backup og meta

ฝีรอบต่อมทอนซิล (Peritonsillar Abcess)

ฝีรอบต่อมทอนซิล (Peritonsillar Abcess)

ฝีรอบต่อมทอนซิล (Peritonsillar Abcess) คือ การติดเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณคอหรือต่อมทอนซิล การติดเชื้อที่บริเวณเนื้อเยื่อดังกล่าวทำให้เกิดการสะสมหนองจนบวมและกลายเป็นฝี ส่งผลให้มีอาการปวดและบวมที่ลำคอ

[embed-health-tool-bmr]

คำนิยาม

ฝีรอบต่อมทอนซิล คืออะไร

ฝีที่ต่อมทอนซิล หรือฝีรอบต่อมทอนซิล (Peritonsillar Abcess) คือ การติดเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณคอหรือ ต่อมทอนซิล การติดเชื้อที่บริเวณเนื้อเยื่อดังกล่าวทำให้เกิดการสะสมของหนองจนเกิดอาการบวมและกลายเป็นฝี ส่งผลให้มีอาการปวดและบวมที่ลำคอ หากรุนแรงอาจเสี่ยงที่จะเกิดการอุดตันในลำคอ ทำให้การกลืนอาหารหรือการหายใจเป็นไปได้ยาก มากไปกว่านั้น ภาวะต่อมทอนซิลอักเสบที่ปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเสี่ยงที่จะทำให้กลายเป็นฝีรอบต่อมทอนซิลได้เช่นกัน

ฝีรอบต่อมทอนซิล พบบ่อยแค่ไหน

ฝีรอบต่อมทอนซิลมักเกิดได้บ่อยในเด็กวัยรุ่น และเกิดได้ง่ายในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีสภาพอากาศที่แห้งและเย็นทำให้เกิดอาการหวัด อาการไอ ที่นำไปสู่อาการเจ็บคอและ ต่อมทอนซิล อักเสบ

อาการ

อาการของ ฝีรอบต่อมทอนซิล

อาการทั่วไปของฝีรอบต่อมทอนซิลมีดังนี้

  • เกิดการติดเชื้อที่ ต่อมทอนซิล ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
  • มีไข้และหนาวสั่น
  • อ้าปากลำบาก
  • กลืนอาหารลำบาก
  • กลืนน้ำลายลำบาก
  • บวมที่ใบหน้าและลำคอ
  • ปวดศีรษะ
  • เสียงอู้อี้ในลำคอ
  • เจ็บคอ
  • ต่อมน้ำเหลืองบวม
  • ปวดที่หูโดยเฉพาะหูฝั่งเดียวกับที่มีอาการเจ็บคอ
  • มีกลิ่นปาก

ในกรณีที่อาการรุนแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน อาจมีอาการดังต่อไปนี้

  • ปอดติดเชื้อ
  • ทางเดินหายใจอุดกั้น
  • เชื้อแบคทีเรียกระจายไปยังลำคอ ปาก หน้าอก
  • ฝีแตก

หากไม่รักษาฝีรอบ ต่อมทอนซิล จะเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย หรือปิดกั้นทางเดินหายใจจนกระทบกับกระบวนการหายใจ

ควรพบหมอเมื่อใด

หากมีอาการเจ็บคอ กลืนน้ำ อาหาร และน้ำลายลำบาก รวมถึงมีการอุดกั้นในระบบทางเดินหายใจ ควรไปพบคุณหมอ

สาเหตุ

สาเหตุของฝีรอบต่อมทอนซิล

ฝีรอบต่อมทอนซิลเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของต่อมทอนซิลอักเสบ หรือภาวะ ต่อมทอนซิล อักเสบ ที่ปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาจนกระทั่งอาการรุนแรงขึ้น หรือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม A beta-hemolytic streptococcus ที่บริเวณเนื้อเยื่อในลำคอและต่อมทอนซิล จนเกิดการสะสมหนองเอาไว้ก่อนจะบวมกลายเป็นฝี

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงการเกิดฝีรอบต่อมทอนซิล

ปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นฝีรอบต่อมทอนซิล

  • ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง
  • โรคโมโนนิวคลิโอซิส (Infectious Mononucleosis)
  • การสูบบุหรี่
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง
  • มีแคลเซียมหรือนิ่วสะสมใน ต่อมทอนซิล มากเกินไป

อาจมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าที่ระบุไว้ข้างต้น โปรดปรึกษากับคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยและการรักษา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยฝีรอบต่อมทอนซิล

คุณหมอสามารถทำการตรวจวินิจฉัยฝีรอบต่อมทอนซิลได้โดยการ

  • ตรวจช่องปากและลำคอ
  • ตรวจโดยการนำเนื้อเยื่อในช่องปาก ลำคอ หรือต่อมทอนซิลไปเข้าห้องแล็บเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฝีรอบต่อมทอนซิล 
  • ตรวจโดยการส่องกล้องเข้าไปในลำคอเพื่อหาความผิดปกติของต่อมทอนซิล 
  • ตรวจซีทีสแกน (CT scan) เพื่อความแน่ชัดคุณหมออาจใช้วิธีการวินิจฉัยโดยซีทีสแกน เพื่อตรวจดูว่าเชื้อได้กระจายไปยังเนื้อเยื่ออื่น ๆ มากหรือน้อยเพียงใด

การรักษาฝีรอบต่อมทอนซิล

  • รักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อทำการฆ่าเชื้อ
  • รักษาโดยการเจาะหรือผ่าฝีเพื่อระบายเอาหนองออก

หากเป็นฝีรอบ ต่อมทอนซิล ซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณหมออาจแนะนำให้ทำการตัดต่อมทอนซิลออก เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่รุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การเปลี่ยนไล์สไตล์และการเยียวยาตนเอง

การเปลี่ยนไล์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่อาจช่วยจัดการกับฝีรอบต่อมทอนซิล

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองต่อไปนี้ อาจช่วยป้องกันฝีรอบต่อมทอนซิลได้

  • หากมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ควรไปเข้ารับการรักษากับคุณหมอทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดฝีรอบต่อมทอนซิล
  • หากมีอาการทางสุขภาพที่คล้ายกับฝีรอบ ต่อมทอนซิล ควรไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาโดยทันที
  • แปรงฟันให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ
  • ตรวจสุขภาพฟันทุกปี หรือทุก ๆ 6 เดือน
  • เลิกสูบบุหรี่

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Peritonsillar Abscess. https://www.healthline.com/health/peritonsillar-abscess. Accessed March 15, 2021.

Peritonsillar Abscess. https://www.webmd.com/oral-health/guide/peritonsillar-abcess. Accessed March 15, 2021.

Peritonsillar Abscess. https://www.health.harvard.edu/a_to_z/peritonsillar-abscess-a-to-z. Accessed March 15, 2021.

เวอร์ชันปัจจุบัน

03/11/2022

เขียนโดย Khongrit Somchai

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

เป็นฝีห้ามกินอะไร แล้วควรดูแลตัวเองยังไง ให้ฝีหายเร็วขึ้น

เจ็บคอ ช่วงหน้าฝน ฝนมาทีไรเจ็บคอทุกที มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้างนะ


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 03/11/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา