ป้องกันหัวใจวาย อาจทำได้ด้วยการดูแลตนเองและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์บางอย่าง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ ภาวะหัวใจวายเกิดจากการที่สุขภาพหัวใจไม่แข็งแรง มักเป็นผลมาจากการไม่ออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงเป็นประจำ รวมทั้งการสูบบุหรี่จัด และมีความเครียดสะสม หากต้องการป้องกันหัวใจวาย ควรเริ่มต้นปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน
หัวใจวาย คืออะไร
หัวใจวาย (Heart Attack) เป็นภาวะฉุกเฉินของสุขภาพหัวใจที่เส้นเลือดเกิดการอุดตันเฉียบพลันจนเลือดไม่สามารถเดินทางไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้ตามปกติ ทำให้หัวใจขาดเลือดส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย ส่วนใหญ่ภาวะหัวใจวายมักเกิดขึ้นกะทันหัน และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ สัญญาณและอาการของภาวะหัวใจวาย ได้แก่
แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก จนอาจลุกลามไปถึงคอ กราม และหลัง คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย แสบร้อนทรวงอก หรือปวดท้อง หายใจถี่ เหงื่อออก เหนื่อยล้า วิงเวียนศีรษะฉับพลัน ป้องกันหัวใจวาย ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
ป้องกันหัวใจวาย สามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน โดยอาจปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ควรเลือกรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า นอกจากนี้ ควรลดการรับประทานเกลือ ไขมันอิ่มตัว ของหวาน เนื้อแดงอย่างเนื้อวัวและเนื้อหมู รวมถึงหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ด้วย
2. หาวิธีผ่อนคลายความเครียด
อารมณ์เครียด เช่น ความโกรธ ความเกลียดชัง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจวายได้ ดังนั้น หากรู้สึกตัวว่ากังวลหรือเครียด ควรหาวิธีผ่อนคลายที่ได้ผล เช่น การนั่งสมาธิ การเล่นโยคะ การหาเวลาว่างพักผ่อนในช่วงหลังเลิกงาน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูยูทูป เพื่อบรรเทาความเครียดซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของภาวะหัวใจวาย
3. เลิกบุหรี่
หากไม่เคยสูบบุหรี่เลย ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และถ้าเลิกบุหรี่ได้แล้ว นับว่ายอดเยี่ยม แต่ถ้ายังสูบบุหรี่อยู่ ควรเลิกบุหรี่ เนื่องจากแม้แต่ผู้ที่สูบบุหรี่น้อยกว่าวันละ 5 มวน ยังปรากฏสัญญาณของโรคหัวใจ ทั้งนี้ หากต้องการเลิกบุหรี่อาจเริ่มต้นด้วยการปรึกษาคุณหมอ และควรเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ ภายใน 1 ปีจึงสามารถลดความเสี่ยงภาวะหัวใจวายได้
4. ควบคุมระดับความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูงเรื้อรังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจวาย และโรคหัวใจได้ ทั้งนี้ อาจควบคุมระดับความดันโลหิตให้ลดลงได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น รับประทานเกลือให้น้อยกว่า 6 กรัมต่อวัน เนื่องจากยิ่งรับประทานเกลือมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงมากเท่านั้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำอาจช่วยควบคุมความดันโลหิตได้
5. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
สำหรับผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) หรือผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรปรึกษาคุณหมอถึงแนวทางในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจวาย หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ที่สำคัญ ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
6. ตรวจสอบระดับคอเลสเตอรอล
คอเลสเตอรอล ไขมัน และแคลเซียม สามารถก่อตัวเป็นคราบพลัก (Plaque) เกาะสะสมบนผนังหลอดเลือด จนนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ ดังนั้น ควรเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อวัดระดับคอเลสเตอรอล หากมีคอเลสเตอรอลสูง คุณหมออาจสั่งยาให้รับประทานยาเพื่อช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
7. ควบคุมน้ำหนักตัว
หากมีน้ำหนักเกิน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคอ้วน มักมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนทำให้หัวใจทำงานหนัก ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แต่เมื่อลดน้ำหนักลง มักส่งผลให้ระดับความดันโลหิตดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงภาวะหัวใจวายได้อีกด้วย
8. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยทำให้ระดับคอเลสเตอรอลดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักด้วย โดยอาจเริ่มออกกำลังกายแบบง่าย ๆ เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
9. เข้าสังคม พบปะผู้คน
ผู้ที่มีโอกาสพูดคุยและเข้าสังคม มักเสี่ยงต่ำต่อการมีปัญหาสุขภาพหัวใจ เพราะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหันเหความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของตนเองไปยังเรื่อยอื่น ๆ การใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือกับเพื่อนบ้าง จึงอาจช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นด้วย
10. ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้ที่ดื่มแอลกอลฮอล์เป็นประจำ ควรจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยผู้ชายและผู้หญิงไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เกิน 14 ยูนิตต่อสัปดาห์ หรือเทียบเท่ากับการดื่มเบียร์ 6 แก้วต่อสัปดาห์