากมดลูกหลวม พบบ่อยเพียงใด

โรคปากมดลูกหลวมพบได้น้อยในสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงร้อยละ 1-2 ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด แต่คาดว่าเป็นสาเหตุของการแท้งถึงร้อยละ 20-25 ในช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ โปรดปรึกษาคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

อาการ

อาการของภาวะ ปากมดลูกหลวม หรือปากมดลูกปิดไม่สนิท

ภาวะปากมดลูกหลวมมักไม่มีสิ่งบ่งชี้หรือแสดงอาการใดๆ เนื่องจากปากมดลูกจะเริ่มเปิดในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี อาจมีความรู้สึกไม่สบายตัว หรือมีเลือดประจำเดือนออกมาแบบกะปริดกะปรอย เป็นเวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วง 14 ถึง 20 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ โดยควรเฝ้าระวังอาการดังต่อไปนี้

  • ความรู้สึกหน่วงบริเวณเชิงกราน
  • ปวดหลัง
  • ปวดตะคริวที่ไม่รุนแรงบริเวณช่องท้อง
  • สารคัดหลั่งในช่องคลอดเปลี่ยนแปลง
  • เลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อย
  • สาเหตุ

    สาเหตุภาวะปากมดลูกหลวม หรือปากมดลูกปิดไม่สนิท

    ปากมดลูกหลวมหรืออาการปากมดลูกปิดไม่สนิท อาจเกิดขึ้นจากความบกพร่องในการทำงานของปากมดลูก ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติทางกายภาพ หรือการได้รับยาไดเอธิลสติลเบสโตรล (Diethylstilbestrol:DES) เพื่อป้องกันแท้ง หรือเกิดจากความผิดปกติเกี่ยวกับคอลลาเจน

    นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุที่เกิดขึ้นภายหลังการคลอด ได้แก่ ปากมดลูกฉีกขาดระหว่างคลอด การขยายปากมดลูกโดยใช้อุปกรณ์ ตลอดจนการตัดเนื้อเยื่อปากมดลูกเป็นรูปกรวยด้วยมีด เลเซอร์ หรือห่วงไฟฟ้า

    ปัจจัยเสี่ยง

    ปัจจัยเสี่ยงภาวะ ปากมดลูกหลวม หรือปากมดลูกปิดไม่สนิท

    มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการสำหรับการเกิดภาวะปากมดลูกหลวม เช่น

    ภาวะที่มีมาแต่กำเนิด

    ความผิดปกติของมดลูกและความผิดปกติทางพันธุกรรมส่งผลให้โปรตีนประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนทำงานผิดปกติ และอาจทำให้เกิดปากมดลูกหลวมได้ การใช้ยาไดเอธิลสติลเบสโตรล (Diethylstilbestrol: DES) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนสังเคราะห์ก่อนการคลอด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคปากมดลูกหลวม

    การเกิดบาดแผลบริเวณปากมดลูก

    หากผู้ป่วยมีประวัติปากมดลูกฉีกขาดระหว่างการคลอดในครั้งก่อน อาจมีโอกาสเป็นโรคปากมดลูกหลวมได้ นอกจากนี้ การผ่าตัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากมดลูก เช่น การตรวจแปปสเมียร์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดความเสียหาย และเป็นสาเหตุของปากมดลูกหลวมได้

    การขยายมดลูกและการขูดมดลูก

    ขั้นตอนนี้จะใช้เพื่อวินิจฉัยหรือรักษาภาวะหรืออาการเกี่ยวกับมดลูกต่างๆ เช่น มีเลือดออกมาก หรือเพื่อกำจัดเยื่อบุมดลูกหลังการแท้ง ซึ่งทำให้อาจสร้างความเสียหายเกี่ยวกับโครงสร้างของปากมดลูก แต่เป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก

    การวินิจฉัยและการรักษา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    การวินิจฉัยอาการปากมดลูกหลวม

    หากคุณหมอสงสัยว่าผู้ป่วยมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ จะมีการตรวจร่างกายและตรวจหาภาวะที่มีมาแต่กำเนิด หรือบาดแผลฉีกขาด ที่อาจทำให้เกิดปากมดลูกหลวม นอกจากนี้ อาจจมีการตรวจการหดตัวของมดลูกและเฝ้าระวังอาการดังกล่าวหากจำเป็น

