วิตามิน คน ท้อง เป็นสารอาหารที่คนท้องควรกินเสริมมากขึ้น เนื่องจากในขณะตั้งท้องร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามินที่หลากหลายและสารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพของคุณแม่และส่งเสริมการเจริญเติบโตทางร่างกาย สมอง ระบบภูมิคุ้มกันของทารกในท้อง รวมถึงยังอาจช่วยป้องกันความพิการแต่กำเนิดได้ด้วย ทั้งนี้ ควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทาน เพื่อให้สามารถเลือกวิตามินได้อย่างเหมาะสมและในปริมาณที่พอเหมาะ
[embed-health-tool-due-date]
วิตามิน คน ท้อง สำคัญอย่างไร
วิตามินคนท้อง เป็นวิตามินเสริมที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งท้อง เนื่องจากในระหว่างตั้งท้องร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในท้อง ดังนั้น คนท้องจึงควรเสริมวิตามินหลากหลายชนิดเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย รวมถึงช่วยเสริมพัฒนาการทางร่างกาย สมอง ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เลือด กระดูก และป้องกันความพิการแต่กำเนิดของทารกในท้องด้วย
วิตามินคนท้อง มีอะไรบ้าง
วิตามินคนท้องที่ควรกิน เพื่อเสริมสุขภาพของคุณแม่และทารกในท้อง อาจมีดังนี้
- กรดโฟลิก (Folic Acid) เป็นวิตามินที่สำคัญอย่างมากต่อการตั้งท้อง เนื่องจากกรดโฟลิกมีส่วนช่วยในการป้องกันความพิการแต่กำเนิดของทารกในท้อง รวมถึงช่วยส่งเสริมพัฒนาการของระบบประสาท การทำงานของสมองและไขสันหลังของทารก โดยกรดโฟลิกอาจพบได้ในส้ม น้ำส้ม สตรอว์เบอร์รี่ ผักใบเขียว บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก พืชตระกูลถั่ว ดังนั้น คนท้องจึงควรกินกรดโฟลิกเสริมเพิ่มขึ้นในรูปแบบอาหาร หรืออาหารเสริม ตั้งแต่ 3 เดือนก่อนตั้งท้องไปจนถึง 3 เดือนแรกของการตั้งท้อง อย่างน้อย 400 ไมโครกรัม/วัน (0.4 มิลลิกรัม/วัน) และกินเพิ่มเป็น 600-800 ไมโครกรัม/วัน (0.6-0.8 มิลลิกรัม/วัน) ไปจนตลอดการตั้งท้อง เป็นประจำทุกวัน
- ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยเพิ่มปริมาณเลือดให้เหมาะสม เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดมีหน้าที่ในการลำเลียงอาหารและออกซิเจนไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งของคุณแม่และทารกในท้อง นอกจากนี้ ยังอาจช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง น้ำหนักทารกแรกเกิดต่ำ และอาจช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้ด้วย โดยธาตุเหล็กอาจพบได้ในเนื้อวัว เนื้อหมู ตับ เครื่องในสัตว์ ผักปวยเล้ง จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ดังนั้น คนท้องจึงควรกินธาตุเหล็กเสริม ประมาณ 27 มิลลิกรัม/วัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง
- แคลเซียม มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูกคุณแม่ตั้งท้องเป็นอย่างมาก เนื่องจากทารกจำเป็นต้องดึงแคลเซียมจากคุณแม่เพื่อนำมาพัฒนาโครงสร้างและความแข็งแรงกระดูกของตนเอง ดังนั้น การเสริมแคลเซียมจึงอาจช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกของคุณแม่ตั้งท้องได้ โดยแคลเซียมอาจพบได้ในโยเกิร์ต นม นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้ ขนมปัง ซีเรียล ผักใบเขียวเข้ม ปลากระป๋องมีกระดูก ดังนั้น คนท้องจึงควรกินแคลเซียมเสริม ประมาณ 1,000-1,300 มิลลิกรัม/วัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง
- ไอโอดีน เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งดีต่อสุขภาพในระหว่างตั้งท้อง เนื่องจากการขาดไอโอดีนในระหว่างตั้งท้องอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด ภาวะแคระแกรน ความบกพร่องทางพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ หูหนวก โดยคุณแม่ตั้งท้องอาจเสริมไอโอดีนได้จากการกินอาหารทะเล ผักใบเขียว เกลือเสริมไอโอดีน ซึ่งคนท้องควรกินไอโอดีนเสริม ประมาณ 150 ไมโครกรัม/วัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง
- กรดไขมันโอเมก้า 3 โดยเฉพาะกรดไขมันดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA) และกรดไขมันอีพีเอ (Eicosapentaenoic หรือ EPA) ที่สามารถพบได้ในอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน พืชตระกูลถั่ว โดยกรดไขมันโอเมก้า 3 มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและสมองของทารก สุขภาพดวงตา รวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดและทารกน้ำหนักแรกเกิดต่ำ ดังนั้น จึงแนะนำให้คนท้องกินปลาทะเลที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เสริม อย่างน้อย 200 มิลลิกรัมต่อวัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง
- วิตามินดี อาจช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม ช่วยให้เส้นประสาท กล้ามเนื้อ และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ นอกจากนี้ ยังอาจช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟันของทารก โดยวิตามินดีอาจพบได้ในนม ปลาทะเล แสงแดด ดังนั้น คนท้องจึงควรกินวิตามินดีเสริม ประมาณ 15 ไมโครกรัม หรือ 600 หน่วยวัดมาตรฐานสากล (iu) ต่อวัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง
- วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และปกป้องเนื้อเยื่อจากการทำลายของอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น โดยสามารถเสริมวิตามินซีได้จากการกินผลไม้รสเปรี้ยว สตรอว์เบอร์รี่ มะละกอ มันฝรั่ง พริกหยวก ถั่วเขียว บร็อคโคลี่ มะเขือเทศ ดังนั้น คนท้องจึงควรกินวิตามินซีเสริม ประมาณ 80-85 มิลลิกรัม/วัน และไม่ควรเกิน 2000 มิลลิกรัม/วัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง
- สังกะสี อาจช่วยพัฒนาเซลล์สมองและส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในท้อง รวมถึงอาจช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของคุณแม่ตั้งท้องและเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย นอกจากนี้ สังกะสียังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด และช่วยสมานบาดแผลได้อีกด้วย โดยอาจเสริมสังกะสีได้จากการกินเนื้อแดง สัตว์ปีก ถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี ซีเรียล หอยนางรม ผลิตภัณฑ์จากนม ดังนั้น คนท้องจึงควรกินสังกะสีเสริม ประมาณ 11-13 มิลลิกรัม/วัน ไปจนตลอดการตั้งท้อง