เวียนศีรษะแบบบ้านหมุน (Vertigo) เป็นอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุน หรือถูกดึงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง อาการรู้สึกหมุนเป็นอาการของโรคและความผิดปกติหลายอย่าง เมื่อมีอาการเวียนศีรษะบ่อยๆ อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อหูชั้นใน ทำให้มีอาการหูอื้อได้
คำจำกัดความ
เวียนศีรษะแบบบ้านหมุน คืออะไร
เวียนศีรษะแบบบ้านหมุน (Vertigo) เป็นอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุน หรือถูกดึงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง อาการรู้สึกหมุนเป็นอาการของโรคและความผิดปกติหลายอย่าง เมื่อมีอาการเวียนศีรษะบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อหูชั้นใน ทำให้มีอาการหูอื้อได้
อย่างไรก็ตามอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนสามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาวและระยาวสั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับสตรีมีครรภ์ รวมถึงผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับบริเวณหูชั้นใน
พบได้บ่อยเพียงใด
อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย พบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่มายุมากกว่า 65 ปี ขึ้นไป
อาการ
อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
ผู้ป่วยส่วนมใหญ่ทีมีอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนจะมีลักษณะอาการ ดังต่อไปนี้
- รู้สึกหมุน
- รู้สึกเอียง
- รู้สึกแกว่ง
- รู้สึกไม่สมดุล
- รู้สึกถูกดึงในทิศทางหนึ่ง
- รู้สึกคลื่นไส้
- การเคลื่อนไหวของดวงตาที่กระตุกหรือผิดปกติ (Nystagmus)
- ปวดศีรษะ
- เหงื่อออก
- มีเสียงอื้อในหู หรือสูญเสียการได้ยิน
อาการเหล่านี้สามารถคงอยู่ได้เป็นเวลาสองสามนาที หรือนานถึงสองสามชั่วโมงหรือมากกว่า อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการบางประการที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีข้อคำถามใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนมักเกิดจากอาการเจ็บป่วย หรือความผิดปกติต่างๆ ที่ส่งผลต่อหูชั้นใน ซึ่งได้แก่
- โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Benign paroxysmal positional vertigo): มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งของศีรษะที่ทำให้เกิดความรู้สึกหมุนกะทันหัน ตัวอย่างเช่น ผลึกขนาดเล็กแตกในช่องหูด้านในและสัมผัสปลายประสาทด้านในที่ไวต่อการรู้สึก
- หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน (Acute labyrinthitis): เกิดจากการอักเสบของโครงสร้างเกี่ยวกับการทำให้สมดุลของหูชั้นใน ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
- น้ำในหูไม่เท่ากัน (Ménière’s disease): เกิดจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณของเหลวภายในหูชั้นใน
อาการรู้สึกหมุนสามารถเกิดจากภาวะสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งได้แก่
- การบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอ
- ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือเนื้องอก
- ยาบางชนิดที่ทำให้เกิดความเสียหายที่หู
- ปวดศีรษะไมเกรน
ปัจจัยเสี่ยงของอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการสำหรับอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน เช่น
- อายุ อาการรู้สึกหมุนมักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุมากกว่าในผู้ที่อายุน้อย
- มีประวัติมีภาวะต่างๆ เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ตัวอย่างเช่น เจ็บแน่นหน้าอก (angina) และโรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
- มีประวัติเป็นเบาหวานและโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
- การทำหน้าที่ที่ผิดปกติของหู
- การใช้ยาบางชนิด
- มีประวัติผ่าตัดหู
- ความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้า
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้ ไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยอาการเวียนศีระษะแบบบ้านหมุน
ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการสอบถามประวัติและอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียด รวมถึงการทดสอบอื่นๆ เพื่อทำการวินิจฉัยโรค ดังต่อไปนี้
- การประเมินดวงตาเพื่อตรวจหาการเคลื่อนไหวที่กระตุกของดวงตาที่ผิดปกติ (Nystagmus)
- โดยปกติแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมหากแพทย์ไม่สงสัยว่าคุณมีอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติที่สมอง (Central vertigo)
- การตรวจด้วยคอมพิวเตอร์ (Computerized Tomography : CT Scan) หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging : MRI) ที่สมองเพื่อตรวจว่าคุณมีอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติที่สมอง หรือไม่
การรักษาอาการเวียนศีระษะแบบบ้านหมุน
ในบางครั้ง ผู้ป่วยสามารถมีการฟื้นตัวหลังจากช่วงเวลาที่มีอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนเนื่องจากการปรับตัวของร่างกาย หากจำเป็น การรักษาอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนขึ้นอยู่กับสาเหตุ ซึ่งได้แก่
- การฟื้นฟูเส้นประสาทการทรงตัว (Vestibular rehabilitation) เพื่อทำให้ระบบประสาทการทรงตัวแข็งแรง
- การทำให้หินปูนในหูชั้นในกลับเข้าที่เดิม (Canalith repositioning maneuvers) การเคลื่อนไหวเฉพาะของศีรษะและร่างกายสำหรับโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนจะมีการแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- การใช้ยา เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ เช่น คลื่นไส้หรือภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว (Motion sickness) ที่สัมพันธ์กับอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน อาจมีการให้ยาขับปัสสาวะในกรณีที่เป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน
- การผ่าตัด เมื่ออาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนเกิดจากโรคประจำตัวที่รุนแรงมากขึ้น เช่น เนื้องอกหรือการบาดเจ็บที่สมองหรือคอ
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่ช่วยจัดการอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองดังต่อไปนี้ อาจช่วยรับมืออาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนได้
- การรับประทานวิตามินดีอาจมีประโยชน์สำหรับโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Paroxysmal positional vertigo)
- การรับประทานรากขิง แปะก๊วย และผักชีอาจช่วยลดอาการรู้สึกหมุนในผู้ป่วยบางรายได้
- กายภาพบำบัด
- การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ของอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนบางประเภทได้
- หลีกเลี่ยงการใช้สารต่า งๆ ที่ส่งผลต่อการหมุนเวียนของเลือดได้ ซึ่งได้แก่ คาเฟอีน (Caffeine) บุหรี่ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำให้มาก
- น้ำมันหอมระเหย ซึ่งได้แก่ สะระแหน่ ขิง ลาเวนเดอร์ และกำยาน เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ของอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
[embed-health-tool-bmi]