    การตรวจและทดสอบต่างๆ เพื่อการวินิจฉัยโรคปากมดลูกหลวม ได้แก่

    • การตรวจอัลตราซาวด์ผ่านทางช่องคลอด หากเยื่อหุ้มทารกไม่อยู่ในโพรงมดลูกหรือช่องคลอด คุณหมอจะใช้การตรวจอัลตราซาวนด์ผ่านทางช่องคลอดเพื่อประเมินความยาวของปากมดลูก และระบุว่าปากมดลูกขยายมากเท่าใด รวมทั้งตรวจเยื่อหุ้มทารกด้วย ในระหว่างการตรวจอัลตราซาวด์นี้ ตัวแปรสัญญาณขนาดเล็กจะถูกวางไว้ในช่องคลอดเพื่อส่งคลื่นเสียงออกไปและแสดงภาพของปากมดลูกและมดลูกส่วนล่างบนหน้าจอ
    • การทดสอบในห้องปฏิบัติการ หากการตรวจอัลตราซาวด์สามารถแสดงภาพของเยื่อหุ้มทารกหรืออาการการติดเชื้อ แต่ผู้ป่วยกลับไม่มีอาการติดเชื้อใดๆ ผู้ให้การดูแลสุขภาพ คุณหมออาจแนะนำการตรวจตัวอย่างน้ำคร่ำเพื่อวินิจฉัยหรือตรวจหาการติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำเป็นขั้นตอนต่อไป

    การรักษาปากมดลูกหลวม

    ทางเลือกในการรักษาบางประการสำหรับปากมดลูกหลวม หรืออาการปากมดลูกปิดไม่สนิท ได้แก่

  • การเสริมฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน หากผู้ป่วยมีประวัติคลอดก่อนกำหนด คุณหมออาจแนะนำให้เข้ารับการฉีดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า hydroxyprogesterone caproate (Makena) ทุกสัปดาห์ในระหว่างไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อกำหนดการใช้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาภาวะปากมดลูกหลวม ในปัจจุบัน การรักษาด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน อาจไม่ได้ผลสำหรับการตั้งครรภ์แฝดสองคนหรือมากกว่า
  • การตรวจอัลตราซาวด์ต่อเนื่อง หากผู้ป่วยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดหรือปากมดลูกได้รับความเสียหายในการคลอดหรือการผ่าตัดก่อนหน้านี้ คุณหมออาจต้องเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของความยาวปากมดลูกอย่างระมัดระวังโดยการอัลตราซาวนด์ทุก 2 สัปดาห์ ในช่วงสัปดาห์ที่ 15 ถึง 24 ของการตั้งครรภ์หากปากมดลูกเริ่มเปิดหรือมีขนาดสั้นลง คุณหมออาจแนะนำให้เย็บปากมดลูก
  • การเย็บปากมดลูก หากผู้ป่วยตั้งครรภ์น้อยกว่า 24 สัปดาห์ หรือมีประวัติคลอดก่อนกำหนดโดยการตรวจอัลตราซาวด์แสดงให้เห็นว่าปากมดลูกกำลังเปิดออก การเย็บผูกปากมดลูกอาจช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้ โดยปากมดลูกถูกเย็บปิดด้วยไหมอย่างแน่นหนา และจะถูกนำออกไปในระหว่างเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์หรือระหว่างคลอด
  • การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง

    การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อรับมือกับอาการปากมดลูกหลวมหรืออาการปากมดลูกปิดไม่สนิท

    การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการปฏิบัติตนขั้นพื้นฐานดังต่อไปนี้ อาจช่วยให้รับมือกับโรคปากมดลูกหลวมได้

    • จำกัดการมีเพศสัมพันธ์หรือจำกัดการออกกำลังกายบางประเภท
    • การนอนพักบนเตียงระหว่างตั้งครรภ์อาจจำเป็นในผู้ป่วยบางราย ถึงแม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์ว่า เป็นวิธีการป้องกันการคลอดก่อนกำหนดที่ได้ผล

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 30/09/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา