แคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia) เป็นภาวะที่มีระดับแคลเซียมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในส่วนประกอบของเลือด ทำให้เกิดปัญหาต่อระบบประสาทและอื่นๆ
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
แคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia) เป็นภาวะที่มีระดับแคลเซียมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในส่วนประกอบของเลือด ทำให้เกิดปัญหาต่อระบบประสาทและอื่นๆ
แคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia) เป็นภาวะที่มีระดับแคลเซียมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในส่วนประกอบของเลือด ที่เป็นของเหลวหรือพลาสมา
โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการหรือสิ่งบ่งชี้ ของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ เนื่องจากภาวะดังกล่าวส่งผลต่อระบบประสาท ทารกที่มีภาวะดังกล่าวอาจมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก หรือมีอาการสั่น ผู้ใหญ่ที่มีภาวะดังกล่าวอาจมีอาการดังต่อไปนี้
อาการของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ได้แก่
อาการในระยะยาวของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ได้แก่
อาจมีบางอาการที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อกังวลเกี่ยวกับอาการหนึ่งๆ โปรดปรึกษาแพทย์
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุที่พบได้มากที่สุดของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำก็คือ ภาวะที่ร่างกายที่ผลิตฮอร์โมนพาราไทรอยด์น้อยเกินไป (hypoparathyroidism) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (parathyroid hormone: PTH) ในปริมาณน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ฮอร์โมนพาราไทรอยด์ในระดับต่ำ ส่งผลให้แคลเซียมในร่างกายอยู่ในระดับต่ำ ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หรือเกิดจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ หรือมะเร็งในบริเวณศีรษะและคอ
สาเหตุอื่นๆ ของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ได้แก่
แคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia) เป็นภาวะที่มีระดับแคลเซียมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในส่วนประกอบของเลือด ที่เป็นของเหลวหรือพลาสมา
โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการหรือสิ่งบ่งชี้ ของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ เนื่องจากภาวะดังกล่าวส่งผลต่อระบบประสาท ทารกที่มีภาวะดังกล่าวอาจมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก หรือมีอาการสั่น ผู้ใหญ่ที่มีภาวะดังกล่าวอาจมีอาการดังต่อไปนี้
อาการของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ได้แก่
อาการในระยะยาวของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ได้แก่
อาจมีบางอาการที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อกังวลเกี่ยวกับอาการหนึ่งๆ โปรดปรึกษาแพทย์
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใดๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุที่พบได้มากที่สุดของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำก็คือ ภาวะที่ร่างกายที่ผลิตฮอร์โมนพาราไทรอยด์น้อยเกินไป (hypoparathyroidism) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (parathyroid hormone: PTH) ในปริมาณน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ฮอร์โมนพาราไทรอยด์ในระดับต่ำ ส่งผลให้แคลเซียมในร่างกายอยู่ในระดับต่ำ ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หรือเกิดจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ หรือมะเร็งในบริเวณศีรษะและคอ
สาเหตุอื่นๆ ของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ได้แก่
ผู้ที่มีภาวะพร่องวิตามินดีหรือแมกนีเซียม มีความเสี่ยงต่อภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่
ทารกแรกเกิดมีความเสี่ยงต่อภาวะดังกล่าวนี้ เนื่องจากร่างกายยังไม่เติบโตเต็มที่ ซึ่งพบได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่เกิดจากมารดาที่เป็นโรคเบาหวาน
ข้อมูลที่นำเสนอมิได้ใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนแรกในการวินิจฉัย คือการตรวจเลือดเพื่อระบุระดับแคลเซียมในเลือด แพทย์ยังอาจตรวจทางร่างกายและจิตใจ เพื่อตรวจหาสิ่งบ่งชี้ของภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ การตรวจร่างกายอาจรวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับส่วนของร่างกายดังต่อไปนี้
การตรวจทางจิตใจอาจรวมถึงการตรวจสำหรับ
นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจตรวจหาอาการโควสเต็กและอาการทรูโซ (Chvostek’s and Trousseau’s signs) ซึ่งทั้งสองอาการมีความสัมพันธ์กับภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ อาการโควสเต็กเป็นอาการกระตุกเมื่อแตะที่กลุ่มเส้นประสาทที่ใบหน้า อาการทรูโซเป็นอาการกระตุกที่มือหรือเท้าซึ่งเกิดจากการขาดเลือด หรือการขัดขวางทางเดินเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ อาการกระตุกจัดว่าเป็นการตอบสนองในทางที่ดีต่อการทดสอบดังกล่าวนี้และเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงการเร้าต่อประสาทและกล้ามเนื้อ อันเป็นผลมาจากภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
ผู้ป่วยบางรายอาจหายขาดจากภาวะดังกล่าวโดยไม่ได้เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรง และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากมีอาการเฉียบพลัน แพทย์จะทำการฉีดแคลเซียมเข้าทางเส้นเลือดให้แก่คุณ
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียยวยาตนเองดังต่อไปนี้ อาจช่วยให้คุณรับมือกับภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำได้
ผู้ป่วยภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำจำนวนมาก รับการรักษาได้ง่ายโดยการเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน การรับประทานอากหารเสริมแคลเซียม วิตามินดี หรือแมกนีเซียม หรือการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอสามารถช่วยรักษาภาวะดังกล่าวได้
การรับแสงแดดจะช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีได้ ปริมาณแสงแดดที่จำเป็นมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ให้มั่นใจว่าได้ใช้ครีมกันแดดหากต้องโดนแดดเป็นเวลานาน แพทย์อาจแนะนำให้วางแผนการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เพื่อช่วยรักษาภาวะดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน
หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย