ริดสีดวงจมูก ป้องกันได้อย่างไร โรคริดสีดวงเกิดขึ้นจากอาการแพ้หรือการติดเชื้อ ที่ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง และก่อให้เกิดติ่งก้อนเนื้อเล็ก ๆ สามารถป้องกันได้ด้วยการจัดการกับอาการแพ้ และปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น ล้างมือบ่อย ๆ ทำความสะอาดบ้าน เพิ่มความชื้นของอากาศในบ้าน
โรคริดสีดวงจมูก เป็นอย่างไร
ริดสีดวงจมูก เกิดจากอาการแพ้ หรืออาการติดเชื้อ ที่ก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุจมูกเรื้อรัง ส่งผลให้เกิดอาการบวม แดง และมีการสะสมของเหลวเอาไว้ จนกระทั่งกลายเป็นติ่งเนื้อก้อนเล็ก ๆ หลายก้อน คล้ายกับหยดน้ำตายื่นออกมา ซึ่งติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาเหล่านี้จะปิดกั้นบริเวณทางเดินจมูก ติ่งเนื้อริดสีดวงจมูกนี้ไม่ใช่มะเร็งแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรชะล่าใจ เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาให้ดีขึ้น อาจเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ริดสีดวงจมูก มักก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ดังนี้
- หายใจไม่สะดวก หรือหายใจไม่ออก
- ความสามารถในการรับกลิ่นลดลง
- ความสามารถในการรับรสชาติลดลง
- มีเสมหะในลำคอ
- น้ำมูกไหล
- ปวดศีรษะ
- ปวดตามใบหน้า
- ปวดฟัน
- เลือดกำเดาไหลบ่อย
ริดสีดวงจมูก ป้องกัน ได้อย่างไรบ้าง
แพทย์สามารถทำการรักษาริดสีดวงจมูกได้ ทั้งการให้ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ชนิดฉีดพ่น หรือรักษาโดยการผ่าตัดเอาติ่งเนื้อออก เพื่อระบายของเหลวในจมูก ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น มากไปกว่านั้น เพื่อป้องกันริดสีดวงจมูก หรือป้องกันไม่ให้อาการริดสีดวงจมูกที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้น อาจใช้วิธีดังต่อไปนี้เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคริดสีดวงจมูก
จัดการกับอาการแพ้
อาการแพ้ เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้หากร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ อย่างไรก็ตาม หากได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้ต่อสิ่งใด ควรดูแลตนเองอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ เพราะอาการแพ้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุจมูกได้
หลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่จมูก
การสูดเอามลภาวะทางอากาศ เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ เป็นประจำ เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบของเยื่อบุจมูก ที่จะนำไปสู่การเกิด โรคริดสีดวงจมูก ได้ ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีควันบุหรี่หรือฝุ่นละอองต่าง ๆ หรือควรสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากป้องกันมลภาวะทางอากาศ
ล้างมือให้สะอาด
แม้จะเป็นปัญหาที่จมูก แต่ไม่ควรละเลยความสะอาดของมือ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใช้นิ้วแหย่หรือแคะเข้าไปในจมูก ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดและล้างมืออย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส เนื่องจากมือเป็นอวัยวะที่ต้องมีการจับ หรือสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เสี่ยงที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสโดยไม่รู้ตัว
เพิ่มความชื้นของอากาศภายในบ้าน
บรรยากาศภายในบ้านที่แห้งจนเกินไป มักจะมีผลต่อการหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย จึงควรเพิ่มความชื้นให้อากาศภายในบ้าน โดยอาจใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เพื่อปรับสภาพอากาศภายในบ้านให้ชื้นขึ้น สิ่งนี้จะช่วยระบายน้ำมูกในจมูก ป้องกันการอุดตันที่จะนำไปสู่การอักเสบจนพัฒนาไปสู่ ริดสีดวงจมูก
ใช้สเปรย์ฉีดจมูกหรือน้ำยาล้างจมูก
การใช้สเปรย์และน้ำยาล้างจมูก จะช่วยให้จมูกของมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้หายใจได้ง่าย มากไปกว่านั้น น้ำยาหรือสเปรย์นี้ยังช่วยทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในจมูก จึงช่วยป้องกันการอักเสบได้เป็นอย่างดี
เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
ริดสีดวงจมูก เป็นอาการสุขภาพที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากคุณหมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีอาการของริดสีดวงจมูกดังต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอทันที
- มีอาการริดสีดวงจมูกติดต่อกันมากกว่า 10 วัน และอาการแย่ลงกะทันหัน
- มีอาการไซนัสเรื้อรังร่วมด้วย
- หายใจลำบาก หรือหายใจไม่ออกอย่ารุนแรง
- มีปัญหาด้านการมองเห็น เช่น เห็นภาพซ้อน ความสามารถในการมองเห็นลดลง ดวงตาไม่ค่อยเคลื่อนไหว
- รอบดวงตาบวมอย่างรุนแรง
- มีไข้สูง และมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง