สมัยนี้เวลาอยากกินขนมหรือของหวาน คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงขนมถุง ขนมขบเคี้ยว หรือขนมอบแบบฝรั่ง เช่น เค้ก คุ้กกี้ พาย ทาร์ต อาจไม่ค่อยได้นึกถึงขนมไทยกันเท่าไหร่ หรืออีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะขนมไทยหากินยากกว่า หรือหาร้านอร่อยยากกว่า วันนี้ Hello คุณหมอ เลยมีเมนูขนมไทยมานำเสนอ นั่นก็คือ “ขนมปุยฝ้าย” ขนมมงคลสีหวาน เนื้อนุ่มเด้ง จะทำกินเองหรือมอบเป็นของฝากก็ได้ รับรองเลยว่ายิ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ยิ่งต้องประทับใจสุดๆ
ขนมปุยฝ้ายของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว! เห็นไหมว่าทำง่ายกว่าที่คิดเยอะ จะมือใหม่หรือมือเก๋าก็ทำได้ ใครจะจัดเสิร์ฟ หรือแพ็คลงกล่องตกแต่งให้สวยงามเพื่อมอบเป็นของขวัญก็ตามสบายเลย แต่ถึงขนมปุยฝ้ายสูตรนี้จะอร่อยถูกปากแค่ไหน ก็แนะนำว่าให้กินแต่น้อย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูง น้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
ทำความรู้จักกับส่วนประกอบในขนมปุยฝ้าย
เอสพี… ตัวช่วยในการทำขนม
สำหรับมือใหม่หัดทำขนม อาจยังไม่คุ้นเคยกับเอสพี (SP) เท่าไรนัก เอสพีหรือครีมเอสพี (SP Cream) หรือที่เรียกกันว่า สารเสริมคุณภาพ คือวัตถุเจือปนอาหารที่นิยมใช้ในการทำเค้กและขนมปังที่มีไข่เป็นส่วนผสมหลัก เช่น เค้กไข่ ซาลาเปา เพื่อช่วยให้ส่วนผสมรวมตัวกันดีขึ้น และเนื้อขนมนุ่มขึ้น สามารถหาซื้อได้ทั้งตามซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่
เชอร์รี่เชื่อม… สีสวย แต่ต้องบริโภคอย่างระวัง
เชอร์รี่เชื่อมสีแดงสวย ที่เราเห็นกันบ่อยๆ บนหน้าเค้ก เครื่องดื่มคอกเทล หรือใช้ตกแต่งบนไอศกรีม จริงๆ แล้วมีชื่อว่า “เชอร์รี่มาราสชีโน (Maraschino Cherry)” นิยมใช้กันแพร่หลายทั่วโลก
เชอร์รี่เชื่อมหรือเชอร์รี่มาราสชีโนในปัจจุบัน มีรสชาติหวานมาก และผ่านการเติมรสและสีผสมอาหาร เพื่อให้มีสีแดงสดน่ากินยิ่งขึ้น นั่นทำให้เชอร์รี่ ผลไม้มากประโยชน์ กลายเป็นเชอร์รี่เชื่อมที่มีสารอาหาร รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่ำมากหากเทียบกับเชอร์รี่สด
![ขนมปุยฝ้าย](https://hellokhunmor.com/wp-content/uploads/2019/09/maraschino-cherry.jpg)
ฉะนั้นเวลาทำขนมปุยฝ้าย Hello คุณหมอ แนะนำว่าอย่าใส่เชอร์รี่เชื่อมเยอะเกินไป หรือหากใครแพ้สีผสมอาหารก็ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเชอร์รี่เชื่อมมีส่วนผสมของสีผสมอาหาร ก่อนซื้อจึงต้องอ่านฉลากอาหารให้ดี หรืออาจเปลี่ยนมาโรยผลไม้อบแห้งชนิดอื่นแทน เช่น ลูกเกด มะละกออบแห้ง ลูกพลับอบแห้ง แต่ก็ต้องใช้แต่น้อยเช่นกัน เพราะผลไม้อบแห้งมีน้ำตาลเยอะ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด