ปริมาณฝุ่นละออง มักมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ และละอองต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศเราสามารถพบได้ มาจาก หญ้า วัชพืชและต้นไม้ เมื่อคุณสูดหายใจเอาละอองของพืชเหล่านี้เข้าไป อาจกระตุ้นปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกัน นั่นก็คือ โรคไข้ละอองฟาง และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้คือ ไรฝุ่น ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า Hello คุณหมอ ขอแนะนำวิธีการดังต่อไปนี้ช่วยให้คุณ ต่อสู้อาการภูมิแพ้ ได้
เคล็ดลับที่จะช่วยคุณ ต่อสู้อาการภูมิแพ้
จำกัดเวลาในการอยู่นอกบ้าน
ปริมาณละอองเกสรที่มีอยู่นับล้าน หากเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจจากจมูกลงสู่ปอดแล้ว อาจกระตุ้นปฏิกิริยาเกิดเป็นอาการภูมิแพ้ขึ้นได้ การอยู่ในที่ร่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ลมแรง และในช่วงเวลาเช้า เป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอาการภูมิแพ้ได้ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณละอองต่างๆ ในอากาศสูงที่สุด
เมื่อคุณออกไปข้างนอก คุณควรสวมแว่นตาเพื่อไม่ให้ละอองต่างๆ เข้าตา รวมทั้งยังควรสวมหน้ากาก เมื่อคุณตัดหญ้าหรือทำสวน นอกจากนี้คุณควรอาบน้ำ สระผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสมอ เพราะอาจมีละอองต่างๆ ติดมากับเสื้อผ้าเข้ามาในบ้านได้
เลิกบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยที่อันตรายในการกระตุ้นอาการภูมิแพ้ให้รุนแรงขึ้น หากคุณต้องอยู่ร่วมกับควันบุหรี่ หรือคุณสูบบุหรี่ อาจถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเลิกสูบบุหรี่ เพราะไม่ใช่คุณเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่คนรอบข้างของคุณ ก็ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน
ป้องกันตัวเอง
คุณควรเริ่มใช้ยาก่อนที่จะเกิดอาการภูมิแพ้ และไม่ควรหยุดยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนถึงช่วงเวลาที่อาการแพ้กำเริบ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเกี่ยวกับการกินยา เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้
ใช้สมุนไพรบรรเทาอาการ
อาการภูมิแพ้สามารถบรรเทาได้ด้วยยาสมุนไพร แม้ว่าต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม แต่สารสกัดจากสมุนไพรที่เรียกว่า บัตเตอร์เบอร์ (butterbur) มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการ นอกจากนี้ยังมีไบมีน (Biminne) ที่เป็นสูตรสมุนไพรจีนที่มีส่วนผสมหลากหลาย เช่น แปะก๊วย ก็สามารถบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ อย่างไรก็ตาม บัตเตอร์เบอร์อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ในบางคน ที่ไวต่อพืชบางชนิด เช่น ดาวเรือง (marigold) และแรควีด (ragweed)
ทำความสะอาดบ้าน
เพียงคุณปิดหน้าต่างเพื่อไม่ให้ละอองต่างๆ เข้ามาในบ้าน และเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อทำให้บ้านเย็น แทนการเปิดพัดลม ซึ่งเป็นตัวดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาในบ้าน ก็อาจช่วยได้แล้ว มากไปกว่านั้น คุณควรถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านทุกครั้ง และควรบอกแขกที่มาเยี่ยมให้ทำเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากภายนอก
นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับฝุ่นละอองด้วย โดยเริ่มจากการทำความสะอาดห้องนอนซึ่งเป็นที่ๆ คุณใช้เวลามากที่สุดในบ้าน ไรฝุ่นจำนวนมากอาจสะสมอยู่บนเตียงนอน และเครื่องนอนต่างๆ คุณควรสวมหน้ากากปิดจมูกและปาก ในขณะที่ทำความสะอาดอีกด้วย
การต่อสู้กับอาการภูมิแพ้ด้วยยาเพียงอย่างเดียว คงไม่เพียงพอ คุณควรลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน และในที่ทำงานให้เหลือน้อยที่สุด อีกทั้งควรตรวจสอบแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศ ให้อยู่ในสภาพที่สะอาด และควรระลึกไว้เสมอว่า สารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม สามารถทำให้อากาศภูมิแพ้รุนแรงขึ้นได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]