Anaphylaxis คือ ภาวะที่ร่างกายแพ้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น การแพ้อาหาร ยาง พิษของแมลง หรือแม้กระทั่งวัคซีนโควิด-19 ภาวะแพ้รุนแรงสามารถบรรเทาให้อาการทุเลาลงได้ด้วยการใช้ยา แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันภาวะแพ้รุนแรงคือหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของหรือรับประทานอาหารที่ตัวเองแพ้
คำจำกัดความ
Anaphylaxis คืออะไร
Anaphylaxis คือ ภาวะแพ้รุนแรง เป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่แสดงออกเมื่อเกิดอาการแพ้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาทันเวลา เพราะภาวะแพ้รุนแรงอาจทำให้หายใจไม่ออกและหัวใจหยุดเต้นได้
อย่างไรก็ตาม ภาวะแพ้รุนแรงพบได้ไม่บ่อย และอาจเกิดกับผู้ที่มีประวัติสุขภาพ ดังนี้
- เคยมีภาวะนี้มาก่อน
- เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด
- มีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ
อาการ
อาการของ Anaphylaxis
โดยปกติ อาการของ Anaphylaxis คือ ร่างกายจะแสดงปฏิกิริยาอย่างรุนแรงภายในไม่กี่นาที หลังสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อาการอาจแสดงช้ากว่านั้น เช่น ภายในครึ่งชั่วโมง หรือหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ไปแล้วหลายชั่วโมง
อาการของภาวะแพ้รุนแรงที่อาจพบได้ ประกอบด้วย
อาการแพ้ที่ผิวหนัง อาทิ ผื่นลมพิษ ผื่นคัน ผิวซีด หายใจเสียงดังหรือหายใจลำบาก เพราะทางเดินหายใจอุดตัน ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง เวียนศีรษะ เป็นลม ปากบวมหรือคันรอบริมฝีปาก สาเหตุ
สาเหตุของ Anaphylaxis
ภาวะแพ้รุนแรงเกิดจากภูมิแพ้ หรือการการตอบสนองซึ่งผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อสิ่งที่ไม่ใช่เชื้อโรค หรือโดยปกติไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ทั้งนี้ ภาวะแพ้รุนแรงจะเกิดเมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ซึ่งอาจเป็นส่วนประกอบของสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- อาหาร เช่น ถั่ว นม ปลา หอย กุ้ง ไข่ ผลไม้
- ยาบางชนิด
- วัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
- พิษของแมลง เช่น ผึ้ง ตัวต่อ ตัวแตน มด
- เกสรของพืช เช่น ต้นหญ้า ดอกไม้ต่าง ๆ
- ยางพารา โดยอาการแพ้อาจเกิดเมื่อสวมถุงมือยางหรือถุงยางอนามัย
นอกจากนั้น ภาวะภูมิแพ้รุนแรงอาจเกิดหลังจากออกกำลังกาย แต่พบได้น้อย เช่น การวิ่งเหยาะ ๆ ซึ่งมักมีความสัมพันธ์กับอาหารที่รับประทานเข้าไปก่อนออกกำลังกาย รวมถึงสภาพอากาศขณะออกกำลังกาย
เมื่อไรควรไปพบคุณหมอ
เมื่อมีอาการ Anaphylaxis ควรไปพบคุณหมอทันที เพราะภาวะแพ้รุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม ภาวะแพ้รุนแรงในระยะเริ่มแรกอาจมีอาการคล้ายภูมิแพ้ทั่วไป คือน้ำมูกไหลและผื่นขึ้นตามลำตัว เมื่อมีอาการเหล่านี้ไม่ควรนิ่งนอนใจหรือปล่อยทิ้งไว้ ควรไปพบคุณหมอเพราะอาการแพ้อาจจะรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้
