backup og meta

5 วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน

5 วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน

ผู้ป่วยเบาหวาน มักจะมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะการติดเชื้อทางผิวหนัง การเรียนรู้เกี่ยวกับ วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน จึงอาจช่วยดูแลสุขภาพผิวของผู้ป่วยโรคเบาหวานให้มีสุขภาพดี และช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

[embed-health-tool-bmi]

ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กับสุขภาพทางผิวหนัง

โรคเบาหวานมักส่งผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงปัญหาทางด้านผิวหนัง เนื่องจากระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังผิวหนังลดลง และเกิดการติดเชื้อทางผิวหนังได้ง่าย 

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจมีอาการทางผิวหนังที่ส่งผลกระทบบุคคลรอบข้างได้อีกด้วย เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อรา และอาการคัน เป็นต้น 

ปัญหาทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

อาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยใน ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีดังต่อไปนี้

  • อาการคัน ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อราบนผิวหนัง หรือจากการไหลเวียนของระบบเลือดที่ไม่ดี
  • ผิวเปลี่ยนสี เช่น ผิวหนังมีสีคล้ำน้ำตาล ซึ่งพบได้บ่อยในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
  • การติดเชื้อรา คือเชื้อรา Candida albicans มักพบในบริเวณที่มีความอับชื้น รอบพับตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ผิวหนังแข็งและหนา โดยส่วนใหญ่ผิวหนังบริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า จะมีลักษณะแข็งและหนาขึ้น 
  • โรคด่างขาว เกิดจากความผิดปกติของสีผิว เมื่อเซลล์เม็ดสีถูกทำลาย จึงทำให้สีผิวมีลักษณะเป็นดวงขาว ๆ ขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย

5 วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรให้ความใส่ใจดูแลผิวพรรณเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนัง โดยมี วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน ดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด

ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรอาบน้ำร้อน อย่าปล่อยให้อุณหภูมิน้ำสูงถึง 120 องศาเซลเซียส เพราะอาจทำให้ผิวหนังแห้งตึง และควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำนานเกิน 10-15 นาที 

  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว 

หลังอาบน้ำแล้วควรทาโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังเป็นประจำ เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจมีผิวแห้งแตกได้ง่าย ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำหอม เพื่อหลีกเลี่ยงสารที่อาจสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังและส่งผลให้เกิดโรคผิวหนัง

  • ทาครีมกันแดด

ควรปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงการออกข้างนอกในช่วงบ่ายที่มีแดดจัด

  • หมั่นดื่มน้ำให้มาก ๆ 

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมาก ๆ ประมาณ 8 แก้วต่อวัน และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนหรือน้ำตาลในปริมาณสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ที่ผสมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม

  • เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และธัญพืช หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงอาหารแปรรูปทุกชนิด 

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

6 Diabetes Skin Care Tips. https://www.webmd.com/diabetes/guide/diabetes-skin-care.   Accessed April 29, 2021

8 Ways to Maintain Healthy Skin With Type 2 Diabetes. https://www.everydayhealth.com/hs/type-2-diabetes-management/diabetes-skin-pictures/.   Accessed April 29, 2021

Diabetes and Skin Care. https://www.diabetes.co.uk/diabetes-and-skin-care.html.   Accessed April 29, 2021

Type 2 diabetes. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/type-2-diabetes/symptoms-causes/syc-20351193. Accessed March 30, 2022.

Type 2 Diabetes. https://www.webmd.com/diabetes/type-2-diabetes. Accessed March 30, 2022.

What is type 2 diabetes?. https://www.nhs.uk/conditions/type-2-diabetes/. Accessed March 30, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

31/03/2022

เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความเสี่ยงสุขภาพที่คุณแม่ป้องกันได้

โรคเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงต้อหิน ได้อย่างไร


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/03/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา