ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial fibrillation) เกิดจากแรงกระตุ้นไฟฟ้าของหัวใจห้องบนขวามีกระแสไม่ต่อเนื่อง จึงส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่ต่อเนื่อง หัวใจเต้นเร็ว และไม่สม่ำเสมอ คุณจะรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วจนเกินไปหรือมีอาการที่ไม่สามารถคาดเดาได้ การผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว สามารถช่วยบรรเทาให้อาการดีขึ้นได้
ข้อมูลพื้นฐาน
การ ผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว คืออะไร
การผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า “Atrial Fibrillation Ablation’ คำว่า “Ablation” หมายถึง “การตัดออก’ มาจากคำว่า “Ablate” ที่แปลว่า “ลบออก หรือ ทำลาย”
ในแง่ของ ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว หมายถึง ตัวเลือกหนึ่งในการรักษาเมื่อยาไม่สามารถรักษาหรือควบคุมการทำงานของภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วได้
การผ่าตัดคือขั้นตอนที่ทำให้เกิดแผลขนาดเล็กบริเวณเนื้อเยื่อหัวใจ บริเวณเป้าหมายของแผลคือแหล่งกำเนิดแรงกระตุ้นไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอ ที่ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว เมื่อเนื้อเยื่อได้รับผลกระทบหรือเกิดความเสียหาย จะไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าที่ไม่สม่ำเสมอเข้าสู่หัวใจได้อีก ตำแหน่งแผลขึ้นอยู่กับขั้นตอนในการผ่าตัด รวมไปถึงประเภทการรักษา เช่น
- การกระตุ้นหัวใจห้องบนขวา
- การผ่าตัดใส่สายสวน
- การผ่าตัดหลอดเลือดดำในปอด
- การผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงของการ ผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
ระยะของอาการ และความเสี่ยงในการผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วนั้นแตกต่างกันในแต่ละบุคคล โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนการผ่าตัด
ขั้นตอนการ ผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
การผ่าตัดใส่สายสวน
การเตรียมพร้อมการผ่าตัดใส่สายสวน
การผ่าตัดภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ควรดำเนินการในโรงพยาบาล ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น
- ตรวจสอบการทำงานของเลือดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพแข็งแรงพอสำหรับการผ่าตัด
- ใช้ยาเจือจางเลือดก่อนเข้ารับการผ่าตัดเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
- การทำซีทีสแกน (CT) หรือการทำเอ็มอาร์ไอ (MRI) เพื่อตรวจสอบกระบวนการทำงานของเส้นเลือด
- อดอาหารหลังเที่ยงคืนก่อนวันผ่าตัด
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ ที่คุณกำลังรับประทาน คุณอาจจำเป็นต้องหยุดใช้ยาชั่วคราวเพราะยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัด หรือก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนระหว่าง หรือหลังผ่าตัดได้
ระหว่างการผ่าตัด
วิสัญญีแพทย์จะให้ยาชาเฉพาะที่ก่อนเริ่มการผ่าตัด จากนั้นศัลยแพทย์จะลงมือผ่าตัดอย่างใจเย็นและตั้งใจ ผู้ป่วยจะยังตื่นอยู่แต่จะไม่มีการเจ็บใด ๆ แพทย์จะสอดท่อยืดหยุ่นขนาดเล็กและบางเข้าภายในหลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบ
บางครั้งจะสอดเข้าหลอดเลือดดำบริเวณคอแทน จะใช้การเอกซเรย์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า ฟลูโอโรสโคป เพื่อดูตำแหน่งของท่อ เมื่อท่ออยู่ในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว แพทย์จะเริ่มส่งคลื่นวิทยุผ่านท่อ ส่วนปลายท่อจะมีความร้อนจากคลื่นวิทยุ ซึ่งจะใช้ความร้อนกับเนื้อเยื่อหัวใจที่เสียหาย การผ่าตัดนี้มักใช้เวลาหลายชั่วโมง
การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก
ขั้นตอนการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก เรียกว่า “การผ่าตัดที่มีขนาดแผลเล็กลง” และสามารถรักษา ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กโดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่นานเท่าการผ่าตัดแบบปกติ ซึ่งจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 3-4 ชั่วโมง
เมื่อผ่าตัดเสร็จจะมีเพียงรอยที่มีขนาดพอสำหรับการส่องกล้องและท่อสวนแผลเล็ก ๆ บริเวณข้างลำตัวหรือใต้รักแร้ คลื่นวิทยุจะสามารถกำจัดเนื้อเยื่อที่ผิดปกติที่เป็นสาเหตุของภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วได้
การพักฟื้น
การพักฟื้นหลังการผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
ผู้ป่วยจากการ ผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยอาจอยู่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบการทำงานของหัวใจผู้ป่วย หลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยอาจมีอาการกระตุกในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ยาเจือจางเลือดจะช่วยป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น ลิ่มเลือด ผู้ป่วยอาจใช้ยารักษาภาวะการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ เพื่อควบคุมอัตราการทำงานของคลื่นไฟฟ้าที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง และผู้ป่วยจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 2 สัปดาห์
ความเสี่ยงหลังการผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
ถึงแม้ว่าการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กจะมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่การผ่าตัดทุกประเภทก็ยังมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน เนื่องจากการเจาะเข้าสู่หัวใจอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมองได้ ตามข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด มีบุคคลเพียง 1-2% เท่านั้นที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนนี้
นอกจากนี้ การผ่าตัดเพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว อาจสร้างความเสียหายต่อหลอดอาหารได้ด้วย เนื่องจากหัวใจห้องบนซ้ายนั้นอยู่ด้านหลังของหลอดอาหาร และการตีบของหลอดเลือดในปอดก็ยังเป็นอีกหนึ่งผลข้างเคียงจากการผ่าตัด อาการหลอดเลือดตีบอาจทำให้เกิดลิ่มเลือดและปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับหลอดเลือดดำได้
คุณสามารถลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ผลลัพธ์ที่ได้
อัตราความสำเร็จของการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กนั้น แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะของผู้ป่วย การผ่าตัดมีประสิทธิ 30-90% หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ผู้ป่วยที่มีอัตราการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอจะมีอาการดีขึ้นมากกว่าแย่ลง
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดนี้ไม่สามารถรักษาอาการให้หายขาดได้ โปรดปรึกษาแพทย์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
[embed-health-tool-bmi]