ในกรณีที่พบว่ามีคนใกล้ตัวเกิดภาวะแพ้รุนแรง มีอาการหายใจไม่ออก ควรให้ผู้ป่วยนอนราบและยกขาขึ้น เพื่อช่วยให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากทราบสาเหตุของภูมิแพ้ ควรนำออกห่างจากผู้ป่วย เพื่อป้องกันอาการแพ้แย่ลงกว่าเดิม และให้รีบพาส่งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใกล้จุดเกิดเหตุ
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย Anaphylaxis
เมื่อไปพบคุณหมอ คุณหมอจะถามถึงสาเหตุของภูมิแพ้ และอาจขอเจาะเลือดตรวจระดับเอนไซม์ Tryptase ซึ่งจะสูงขึ้นหลังจากมีภาวะแพ้รุนแรง เพื่อยืนยันว่า คนไข้ไม่ได้ป่วยจากภาวะสุขภาพอื่น ๆ อันส่งผลให้เกิดอาการป่วยคล้ายกัน
การรักษา Anaphylaxis
ภาวะภูมิแพ้รุนแรง รักษาได้ด้วยการฉีดอิพิเนฟริน (Epinephrine) เพื่อยับยั้งปฏิกิริยาภูมิแพ้ของร่างกาย ทั้งนี้ การฉีดอิพิเนฟริน 1 ครั้งจะมีผลประมาณ 1 ปี หากครบปีแล้ว ผู้ป่วยต้องฉีดอิพิเนฟรินซ้ำ เพื่อป้องกันภาวะแพ้รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ คุณหมอจะรักษาอาการหายใจลำบากของคนไข้ ด้วยการให้ออกซิเจน ร่วมกับการให้ยาอัลบูเทอรอล (Albuterol) เพื่อช่วยขยายหลอดลม
หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงถึงขั้นหยุดหายใจ คุณหมอจะทำ CPR หรือปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการปั๊มหัวใจเพื่อให้คนไข้ฟื้นคืนชีพกลับมาหายใจได้อีกครั้ง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองจาก Anaphylaxis
หากมีความเสี่ยงเป็น Anaphylaxis ควรปรับไลฟ์สไตล์ตามคำแนะนำต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้เท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อป้องกันอาการแพ้กำเริบ เช่น หากแพ้อาหาร ควรถามร้านอาหารทุกครั้งเกี่ยวกับส่วนผสมของเมนูที่สนใจจะสั่ง เพราะหากมีส่วนผสมเป็นวัตถุดิบที่ก่อให้เกิดแพ้ เมื่อรับประทานเข้าไปอาจเกิดภาวะแพ้รุนแรงได้
- รับการตรวจสาเหตุของภูมิแพ้ ในกรณีของบุคคลที่เคยเป็นภาวะแพ้รุนแรง โดยไม่ทราบว่าตัวเองแพ้อะไร ควรเข้ารับการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือทางเลือด จะได้ทราบว่าควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับวัสดุหรือสารประกอบ รวมทั้งอาหารชนิดใดบ้างเพื่อป้องกันภาวะแพ้รุนแรงเกิดซ้ำ
- พกอุปกรณ์ฉีดยาอัตโนมัติติดตัว โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีภาวะแพ้รุนแรงสำหรับฉีดอิพิเนฟรินในกรณีเกิดภาวะแพ้รุนแรงแบบฉุกเฉิน โดยอุปกรณ์ดังกล่าวควรเก็บในที่เย็น เพื่อป้องกันอิพิเนฟรินเสื่อมคุณภาพ
- แจ้งคนรอบตัวให้ทราบเกี่ยวกับอาการแพ้ รวมถึงสิ่งกระตุ้น รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นภาวะแพ้รุนแรง และหากจำเป็น ควรสอนคนรอบตัวให้รู้จักวิธีใช้อุปกรณ์ฉีดยาอัตโนมัติด้วย เนื่องจากในบางกรณีหากแพ้รุนแรงอาจไม่สามารถฉีดยาให้ตัวเองได้