การรักษาพิษสุนัขบ้า
สำหรับวิธีการรักษาโรคพิษสุนัขบ้านั้น “เวลา” ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณคาดว่าจะได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า คุณจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาโดยทันที ด้วยการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า 4 ครั้งและฉีดยาที่เรียกว่า “อิมมูโนโกลบูลินที่ผลิตจากซีรั่มของมนุษย์ (Human rabies immunoglobulin หรือ HRIG)” 1 ครั้ง ซึ่งอิมมูโนโกลบูลินที่ผลิตจากซีรั่มของมนุษย์นั้นจะมีแอนติบอดีภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งและควบคุมไวรัสพิษสุนัขบ้าได้ทันที จนกว่าวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าจะเริ่มทำงาน
อิมมูโนโกลบูลินที่ผลิตจากซีรั่มของมนุษย์ จะถูกฉีดให้เฉพาะผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน โดยจะต้องฉีดเข้าไปที่แผลโดยตรง และจะถูกฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ ซึ่งห่างไกลจากจุดที่ฉีดวัคซีน การฉีดอิมมูโนโกลบูลินที่ผลิตจากซีรั่มของมนุษย์ใกล้บริเวณที่ฉีดวัคซีนมากเกินไป อาจรบกวนการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันได้
อิมมูโนโกลบูลินที่ผลิตจากซีรั่มของมนุษย์ (Human rabies immunoglobulin หรือ HRIG) ที่ใช้ในการฉีดเพื่อยับยั้งและควบคุมไวรัสพิษสุนัขบ้า มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือ
- Imogam Rabies-HT
- HyperRab TM S / D
โดยควรเริ่มฉีดทันทีหลังจากสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งการฉีดครั้งแรกจะเป็นการฉีดอิมมูโนโกลบูลินที่ผลิตจากซีรั่มของมนุษย์ และการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า จากนั้นจะมีการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง โดยระยะเวลาของการฉีดจะเป็น 3 วัน 7 วัน และ 14 วันต่อมาตามลำดับ ส่วนผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการได้รับการฉีดยามักจะไม่รุนแรง อาจมีอาการปวดบริเวณที่ฉีด และมีไข้เพียงเล็กน้อย