โดย โรคเกาต์ จัดเป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดอาการปวด เจ็บ หรือแดงที่บริเวณข้อต่ออย่างกะทันหัน โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเข่า ข้อศอก ซึ่งอาการของโรคเกาต์มักจะเป็น ๆ หาย ๆ แต่สามารถดูแลและรักษาได้ตามอาการ
เป็นเกาต์ จะดูแลสุขภาพได้อย่างไรบ้าง
หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเกาต์ สิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งแล้ว การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันบางประการ ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้อาการของ โรคเกาต์ ที่เป็นอยู่ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับได้ ซึ่งผู้ป่วยโรคเกาต์ สามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ง่าย ๆ ดังนี้
เป็นเกาต์ ควรประคบเย็น
ผู้ป่วย โรคเกาต์ ที่มีอาการปวดข้อเป็นประจำ นอกเหนือจากการรับประทานยาแก้ปวดแล้ว ควรบรรเทาอาการปวดด้วยการประคบเย็น โดยนำผ้าขนหนูบาง ๆ ห่อด้วยน้ำแข็ง แล้วนำไปประคบที่บริเวณข้อต่อที่มีอาการปวดครั้งละ 20 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน หรือวันละหลาย ๆ ครั้ง ความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้
ผ่อนคลายข้อต่อ
ผู้ป่วย โรคเกาต์ ที่มีอาการปวดข้อเป็นประจำ ไม่ควรขยับหรือเคลื่อนไหวข้อต่อมากนัก เพราะจะยิ่งก่อให้เกิดการอักเสบและปวดข้อ ควรพักการใช้งานข้อต่อจนกว่าอาการปวดจะทุเลาลง และเวลานอน ควรวางข้อต่อลงบนหมอนนุ่ม ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนที่ข้อต่อ
ดื่มน้ำให้มาก ๆ
ผู้ป่วย โรคเกาต์ ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำ หรือมีระดับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะผลิตกรดยูริกออกมา เสี่ยงที่โรคเกาต์จะกำเริบมากขึ้นไปอีก
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเสี่ยงที่ร่างกายจะผลิตกรดยูริกสูง และมีแนวโน้มที่จะเป็น โรคเกาต์ การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม จะช่วยลดอัตราการผลิตกรดยูริกจนเกินความจำเป็น และควรลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารหรือลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายผลิตกรดยูริกสูงกว่าเดิม